ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 กันยายน - 6 ตุลาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ครัวอยู่ที่ใจ |
เผยแพร่ |
ครัวอยู่ที่ใจ
อุรุดา โควินท์
ทางรอดอยู่ในครัว
: ข้าวผัดแยกส่วน
เราช่วยกันคิดหลายวัน ว่าจะทำอย่างไรกับบ้านของแม่ ซึ่งตอนนี้เป็นบ้านของเรา อาจเป็นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึก- มันเป็นบ้านของแม่อย่างแท้จริง ไม่ใช่บ้านของครอบครัว ฉันไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับบ้านหลังนี้นัก หากนับเวลาทั้งหมดที่ฉันเคยนอนในบ้านของแม่ก็คงไม่ถึงหนึ่งปี
แม่สร้างบ้านหลังนี้ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ ฉันเดินทางไปอยู่หลายจังหวัด หลายภาค ยกเว้นจังหวัดเชียงราย ไม่ใช่ฉันไม่อยากกลับมาอยู่บ้าน ฉันแค่คิด- รู้สึก เราต่างมีอาณาเขตส่วนตัวมานานจนไม่พร้อมจะแบ่งปันพื้นที่ให้กัน
แม่ไม่อยากให้ฉันเปลี่ยนแปลงบ้าน หากฉันจะเข้าอยู่ ส่วนฉัน ก็ไม่สะดวกใจที่จะอยู่สถานที่ซึ่งไม่มีกลิ่นอายของฉัน
แต่ไหนแต่ไร ฉันทำทุกแห่งหนที่เช่าอยู่ อาศัยอยู่ ให้เป็นรวงรังซึ่งสะท้อนความเป็นฉัน
กระทั่งแม่แก่ตัวลง และเริ่มป่วย ต้องมีลูกสักคนอยู่ใกล้ อย่างน้อย เพื่อชีวิตช่วงสุดท้ายของแม่ไม่โดดเดี่ยว น้องสาวจึงขอให้ฉันกลับมาอยู่บ้าน ฉันรับปากเธอ เพราะเป็นพี่และลูกสาวคนโต แม้สายใยครอบครัวไม่แน่นหนานัก แต่ฉันไม่อาจเป็นอิสระโดยแท้จริง
ฉันอยู่โดยมีครัวของฉัน มีห้องทำงานเล็กๆ ของฉัน และปรับปรุงโรงรถของแม่ไว้นอน ฉันคิดว่า เราน่าจะอยู่กันแบบนี้ไปอีกหลายปี ฉันเริ่มชินกับความป่วยไข้และอารมณ์ของแม่ ฉันเรียนรู้ที่จะปล่อยทุกอย่างไป หากฉันไม่อาจควบคุมหรือแก้ไข
อย่างสั้นๆ เรา ฉัน คนรัก และหมาฮุ่ง อยู่กับแม่ได้อย่างราบรื่น เท่าที่มันควรจะเป็น
ฉันบอกคนรักของฉันว่า ฉันดีใจที่ตัดสินใจถูกต้อง เราเผชิญกับปัญหามากมายในสามปีที่ผ่านมา แน่นอน เราเหนื่อย และหนัก (ใจ) ซึ่งทุกอย่างจะเบาลง เพียงแค่เราย้ายออก แต่ฉันยืนยันที่จะอยู่ เพราะอยากแน่ใจว่าฉันได้เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อมองย้อนกลับไป สามปีที่เราอยู่ใกล้แม่ฉันเติบโตขึ้นมาก ฉันเรียนรู้ว่า ฉันสามารถสงบได้ ฉันเป็นผู้ใหญ่ได้อีก ฉันอดทนได้มากกว่าที่เคย และฉันมีแรงมากกว่าที่คิด
ฉันได้ใช้เรี่ยวแรงมหาศาลในสามปีที่ผ่านมา นั่นทำให้ฉันหยุดคิด ว่าควรลงแรงกับบ้านหลังนี้หรือไม่
เมื่อเราได้บ้านมา ก็มีสองหนทาง เราจะอยู่ หรือไม่อยู่ เพราะหากพูดตามจริง บ้านไม่ใช่เหตุผลที่เราอยู่ที่นี่
เรื่องขายเราไม่เคยคิด แต่เราจะอยู่บ้านโรงรถแยกส่วนหลังเดิม หรือเขาจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ถ้าอยู่ เราต้องปรับให้เป็นบ้านของเรา ถ้าไม่อยู่ เราค่อยคิดว่าจะทำอย่างไร มีหลายทางเลือก เช่น ให้เช่า หรือปรับเพื่อทำธุรกิจอื่น
“ถ้าเราอยู่ได้แบบไม่ต้องทำอะไรเลยก็ดีสินะ แค่เก็บข้าวของ กวาดถู เข้าอยู่” เขาว่า
