โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู อาจเกิดที่ชายแดนใต้ | รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

 

โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู

อาจเกิดที่ชายแดนใต้

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและผู้อ่านทุกท่าน

โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภูปรากฏว่าภาคประชาสังคมชายแดนใต้หลากหลายองค์กรร่วมแสดงความเสียใจและเรียกร้องรัฐถอดบทเรียนสู่การแก้ปัญหา

7 ตุลาคม 2565 องค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้ เช่น สภาประชาสังคมชายแดนใต้ สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามสงขลา โรงเรียนต่างๆ สมาคมครูอิสลามศึกษา สมาคมฟ้าใส เป็นต้น

ร่วมเป็นกำลังใจและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวลูกๆ นักเรียน และครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์ศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู

ขอเป็นกำลังใจและร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ในขณะเดียวกันเรียกร้องรัฐถอดบทเรียนสู่การแก้ปัญหาโดยเฉพาะชายแดนภาคใต้มีปัจจัยเอื้อทั้งยาเสพติดและอาวุธมากกว่าที่อื่นของประเทศ

 

นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ/ชมรมแพทย์ชนบท เรียกร้องว่า “ขอให้สื่อทุกประเภทงดการสัมภาษณ์พ่อแม่ ครู ผู้ปกครอง อันจะเป็นการตอกย้ำบาดแผลในจิตใจให้ชอกช้ำลงไปอีก ส่วนสังคมไทยต้องก้าวเดินไปข้างหน้า ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันจัดการปัญหายาบ้า และจำกัดการถือครองอาวุธปืนอย่างจริงจัง”

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะอดีตรองผู้บังคับการกองปราบปราม และอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคนอื่นๆ สะท้อนตรงกันว่า

“ปัญหาหนึ่งของบ้านเราที่พูดกันมาตลอด คือเรายังไม่มีมาตรการควบคุมการมีอาวุธปืนที่ดีพอ ทั้งการครอบครอง และจำนวนการมีอาวุธปืนของคนในประเทศ เราไม่มีขีดจำกัด บางคนมีอาวุธปืนเป็นของสะสม เป็นสมบัติชนิดหนึ่งด้วยซ้ำ ทั้งยังไม่มีมาตรการการเก็บรักษา การดูแล”

เมื่อกลับมาดูชายแดนภาคใต้ น่าจะมีอาวุธมากที่สุด ทั้งหน่วยความมั่นคง ชรบ. กำนันผู้ใหญ่บ้าน ครู บุคลากรทางการศึกษา และอื่นๆ ที่ขออนุญาตถูกต้อง

นอกจากนี้ ยังมีอาวุธที่ไม่ถูกต้องอีกมากมาย หรืออาวุธที่ถูกต้องแต่เอาไปจำนำโดยเฉพาะวงการพนัน ดังที่เป็นข่าวดังมาแล้ว อาวุธที่มีในมือของคนในหน่วยความมั่นคงที่ประชาชนต้องผ่านนับร้อยด่าน

หากผู้รักษาด่านต่างๆ เหล่านั้นคลั่งควบคุมสติไม่ได้เพราะยาเสพติดที่ระบาดหนักที่ชายแดน หรือเครียดจากการทำงานในสนาม ความรุนแรงตลอดจะว่าอย่างไร คิดว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดหรือ?

 

ผศ.ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด นักวิชาการมุสลิมชื่อดังชายแดนใต้ เรียกร้อง “รัฐบาลต้องจัดการกับยาบ้าและยาเสพติดโดยเด็ดขาด เพื่อถอนรากถอนโคนต้นตอเหตุสลดประจำวันที่เกิดขึ้นขณะนี้ ถ้ายังเลือกพรรคที่อะลุ่มอล่วย ลดโทษยาเสพติด เสรียาเสพติด หรือเสรีอาวุธต่อไป ก็ต้องทำใจรับสภาพ”

เช่นเดียวกับทนายฮานาฟี หมีนเส็น สะท้อนว่า “โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู ทุกภาคส่วนต้องร่วมแก้ปัญหายาเสพติด”

“ถึงเวลาหรือยัง? อย่ารอให้เหตุการณ์ซ้ำรอยแล้วจึงเรียกร้อง ผมเชื่อว่าหลายครอบครัวรู้สึกปวดร้าวกับสภาพที่เป็นอยู่ของพี่น้องเราในประเด็นเรื่องยาเสพติด ที่พวกเราทุกคนจะต้องเอาครอบครัวกลับมา เอาลูกหลานกลับมาสู่อ้อมอกพ่อและแม่ เอาผู้นำครอบครัวกลับสู่อ้อมอกลูกๆ เอาญาติพี่น้องกลับสู่ครอบครัวเรา เอาเยาวชนกลับสู่อ้อมอกของสังคม

ร่วมหยุดยั้ง เอาครอบครัวออกจากสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย สู่สิ่งแวดล้อม ครอบครัวที่อบอุ่น ที่ห่างไกลยาเสพติดทุกประเภท”

 

สิ่งที่ทุกภาคส่วนกังวลคือสถาการณ์กระท่อมเสรีแล้วนโยบายกัญชาเสรีในเชิงประจักษ์ทำให้ปัญหายาเสพติดยิ่งระบาดที่ชายแดนใต้ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่กระแสค้านกัญชาเสรีจุดติดที่ภาคใต้

เป็นที่ทราบกันดีว่าเรื่องของ “น้ำกระท่อม” ที่ตั้งแต่มีการ “ปลด” พืชกระท่อมออกจากบัญชี “ยาเสพติด” ประเภท 5 วันนี้ในพื้นที่ของภาคใต้ มีการต้ม “น้ำกระท่อม” บรรจุขวด ที่ขายกันอย่างเสรี ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนหันมา “เสพน้ำกระท่อม” ทั้งในบ้าน ในรถยนต์ ต่างมี “น้ำกระท่อม” ไว้กินต่างน้ำ

ซึ่งก็ไม่รู้ว่า “น้ำกระท่อม” ที่ขายกัน “เกลื่อนกลาด” มีส่วนผสมของ “ยาแก้ไอ” และ “ใส่สาร” อื่นๆ ที่เรียกว่า “4 คูณ 100” หรือไม่อย่างไร

เพราะมีข้อสังเกตว่า ถ้าเป็น “น้ำกระท่อม” แบบ “เพียวๆ” ที่ไม่มีส่วนผสมของ “ยาแก้ไอ” ไม่เป็นที่นิยมของ “วัยรุ่น”

เรื่องนี้ฝากให้พงศธร ธรรมชาติ ผอ.ปปส.ภาค 9 คิดเป็น “การบ้าน” ว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร

รวมทั้ง พล.ต.ท.นันเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ก็ต้องคิดให้มากว่า ถ้า “สังคม” อุดมไปด้วย “ยาเสพติด” ภาคใต้จะเป็น “สังคมอุดมปัญญา” อย่างไร ที่สำคัญ “ซ้ายก็กัญชา” และ “ขวาก็น้ำกระท่อม” ในขณะที่ “ยาบ้า” ก็ยัง “เกลื่อน” ไปหมดในทุกพื้นที่ซึ่งเรา “ก้าวมายังจุดนี้แล้ว” และ “ก้าวต่อไป” จะทำอย่างไร ก็ฝากให้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้…

ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ หัวหน้าฝ่ายวิชาการสำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ได้สะท้อนถึงการสร้างสังคม ชุมชน จะเมืองหรือชนบทว่าต้องร่วมกันทุกองคาพยพ “ส่งเสริมความดี ห้ามปรามความชั่ว” โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ฝ่ายบริหารที่จะต้องสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อสิ่งดังกล่าว มิใช่เป็นตัวหนุนเสริมสร้างปัจจัยเอื้อต่อสิ่งที่ขัดทั้งคุณธรรม จริยธรรม เช่น เรื่องที่กำลังดังถกเถียงในบ้านเมืองของเรา “กระท่อม-กัญชาเสรี เป็นต้น” สัจธรรมข้อหนึ่งที่พระเจ้าทรงทำลายชุมชนใดชุมชนหนึ่ง เมืองใดเมืองหนึ่ง เพราะความชั่วของมนุษย์ ที่ไม่คอยยับยั้งความชั่ว มนุษย์เป็นแค่คนดีคนเดียวไม่ได้ ในศัพท์วิชาการใช้คำว่าสอและห์ ตราบใดสังคมรอบข้างเต็มไปด้วยอบายมุข ยาเสพติดและสิ่งเสพติดทุกชนิด เขาจะต้องลุกขึ้นมาเป็นมุสและห์ นักปกป้องชุมชน สังคม และนักพัฒนาไปในตัว

ท่านได้สะท้อนว่า “จะมีเมืองไหนให้หนีรอดภัยพิบัติได้”

อัลกุรอาน ซูรอฮ อัลอิสรออฺ : 58 ระบุว่า

ไม่มีเมืองใดที่จะไม่ถูกเราทลายก่อนวันสิ้นโลก หรือไม่ก็ถูกเราลงโทษอย่างรุนแรง

ปัจจุบัน เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญภัยพิบัติรุนแรงหรือคาดว่ามีภัยรออยู่ในอนาคตอันใกล้แทบทั้งสิ้น

แล้วถ้าต้องการหลีกเลี่ยงภัยพิบัติอันเป็นการลงโทษจากพระเจ้า เราควรทำอะไรบ้าง ณ เวลานี้?

ชายแดนใต้ก็เช่นกัน มิใช่จะต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมแบบหนองบัวลำภู แต่อาจมาจากโศกนาฏกรรมหลากหลายรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง