ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 ตุลาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | ชายตาหาข้าวเปลือก |
เผยแพร่ |
ไปญี่ปุ่นมาคราวนี้ ได้สังเกตเห็นถึงความตั้งใจและความใส่ใจในการพัฒนาประเทศของเขามากขึ้น จนอยากให้ประเทศไทยของเราได้ไปดูงานแบบจริงจัง และเอามาทำให้ประเทศเราดีขึ้นจริงๆ
ญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นภูมิภาคต่างๆ เหมือนบ้านเรานี่แหละค่ะ เหนือ กลาง ใต้ ตะวันออก แต่ละภูมิภาคมีของดีของเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ อากาศ ความเป็นอยู่
ดังนั้น แต่ละภูมิภาคจะผลิตของออกมาไม่เหมือนกัน และเมื่อเจาะลงไปในแต่ละจังหวัดของภูมิภาคนั้น ก็มีของดีเฉพาะของตัวเองเข้าไปอีก
ล่าสุดฉันไปภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ซึ่งอยู่เหนือโตเกียวขึ้นไปแต่อยู่ล่างฮอกไกโด สามารถขับรถเที่ยวได้ด้วยตัวเอง และเวลานี้คือฤดูกาลของใบไม้เปลี่ยนสี ยิ่งทำให้การขับรถสนุกสนานเพลิดเพลินไปอีก
เวลาญี่ปุ่นจะโปรโมตของดีของเด่นอะไร เขาจะเริ่มตั้งแต่ที่สนามบินเลย ลงเครื่องมาเราจะรู้แล้วว่า เขามีอะไรที่เราไม่ควรพลาด ที่สนามบินเซนได (Sendai) ระหว่างรอกระเป๋า ฉันเห็นป้ายลูกชิ้นปลา แต่เป็นลูกชิ้นปลาแบนๆ เป็นรูปใบไม้ ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันจะไม่พลาดสิ่งนี้แน่นอน!
จังหวัดแรกที่เราไปคือ มิยากิ (Miyagi) และสิ่งที่ฉันได้เจอคือ ลูกชิ้นปลา และเขามีให้ลูกค้าชิมมากมาย เวลาให้ชิมก็ไม่ใช่อันเล็กอันน้อย แต่ตัดให้ครึ่งอันทีเดียว มีแบบใส่ชีสไว้ตรงกลาง ใส่ลิ้นวัวผสม หลากหลายเลยค่ะ เราก็ชิมกันอย่างเพลิดเพลิน และแน่อนว่า ซื้อกันมาอย่างคับคั่ง!
ทำให้ฉันต้องมีภาระดูแลลูกชิ้นปลาไปตลอดทริป เนื่องจากต้องแช่ตู้เย็น เมื่อถึงที่พัก สิ่งแรกที่ทำคือต้องรีบเอาลูกชิ้นปลาแช่ พอจะเช็กเอาต์ก็ห้ามลืมเอาออกมา และในที่สุดก็หอบหิ้วกลับมากินที่เมืองไทยได้สำเร็จ
เวลาญี่ปุ่นจะทำอะไรจริงจังเขามักมีความสนุกอยู่เสมอ บางครั้งมีมาสค็อตเป็นรูปตัวนั้นๆ ครั้งนี้มีไม้เสียบลูกชิ้นปลาให้ถือถ่ายรูป
ถ่ายไปก็เป็นการโปรโมตเขาไปด้วย
เดินทางไปที่โรงงานทำเกลือจากน้ำแร่ออนเซ็นที่ฟุกุชิมะ (Fukushima) ซึ่งขั้นตอนนั้นทำยากและได้ปริมาณเกลืออกมาน้อยกว่าการทำเกลือจากน้ำทะเล
แต่เนื่องจากจังหวัดเขาไม่ติดทะเล เขาเลยหาวิธีการทำเกลือซึ่งทำมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว
โรงงานเป็นโรงงานเล็ก ใช้คนผลิตกัน 5 คน ได้ออกมาวันละ 4-5 กิโลกรัมเท่านั้น ขายเป็นซองเล็กๆ 30 กรัม ตกเป็นเงินไทยประมาณ 130 บาท แต่ผลิตออกมาเท่าไหร่ก็ขายหมด แถมไม่พอขายด้วยซ้ำ
คนทำบอกว่า เกลือออนเซ็นจะมีแร่ธาตุมากกว่าเกลือปรกตินิดหน่อย (เขาพยายามถ่อมตัว) วิธีการก็ต้องใช้ความร้อนต้มน้ำออนเซ็นให้ระเหย เหลือแต่เกลือที่เป็นผง รอให้ตกตะกอนเป็นอาทิตย์ เอามาต้มอีก กรอง และใช้มือคัดแยกอะไรที่เป็นส่วนเกิน ให้เหลือแต่เกลือสีขาวบริสุทธิ์เท่านั้น
ซึ่งคนทำก็บอกด้วยความตลกว่า “บางทีก็อยากจะบ้าตายเหมือนกัน”
เกลือเหล่านี้จะถูกวางขายตามร้านค้าต่างๆ ในจังหวัดฟุกุชิมะ 90% นอกนั้นส่งไปโตเกียว โอซากา เรียกได้ว่าถ้าอยากได้จริงๆ ต้องมาซื้อถึงที่เขา
ฉันได้มาจากหน้าร้านเล็กๆ ที่โรงงานมาไม่กี่ถุง แอบเห็นข้างหลังกำลังแพ็กลงกล่องกันอยู่
และที่ฟุกุชิมะยังมีน้ำแร่ที่เป็นฟองอีกด้วย!
น้ำแร่ปรกติที่เราใช้ดื่ม เราก็พอเข้าใจ แต่นี่น้ำแร่จากธรรมชาติมีก๊าซอยู่ด้วย งงมาก
ทั้งประเทศมีอยู่ 2 ที่ คือที่ฟุกุชิมะกับอีกจังหวัดหนึ่งเท่านั้น เราไปดูถึงบ่อที่ขุดเจอเลยทีเดียว มองลงไปก็เห็นน้ำแร่แต่มีฟองบุ๋งๆๆ อยู่ เขาใช้กาผูกเชือกหย่อนลงไปในบ่อแล้วตักน้ำ สาวขึ้นมาให้เราดื่มสดๆ เลย
เออมันเป็นน้ำซ่าๆ แต่สดชื่น และพอเอามาผ่านกระบวนการต่างๆ ในโรงงานจนบรรจุขวดมันก็ได้รสชาติที่อร่อยมากขึ้น นายกฯ ญี่ปุ่นยังดื่มเลย (เห็นเขาถ่ายรูปมา) ราคาขายก็ไม่ได้แพงอะไร ราคาไม่ต่างจากน้ำแร่ปรกติ ก็วางขายในจังหวัด ส่วนคนไหนอยากดื่มก็สั่งทางไปรษณีย์เอา เขาก็ส่งให้
ฉันเดินทางไปหมู่บ้านเก่าแก่หลายร้อยปีชื่อ Ginzan Onsen ขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ไว้รักษาโรคและความงาม หมู่บ้านที่ถ่ายทำหนังเรื่องโอชิน และเวลาหิมะตกลงมาจะสวยมาก
หน้าหนาวจะถูกจองเต็มหมด ซึ่งต้องจองล่วงหน้ากันข้ามปีทีเดียว เพราะที่พักก็มีไม่มากเพราะเป็นเรียวกังเก่าแก่
ฉันเจอเจ้าหน้าที่สาวชาวญี่ปุ่นชื่อ “นาโอ” เธอยิ้มแย้ม กระตือรือร้น ที่สำคัญเธอเป็นคนทำแผนที่เมืองเป็นภาษาไทย ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนและพูดไม่ได้ฟังไม่ออก
เธอใช้วิธีให้เพื่อนคนไทยเขียนให้ดูแล้วเธอก็เขียนตาม เธอเขียนสวยด้วยนะคะ เพราะที่นี่คนไทยมาเยอะเหมือนกัน อยากให้คนไทยเข้าใจว่าร้านต่างๆ ที่นี่มีอะไรบ้าง ฉันนับถือความตั้งใจ ความพยายามของเธอมากๆ เธอใส่ใจในงาน รักในงาน วันหยุดแทบไม่มีเพราะเป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวของที่นี่
เธอดูรักและภาคภูมิใจกับหมู่บ้านที่เธอทำงานมากๆ เวลาพูดถึงอะไรแววตาเธอก็ดูมีความสุข
ฉันสังเกตแววตาของคนญี่ปุ่นในแต่ละที่ที่ไป พวกเขามีความสุข ภาคภูมิใจในสิ่งที่เขามี เขาอยู่ และยินดีที่จะนำเสนอมันออกมาแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเหมือนใคร
เราแค่หาตัวเราให้เจอ ชอบมันอย่างเข้าเส้น ลงมือทำด้วยจิตวิญญาณ
ฉันว่าประเทศไทยเราไม่แพ้ใครอยู่แล้ว…