สถานีคิดเลขที่12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร | ใครจะ”คนละครึ่ง”กับตู่

สถานีคิดเลขที่12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

ใครจะ”คนละครึ่ง”กับตู่

 

โครงการ (เป็นผู้นำ)คนละครึ่ง นั้น

แน่นอน ฝ่ายที่ต้องการมากที่สุดคือ ฝั่งฟากที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประสงค์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจเต็มเพดาน ปี 2568 ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากวินิจฉัยไว้

ส่วนฝ่ายที่ไม่ต้องการ ก็ชัดเจนอยู่แล้ว คือปีกพรรคฝ่ายค้าน

แต่ที่เป็นคำถามอยู่ ก็คือ “คนกันเอง”

ตั้งแต่ใกล้ชิดกินข้าวร่วมหม้อกันมาอย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ไปจนถึงพรรคร่วมรัฐบาล อย่างภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์

เห็นด้วยกับการแบ่งอำนาจ คนละครึ่งหรือไม่

แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะเคยบอกว่าพลังประชารัฐ พร้อมจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตชิงนายกฯ

แต่ ครั้งนี้ แตกต่างๆไปจากครั้งที่แล้ว ที่พลังประชารัฐ จะไม่ได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว หากจะเสนอครบ 3 คน รวมถึงพล.อ.ประวิตร และอีกหนึ่งรายชื่อที่ยังไม่เปิดเผย

และไม่การันตีว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในบัญชีลำดับที่เท่าใด ให้ขึ้นอยู่กับความเห็นของกรรมการและส.ส.ของพรรค

ซึ่งปรากฏว่า วันแรกที่พล.อ.ประยุทธ์ กลับเข้ามาเป็นนายกฯ ก็มีเสียงจากนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ออกมาตีกัน สนั่นแวดวงการเมืองว่า หมายเลขหนึ่ง ไม่ใช่พล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว หากแต่เป็นพล.อ.ประวิตร

พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะกับการเป็นรองนายกฯหรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเท่านั้น

แม้ จะมีเสียงตอบโต้ จากคนใพลังประชารัฐที่ยืนอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์ ว่านั่นเป็นความเห็นของส.ส.คนเดียว ไม่ใช่มติพรรค

แต่ เสียงๆเดียวนี่แหละ มีแรงเขย่าตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐไปจนถึงทำเนียบรัฐบาลยิ่งนัก

ด้วยส่งผลให้เราได้เห็นปรากฏการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร แข่งกันลงพื้นที่คึกคัก

ซึ่งแลดูแล้ว เป็นการ”ประชันขันแข่ง”

มากกว่า เป็นการ”ช่วยกันทำงาน” แบบคนหนึ่งให้เป็นกองหน้า คนหนึ่งให้เป็นกองหลังเพื่อช่วยเกื้อหนุนกันประสาพี่น้อง3 ป. แต่อย่างใด

สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร คงไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่กับการแบ่ง ผู้นำคนละครึ่ง

และฝ่ายสนับสนุนพล.อ.ประวิตร ประเมินว่า ห้วงเวลานี้เป็นเวลาทองที่สุดแล้ว ที่ พล.อ.ประวิตรจะขึ้นเป็นผู้นำตัวจริงเสียงจริงเสียที การรอไปอีก 2-3 ปี ไม่เป็นผลดีใดๆ

แถมยังเปิดช่องให้ “เงื่อนไขแห่งความไม่แน่นอน”เบียดแทรกเข้ามาได้ตลอดเวลา

พรุ่งนี้จึงอาจสายไปสำหรับพล.อ.ประวิตร ลุยวันนี้เลยจะดีกว่า

หากบุญพาวาสนาถึง ก็อาจได้ครองอำนาจแบบครบเทอม 4 ปี ไม่ต้องแบ่งกับใคร

โครงการ(เป็นผู้นำ)คนละครึ่ง สำหรับพล.อ.ประวิตร จึงไม่น่าใช่ทางเลือก

ด้านคนกันเอง อย่างพรรคร่วมรัฐบาล เช่น ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ นั้น

ก็ชัดเจนว่าแต่ละพรรค ต่างชูหัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น

โดยเฉพาะภูมิใจไทย ไม่ได้ชูนายอนุทิน ชาญวีรกุล ตามหลักการเท่านั้น

ตรงกันข้าม กลับมากด้วยความฮึกเหิม

อย่างที่ครูใหญ่ทางการเมือง นายเนวิน ชิดชอบ ประกาศจะกวาด 120 ส.ส.เพื่อดันนายอนุทิน ขึ้นนายกฯในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ตอกย้ำว่า ภูมิใจไทย สู้เต็มตัว ไม่ ร่วมโครงการเป็นผู้นำคนละครึ่ง แน่

แม้จะมีสูตรพิสดารโผล่ขึ้นมา ทำนองว่า ภูมิใจไทย อาจจะสามัคคีอำนาจเดิม โดยให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต เพื่อนั่งนายกฯครึ่งเทอม แล้วค่อยให้นายอนุทินเป็นก็ตาม

แต่ดูแล้ว ไกลจาก ความเป็นไปได้ อย่างยิ่ง

เพราะถ้าภูมิใจไทยทำเข้าเป้าได้จริง ก็ไม่ควรรีรอที่จะให้นายอนุทินเป็นนายกฯ

จึงน่าสนใจและเป็นคำถามว่า ที่สุดแล้วพล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เงื่อนไขอะไรจูงใจให้มีผู้มาร่วมแชร์ “ผู้นำคนละครึ่ง”กับตนเอง

————-