ฟ้า พูลวรลักษณ์ : เล่นโจทย์ง่าย-หลีกเลี่ยงโจทย์ยาก

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๙๒)

ในโลกนี้มีคนที่ชอบเล่นกับโจทย์ง่าย และหลีกเลี่ยงโจทย์ยาก คนแบบนี้ฉันไม่นับถือ

ฉันยกตัวอย่างสองคน

๑ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

๒ ออง ซาน ซูจี

คนแรก ฉันเชื่อว่าเขาเป็นคนดี เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการขจัดความเข้าใจผิด ความงมงายของชาวบ้าน แต่ที่ฉันไม่นับถือ เพราะเขาชอบเล่นโจทย์ง่าย หลีกเลี่ยงโจทย์ยาก

ยกตัวอย่างเช่น วันที่เขาต้องการพิสูจน์ความไม่จริงของบั้งไฟพญานาค เขาลงทุนไปพิสูจน์ว่าแสงไฟที่พวยพุ่งสู่ฟ้า จากอีกฟากฝั่งของลำน้ำโขง เกิดจากคนยิงพลุ หรือปืน หรืออะไรก็ช่าง ที่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฉันไม่แปลกใจ เพราะมันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย

ปรากฏการณ์โด่งดังของบั้งไฟพญานาค ย่อมทำให้มีคนอยากมาผสมโรง เกิดความคึกคะนอง เป็นการง่ายที่ทหารลาว หรือชาวบ้านบางกลุ่มจะมาร่วมทำโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่มันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย เพราะความเร้นลับของบั้งไฟพญานาค ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้

เพื่อนสนิทของฉัน เคยเห็นลูกไฟพวยพุ่งขึ้นจากน้ำ ในระยะห่างจากตัวเธอเพียงไม่กี่เมตร เธอเป็นชาวบ้าน ที่ซื่อๆ ไม่มีเหตุผลใดที่จะโกหก และคบกับฉันมานานปี เธอเคยเห็นอย่างน้อยสองครั้ง เธอชอบไปดูเกือบทุกปี บางปีก็เห็น บางปีก็ไม่เห็น บางครั้งก็เห็นแต่ไกล ซึ่งไม่ได้ยืนยันอะไร

แต่ที่เห็นใกล้ๆ สองครั้งนั้น ประทับใจเธอมาก

ฉันอยู่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ตราบใดที่ฉันพิสูจน์ไม่ได้ ฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี

แต่ความเร้นลับแบบนี้ ฉันก็ไม่กล้าเพิกเฉย หรือตัดบท ฉันถือว่านี้คือโจทย์ยาก การพิสูจน์ต้องพิสูจน์สิ่งนี้ ลูกไฟที่พวยพุ่งจากลำน้ำที่อยู่ห่างตัวคุณไม่กี่เมตร หากคุณหาไม่เจอ ก็ช่วยไม่ได้ เพราะมีชาวบ้านที่เคยเห็น คุณต้องรอนานกว่านี้ หากรอเท่าไรก็ไม่เห็น ซึ่งเป็นไปได้ ก็ยอมรับว่า ยังไม่ได้พิสูจน์

แต่การพิสูจน์สิ่งที่ง่าย ไกลตัว เหมือนจับขโมยตัวเล็ก ไม่แตะต้องขโมยตัวใหญ่ ฉันรู้สึกไม่น่านับถือ ในโลกมีสิ่งเร้นลับมากมาย ซึ่งขอบอกก่อนว่า ฉันอยู่ฝ่ายไม่เชื่อ และอยากเห็นคนมาพิสูจน์ แม้จะไม่ได้หมด ขอสักข้อสองข้อก็ยังดี

แต่นี่มันมีค่าเท่ากับศูนย์ เพราะขโมยที่จับได้ ช่างตัวเล็กเหลือเกิน

คิดง่ายๆ เช่น พระธาตุ มันเป็นความเร้นลับ ที่ฉันไม่เข้าใจ ไม่ต้องไปที่ไหนไกล น้องสาวของฉัน ที่บ้านของเธอมีพระธาตุเก็บในผอบแก้ว ที่จากหนึ่งองค์ สามารถกลายเป็นหลายสิบองค์ได้ มันมาได้อย่างไร

คนเชื่อบอกว่านี่คือเอกลักษณ์ของพระธาตุ มันเพิ่มจำนวนได้ หรือหายไปได้ ด้วยบุญบารมี หรืออะไรก็ช่าง

ฉันสงสัยว่าสสารจะเกิดขึ้นเองได้อย่างไร ในเมื่อมันเป็นก้อนหิน ก้อนกรวด ไม่น่าระเหิดหาย หรือเกิดขึ้นได้ในอากาศ

ฉันไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ แต่ก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน อยากเห็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีเครื่องมือ ช่วยวิเคราะห์สสารชนิดนี้ มันไม่น่าเกินแรงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ งานวิจัยที่ได้มา จะเป็นประโยชน์ ใช้ได้ในสากล ไม่ว่าคำตอบจะเป็นบวกหรือลบ

คำตอบไม่ได้ลบหลู่หรือลบล้างศาสนา เพราะแก่นของพุทธศาสนา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้เลย พุทธศาสนาเป็นเรื่องของการเข้าใจชีวิต การทำความดี และการพ้นทุกข์ ปาฏิหาริย์เหล่านี้ เป็นเพียงไม้ประดับ อาจดีหรือไม่ดีก็ได้ อาจจำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ได้ ที่สำคัญคือ มันยังเป็นความเร้นลับ ที่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์

แต่มันไม่เหมือนลูกไฟในลำน้ำโขง ที่หลายคนอาจหาไม่เจอ แม้จะนั่งรอเป็นปี สิ่งนี้เอาเข้าห้องแล็ป ทดสอบได้ ทำไมคุณไม่เล่นโจทย์ยาก ซึ่งจะตอบคำถามได้มากมาย มีประโยชน์ต่อสังคม หรือคุณเชื่อในพระธาตุ แต่ถ้าคุณเชื่อในพระธาตุ แล้วทำไมคุณจะไม่เชื่อในพญานาค มันต่างกันตรงไหน ความเร้นลับเหล่านี้ เกาะกันเป็นกลุ่ม

ถ้าพระธาตุจริง พญานาคก็น่าจะเป็นจริง ผีก็น่าจะจริง นางไม้ก็น่าจะจริงด้วย หรือเราจะแยกว่าอันหนึ่งจริง อันหนึ่งไม่จริง เราจะแยกยังไง

ระบอบประชาธิปไตย มีคุณสมบัติหนึ่งซึ่งฉันชอบมาก กล่าวคือ ใครที่เป็นรัฐบาล จะมีอำนาจ แต่ตกเป็นรองในทางการเมือง เพราะจะถูกจับผิด และปัญหาของประเทศทุกอย่าง ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ก็จะตกอยู่ในความรับผิดชอบของพวกเขา ปัญหาเหล่านั้น ย่อมมีบางข้อหนัก จนแบกไม่ไหว ดังนั้น คนมีอำนาจ ไม่ช้าก็ต้องหมดอำนาจ

ฝ่ายค้านไม่มีอำนาจ แต่กลับได้เปรียบทางการเมือง พวกเขาสามารถคอยจับผิด คนจับผิด เหมือนคนดูบอล ย่อมนั่งสบาย วิเคราะห์วิจารณ์ได้ง่าย เดือนนี้ไม่มีเรื่อง เดือนหน้าก็ต้องมี

ด้วยเหตุนี้เอง ในระบอบประชาธิปไตย จึงไม่มีใครมีอำนาจได้นาน มันเป็นความแฟร์ของระบอบ

ฉันคิดว่า ออง ซาน ซูจี เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ครั้งหนึ่งเธอเป็นฝ่ายค้าน ถูกกักขัง หน่วงเหนี่ยว และตกอยู่ในอันตราย เหมือนลูกแกะรอให้เขาเชือด

แต่ในทางการเมือง เธอกลับมีพลัง กลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวเมียนมา ยิ่งโดนรังแก เธอยิ่งได้คะแนนความรัก ความสงสาร และยิ่งเพราะชาวบ้านตาดำๆ ถูกกดขี่มาช้านาน ก็ยิ่งเห็นเธอเป็นวีรสตรีของพวกเขา มันกลับกัน เธอยิ่งถูกกักขังนาน พลังทางการเมืองยิ่งเพิ่ม

Myanmar’s State Counsellor Aung San Suu Kyi delivers a national address in Naypyidaw on September 19, 2017.
Aung San Suu Kyi said on September 19 she “feels deeply” for the suffering of “all people” caught up in conflict scorching through Rakhine state, her first comments on a crisis that also mentioned Muslims displaced by violence. / AFP PHOTO / Ye Aung THU

เหตุผลทางการเมืองทำให้เธอได้โนเบลไพรซ์ สาขาสันติภาพ ชาวโลกสงสารเธอ และกลัวเธอถูกทำร้าย รางวัลนี้ อย่างน้อยก็เป็นเกราะอ่อนๆ ปกป้องเธอ

แต่ที่จริง เธอยังไม่ได้พิสูจน์ว่าตัวเองมีความสามารถอะไร เธอเป็นเพียงคนธรรมดา ที่เหตุการณ์ทำให้กลายเป็นวีรสตรี แม้เธอต้องใช้ความกล้าหาญ ความอดทนไม่น้อย ความดีที่เกิดจากเหตุการณ์เป็นความดีอีกแบบกับความสามารถ

วันที่เธอเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ คือวันที่เธอต้องพิสูจน์ความสามารถ แต่สังเกตเธอหลีกเลี่ยงโจทย์ยาก มันแสดงว่าเธอไม่ใช่รัฐบุรุษ มันพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่คนเก่ง วันนี้เธอเป็นรัฐบาล เธอกำลังเสียเปรียบทางการเมือง ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่เคยหนุนเธอให้ลอยเด่น ก็กำลังตีกระหน่ำเธอ มันก็ยุติธรรมดี

โจทย์ยาก คือปัญหาของชาวโรฮิงญา หากเธอเป็นรัฐบุรุษ เธอต้องมองออกว่านี่คือวิกฤตการณ์ของประเทศเมียนมา มันต้องเกิดขึ้นแน่ ไม่ช้าก็เร็ว เหมือนมหาวายุ ที่ใกล้เข้ามา จะขึ้นบกวันไหนเท่านั้นเอง

ทุกประเทศจะมีปัญหา และนี่เป็นวิบากกรรมของประเทศนี้

มันเป็นปัญหาที่ต้องยอมรับก่อนแต่แรกว่านี่คือปัญหา และเป็นปัญหาใหญ่ ที่ต้องใช้พลังและความละเอียดอ่อนในการแก้ และต้องทำแต่เนิ่นๆ เรียกว่าตั้งแต่วันแรกที่เธอรับตำแหน่ง เธอก็ต้องศึกษา และวางรากฐาน การที่เธอไม่ทำ แสดงว่าเธอปล่อยให้พายุนี้มาถึงก่อนค่อยแก้ แต่เมื่อถึงวันนั้นก็จะแก้ไม่ได้แล้ว

ฉันเข้าใจว่าชาวเมียนมาไม่ชอบคนโรฮิงญา ด้วยเพราะความเห็นแก่ตัว กลัวพวกเขาจะมาเป็นภาระของประเทศ กลัวคนเหล่านี้มาแย่งที่ทำกิน และยิ่งเพราะชาวโรฮิงญาเป็นมุสลิม ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ

ที่จริงประเทศเมียนมา ประกอบด้วยคนหลายสิบเผ่า มีทั้งไทใหญ่ มอญ ยะไข่ ชาวเขาอีกมากมาย เรียกว่านับไม่หวาดไม่ไหว ที่อยู่ร่วมกันได้ เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนเกิดความเคยชิน

หากคิดเช่นนี้ การยอมรับชาวโรฮิงญาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เช่นเดียวกับอีกหลายสิบเผ่า ก็ไม่แปลกอะไร เพียงแต่การสร้างความเคยชิน การสังเคราะห์เข้ามา ต้องใช้เวลา และขั้นตอน

ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐ ต้องวางแผน เช่น กำหนดเริ่มต้นให้ชาวโรฮิงญามีบัตรประชาชนของเมียนมา ให้มีสิทธิในการเลือกตั้ง มีตำบลที่อยู่ เสียภาษี มันเป็นงานยาก เพราะฝืนประชามติ

แต่ด้วยความเป็นผู้นำ การเข้ามาอย่างเป็นที่รักอย่างที่สุด และหากทำอย่างละมุนละไม ทีละน้อย เธอจะทำให้มหาพายุนี้ค่อยๆ อ่อนแรงลง นี่คือผลงานชิ้นสุดยอด เธอจะทำให้เมียนมาไม่ต้องทำบาปกรรมครั้งใหญ่ และเป็นการช่วยชีวิตชาวโรฮิงญาที่น่าสงสารนับแสน มันคืองานของคนที่สมควรได้โนเบลไพรซ์สาขาสันติภาพจริงๆ เธอจะเป็นที่รักยิ่งของชาวโรฮิงญา ดุจมารดา

ชาวเมียนมาอาจไม่พอใจ แต่ในระยะยาวก็จะเห็นว่านี่คือการมองการณ์ไกล เป็นงานของผู้นำที่แท้จริง

สมมติคนรอบข้างไม่เห็นด้วย ชาวบ้านไม่ยอม เธอก็ลาออกได้ อย่างน้อยเธอก็แสดงให้เห็นจิตสำนึกที่ถูกต้อง และสร้างความละอายให้กับคนอื่นๆ ได้ อำนาจและตำแหน่งที่ได้มาเพื่อบังคับให้ต้องทำในสิ่งผิด สู้อย่ามีจะดีกว่า หากเธอตัดสินใจเช่นนี้ เธอคือรัฐบุรุษ

แต่เธอเลือกเล่นโจทย์ง่าย และหลีกเลี่ยงโจทย์ยาก

หลับตา เหมือนหนึ่งว่า ไม่ช้าพายุนี้ก็จะหายไปเอง แต่มันไม่ใช่ ปัญหาของชาวโรฮิงญา มันไม่อาจหายไปเองได้ ปัญหาชีวิตคนหลายแสนคนไม่อาจหายไปได้ในอากาศ

วันนี้สายเกินไปแล้ว เพราะบาปนี้ได้กระทำแล้ว มือของชาวเมียนมาได้เปื้อนเลือดแล้ว ความแค้นได้ปรากฏ และชาวโลกก็ไม่พอใจอย่างแรง ที่น่ากลัวคือ นี่เป็นคดีที่ร้ายแรงที่สุดในโลกปัจจุบัน ข้อหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายที่สุด ระดับต้องขึ้นศาลโลก

ไม่น่าเชื่อ วีรสตรีผู้ได้รางวัลสูงสุดในทางสันติภาพ อาจกลับต้องขึ้นศาลโลก ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์