“คงได้หรอก แม้แต่ข้าวผัด พูก็ยังมีวิธีผัดของพู บ้านที่พูใช้เป็นที่ทำงาน ที่พักผ่อน ห้องที่พูจะลืมตาตื่นมาดูพรุ่งนี้ ก็ต้องมีบรรยากาศของพู ที่สำคัญนี่คือบ้านอายุกว่าสามสิบปีนะ”
เขาหัวเราะ “งั้นก็ถูกต้องแล้ว ที่เราจะเหนื่อยกันอีกรอบ สนุกด้วย เพราะพื้นที่เยอะดี”
ฉันดีใจที่เขานึกสนุก เพราะไหนๆ เราก็ตัดสินใจไปแล้ว จะลุยกันแล้ว ควรเดินหน้าด้วยความคึกคักระดับสิบ
มันก็คล้ายการทำข้าวผัดกุ้งจานนี้ ข้าวผัดกุ้งแบบที่เราชอบกิน แต่คนอื่นอาจไม่ชอบ เป็นจานที่ดูธรรมดา แต่ฉันไม่ได้ทำอย่างง่ายดายนัก มีหลายเรื่องที่ต้องลงรายละเอียด โดยเฉพาะในการเสิร์ฟ
ฉันไม่ชอบเสิร์ฟข้าวผัดเป็นอาหารจานเดียว ที่มีหัวจานเป็นผักใบเขียวสองใบ แตงกวาสี่ห้าชิ้น และมีถ้วยพริกน้ำปลาเบียดมาในจานข้าว
ฉันชอบพริกน้ำปลาถ้วยโต ที่มีพริกขี้หนูสวนซอยหลายๆ สี กระเทียมซอยมากๆ หอมแดงซอยนิดหน่อย บีบมะนาวให้อมเปรี้ยว และฝานมะนาวลอยหน้าทั้งเปลือกสักสองชิ้น
ผักต้องมาอีกจาน แบบยกมาทั้งตู้เย็น มีอะไรก็เอามากินกับข้าวผัดได้
และข้าวผัดตักลงจานเปลใหญ่ ให้เราตักใส่จานแบ่งกิน ไม่รู้สิ ด้วยวิธีนี้ ฉันรู้สึกว่าข้าวผัดอร่อยขึ้นทั้งไม่ใช่อาหารสิ้นคิดอย่างที่ใครๆ คิด
ฉันทำข้าวผัดจากข้าวเย็นเท่านั้น เป็นข้าวก้นหม้อที่เราเก็บไว้ในตู้เย็น ใครว่าข้าวหอมมะลิใหม่ผัดแล้วแฉะ ฉันอยากท้าให้เอาข้าวแช่ตู้เย็นไว้สักคืนค่อยเอามาผัด
เอาข้าวออกจากตู้เย็นใส่ถ้วยใบใหญ่ ไม่มาก สองที่ ใช้ข้าวถ้วยครึ่งก็พอ เราไม่เน้นข้าว เน้นกุ้งกับผัก
ปรุงรสข้าวเสียเลย เพื่อความรวดเร็วตอนผัด หยอดน้ำมันหอยนิด ซีอิ๊วขาวหน่อย เกลือ น้ำตาลทราย ลงในถ้วยข้าว
เรามักเจอข้าวผัดกุ้งที่ใส่แต่ต้นหอม แต่ฉันใส่ทั้งคะน้า มะเขือเทศเนื้อ และหอมหัวใหญ่ ตัดต้นหอมออก แต่จัดต้นหอมไว้ในจานผักรวมกับผักอื่น แช่รอในตู้เย็น
คะน้าเลือกที่ไม่แก่ มะเขือเทศเนื้อ ใช้แต่เนื้อ ไม่เอาไส้ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนหอมหัวใหญ่ หั่นบางๆ
ฉันแยกผักไว้ในถ้วยเล็ก เพราะผักสุกไม่พร้อมกัน ควรลงกระทะทีละชนิด
กุ้งเลือกตัวใหญ่ ไม่กินหัว ผ่าดึงเส้นหลังออก และใส่ในปริมาณที่ไม่ต้องถามว่านี่คือข้าวผัดอะไร ตักตรงไหนก็เจอกุ้ง
ไข่ใช้สามฟอง ตั้งกระทะ ใช้น้ำมันน้อยๆ พอกระทะร้อน ใส่ไข่ลงไป คลุกหยาบๆ จนกระทั่งไข่สุก แล้วตักไข่ใส่ถ้วยไว้
กว่าจะได้ข้าวผัดจานเปลหนึ่งจาน ฉันใช้ถ้วยใบเล็กในการเตรียมวัตถุดิบหลายใบ
กับกุ้ง ฉันรวนให้สุกก่อน แล้วตักกุ้งพักไว้
ตั้งกระทะใบเดิม น้ำมันน้อยๆ ใช้ไฟแรง ให้กระทะร้อนฉ่า ทุบกระเทียมใส่ในชามข้าว เอาข้าวลงกระทะก่อน คนสองที ตามด้วยคะน้า เพราะคะน้าสุกยากกว่าอย่างอื่น ต่อไปก็เป็นไข่ หอมหัวใหญ่ และมะเขือเทศ กับมะเขือเทศอย่าปล่อยให้เจอไฟนาน มันจะเละ ผัดทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ให้ร้อน แล้วจึงลงกุ้งท้ายสุด คนอีกสองสามที ก็ปิดเตา
กุ้งยังเด้ง สมกับที่เป็นข้าวผัดกุ้ง และเราได้กินผักมากมายสมใจ นี่ล่ะข้าวผัดกุ้งแบบแยกส่วนของฉัน •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022