วัดแรงสะเทือนตู่อยู่ต่อ! พลังประชารัฐส่อวงแตก เนวิน-ภท.ขยับเป้า 120 ส.ส. พท.โวแลนด์สไลด์กว่าเดิม

วัดแรงสะเทือนตู่อยู่ต่อ พลังประชารัฐส่อวงแตก เนวิน-ภท.ขยับเป้า 120 ส.ส. พท.โวแลนด์สไลด์กว่าเดิม

การได้กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี แม้จะสร้างความดีอกดีใจให้กลุ่มก้อนกองเชียร์

แต่อีกด้านก็สร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งในทางดีและไม่ดีให้กับบรรดาพรรคการเมืองไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน โดยเฉพาะในช่วงที่การเมืองมีความไม่แน่นอนสูง ว่าจะมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่เมื่อใด

แรงสะเทือนลงลึกถึงระดับ ส.ส.สมาชิกพรรค โดยเฉพาะพรรคที่เป็นนั่งร้านโดยตรงให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างพรรคพลังประชารัฐ

ที่อาจต้องประเมินสถานการณ์กันใหม่กับกระแสความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ หลังรอดคดี 8 ปี ภายใต้ประเด็นสำคัญว่าพรรคยังจะชูเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

เพราะถ้ายึดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่เริ่มนับวาระ 8 ปีวันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้ 6 เมษายน 2560 เท่ากับว่าจะไปสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2568 หากไม่นับช่วงหยุดปฏิบัติหน้าที่ นาน 38 วัน ก็จะไปสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2568 นับจากนี้เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง

ภายใต้เงื่อนไขนี้เอง จึงก่อให้เกิดคำถามสำคัญตามมาว่า ส.ส. สมาชิกพลังประชารัฐ พร้อมจะไปต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่

โดยไม่ต้องคิดไกลไปถึงการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า เอาแค่ใกล้ๆ ว่ามั่นใจจะไปต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่

หรือจะเคลื่อนย้ายอพยพไปต่อกับพรรคอื่น ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทั้งกระแสและกระสุน

(Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP)

เวลาคุยกันทุกคนก็ยังยืนยันว่าอยู่กับพรรค แต่เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ทุกคนจะได้เห็นว่าใครพร้อมก้าวเดินไปด้วยกัน หรือใครจะเดินไปในแนวทางอื่น ถือเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัว นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ระบุ

เช่นเดียวกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวว่า สิ่งที่เป็นข้อสังเกตได้หลังจากนี้ ในฐานะที่ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย

เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งพรรคการเมืองก็คงมีคนเข้า คนออก เป็นปรากฏการณ์การเมืองที่ปกติ

คำตอบของนายสุชาติ และนายจุรินทร์ เกิดขึ้นหลังมี ส.ส.พลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ เดินทางไปร่วมงานวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้ทรงอิทธิพลบารมีแห่งพรรคภูมิใจไทย ที่ จ.บุรีรัมย์ วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกเหนือจากนี้ยังมี ส.ส.เพื่อไทย ก้าวไกล พรรคเล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมดเกือบ 30 คน ที่คาดว่าบางส่วนอาจย้ายมาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า

ดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท, นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ, นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม, นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก, นายกฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี, นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี, นายประทวน สุทธิอํานวยเดช ส.ส.ลพบุรี และนายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี

พรรคเศรษฐกิจไทย นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก, นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ และนายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี

พรรคก้าวไกล นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี, นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย, นายพีรเดช คําสมุทร ส.ส.เชียงราย, นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคเพื่อไทย นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก, นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา, นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา, นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก, นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ, นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ, นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ, นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี และนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กรุงเทพฯ

ยังมี น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์, นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ, นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนา (กล้า) และนางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์

เจ้าของงานวันเกิดกล่าวกับ ส.ส.ต่างพรรค ที่มาร่วมอวยพรว่า

“ขอให้ทุกคนมีความสุขและชนะเลือกตั้ง ยินดีต้อนรับ ส.ส.ทุกคนที่จะเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยแล้วลงสนามเลือกตั้งไปด้วยกัน เป้าหมายอย่างที่หัวหน้าพรรคพูดไว้ต้อง 100 ขึ้น”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่

ปรากฏว่า นายเนวินกล่าวตอบแทนในทันทีว่า “มางานวันเกิด อย่าคิดมาก เดี๋ยวลุงเครียด มาวันเกิดผม ต้องขออนุญาตด้วยหรือ อย่างนายสุชาติ (ชมกลิ่น) ยังไปอวยพรวันเกิดนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นต้องขออนุญาตใคร ทำไมจะมาวันเกิดผมไม่ได้ อย่าคิดมาก”

นักข่าวแอบได้ยินนายเนวินพูดกับแกนนำพรรค “รอบหน้าให้ได้ 120 คน”

ในจำนวน 9 คนจากเพื่อไทยมี 7 คนถูกเรียกเป็นงูเห่าหน้าเดิม กับ 2 คนที่เพิ่งเปิดตัวคือ นายนพ ชีวานันท์ ส.ส.อยุธยา กับนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กรุงเทพฯ

5 คนพรรคก้าวไกล เป็นงูเห่าเจ้าเดิมทั้งหมด

ประชาธิปัตย์ มี ส.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี ที่ได้กล่าวว่า วันนี้มาร่วมงานวันเกิดนายเนวิน ส่วนจะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ จะมีความชัดเจนหลังสภาครบวาระ อนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันหลังยุบสภา

พรรคเศรษฐกิจไทยของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มี ส.ส. 3 คนโผล่ไปร่วมงาน ขณะที่พรรคนัดจัดประชุมใหญ่วันที่ 10 ตุลาคมนี้ เพื่อหารือปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ปรับเปลี่ยนโลโก้พรรค และอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง

ส่วนกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส และ ส.ส.บางส่วนจะย้ายกลับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ก็ไปอยู่กับเพื่อไทย นั้น

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า เราจะย้ายไปอยู่ที่ไหนกับใครหรือปรับโครงสร้างอย่างไร ต้องรอดูการประชุมพรรควันที่ 10 ตุลาคมนี้ก่อน

ยอมรับว่ามี 3 แนวทาง คือ แนวทางแรก พรรคเศรษฐกิจไทยยังขับเคลื่อนไปต่อ

แนวทางที่สอง หากจะกลับไปอยู่พลังประชารัฐต้องพิจารณาเงื่อนไขหลายอย่าง ที่สำคัญหากพลังประชารัฐยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คงไม่สามารถกลับไปได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เหลือเวลาทำงานแค่ปี 2568

ส่วนแนวทางที่สาม หากจะไปอยู่เพื่อไทยก็ต้องพูดคุยกัน ให้รอดูการประชุมใหญ่ว่าจะออกมาแนวทางใด

(Photo by Handout / ROYAL THAI GOVERNMENT / AFP)

ข้อน่าสังเกต แนวทางที่สองของพรรคเศรษฐกิจไทย สอดรับกรณีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ว่าจะเสนอรายชื่อครบ 3 คน

ทั้งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ส่วนอีกคนกำลังพิจารณา

แต่เมื่อถึงตอนเสนอชื่อโหวตในรัฐสภา ต้องเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อได้แค่ 2 ปี โดยอาจให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นรองนายกฯ หรือ รมว.กลาโหม

“สมัยหน้าเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมี ส.ว.มาช่วยสนับสนุน ดังนั้น ต้องดันลุงป้อม เป็นนายกฯ ส่วนลุงตู่ไปเป็นรองนายกฯ หรือ รมว.กลาโหม หรือโยกเป็น รมว.มหาดไทยก็ได้” นายวีระกรกล่าว

หันมาดูฝั่งพรรคเพื่อไทย คู่ปรับ พล.อ.ประยุทธ์ และพลังประชารัฐ ยังครองตำแหน่งพรรคยอดนิยมอันดับหนึ่ง 3 ครั้งซ้อนในปี 2565 จากการสำรวจของนิด้าโพลรอบเดือนมีนาคม มิถุนายน และกันยายน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแสดงความมั่นใจว่า การที่ศาลวินิจฉัยให้ความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จะเป็นผลดีกับการรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทยอย่างมาก

เพราะสิ่งที่พรรคได้กระแสตอบรับจากประชาชนเรื่องแลนด์สไลด์ เหตุผลหลักเรื่องหนึ่งคือวิกฤตที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างขึ้น เป็นผลจากการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพ ทำให้ประชาชนเจอวิกฤตหลายด้าน

การอยู่ต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงทำให้เงื่อนไขเหล่านี้ดำรงอยู่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเพื่อไทยในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทำให้พรรคมีโอกาสแลนด์สไลด์มากขึ้น

เป็นไปในแนวทางเดียวกับที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ประเมินไว้ก่อนมีคำวินิจฉัยศาลว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์รอด อยู่ต่อได้ สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะเป็นเหมือนหัวคะแนนหลักของพรรคเพื่อไทย

อยู่นานเท่าไร เพื่อไทยก็เข้าใกล้แลนด์สไลด์เท่านั้น

(Photo by Handout / ROYAL THAI GOVERNMENT / AFP)

บทสรุป การ “คัมแบ๊ก” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นผลดีเฉพาะแต่กับตัวเอง แม้อยู่ต่อได้ แต่ก็ไปต่อไม่ได้

เป็นนายกฯ 8 ปี ประเทศถดถอยทุกด้าน ผลเสียหายจึงเกิดกับพลังประชารัฐ “นั่งร้าน” ตัวหลักอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ส.ส.ในพรรคที่มีอยู่หลายกลุ่มก้อนเริ่มเอาใจออกห่าง เตรียมย้ายพรรค ที่อยู่ปักหลักก็ขัดแย้งในแนวคิดจะเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ 1 ชื่อ 2 ชื่อหรือ 3 ชื่อ

หากยังฝืนลากสังขาร พล.อ.ประยุทธ์ พรรคจะไปต่อไหวหรือไม่

ความสัมพันธ์ 3 ป.ก็คลายเกลียว ไม่เหนียวแน่นเหมือนก่อน คะแนนนิยมส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถูกผลาญใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง และน่าจะตกต่ำลงไปอีกหลังคำวินิจฉัยคดี 8 ปี

จากนี้จึงอยู่ที่เพื่อไทย ก้าวไกลหรือแม้แต่ภูมิใจไทย จะแปรวิกฤตพลังประชารัฐอันสืบเนื่องมาจาก พล.อ.ประยุทธ์

ให้เป็นโอกาสของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง