เจาะลึก ‘ฟอร์ด มัสแตง’ เจน 7 สานตำนานยอดรถ ‘สปอร์ตคูเป้’ / ยานยนต์ สุดสัปดาห์ : สันติ จิรพรพนิต

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

เจาะลึก ‘ฟอร์ด มัสแตง’ เจน 7

สานตำนานยอดรถ ‘สปอร์ตคูเป้’

 

“ฟอร์ด มัสแตง” หนึ่งในยอดรถที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่า 60 ปี โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นมีกะตังค์ ยิ่งกับคนอเมริกัน ฟอร์ด มัสแตง แทบจะเป็นรถในฝันเลยก็ว่าได้

ถือเป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่ขายดีที่สุดระดับโลกถึง 7 ปีซ้อน

ล่าสุดฟอร์ดอวดโฉม “มัสแตง” เจเนอเรชั่นที่ 7

เรียกเสียงฮือฮาพอสมควร เนื่องจากปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยแต่คงความคลาสสิค

มีตัวถังหลายแบบให้เลือก รวมถึงรุ่นเปิดประทุน ขณะที่เครื่องยนต์มี 2 บล็อกหลักๆ

คนไทยเองน่าจะคุ้นเคยกับสปอร์ตคูเป้รุ่นนี้ เพราะฟอร์ดนำเข้ามาทำตลาดด้วย

ผมเองเคยทดสอบขับ ยอมรับว่าประทับใจทั้งความแรง ความโฉบเฉี่ยว และเป็นที่สะดุดตาบนท้องถนนจริงๆ

ดีไซน์ภายนอกมีเค้าโครงคลาสสิคที่สืบต่อมายาวนาน กระจังหน้าได้รับอิทธิพลจากรถรุ่นดั้งเดิมในช่วงทศวรรษที่ 1960 ไฟหน้า 2 แถบ หรือ “ไตรบาร์” สะท้อนความคลาสสิคของมัสแตง

ไฟหน้าแบบ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running แบบ LED เช่นกัน

แต่ละรุ่นยังมีดีไซน์ด้านหน้าเป็นเอกลักษณ์ โดยมัสแตง GT มีช่องตะแกรงที่ใหญ่และดุดันมากกว่ารุ่น EcoBoost เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น

กระจังหน้าด้านล่างแบบเส้นขนานอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด มัสแตง ขับเน้นความกว้างตัวถัง

ปรับแต่งด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น โดยเพิ่มช่องระบายอากาศและลิ้นหน้าที่ออกแบบใหม่

แนวหลังคาปรับปรุงเพื่อให้นักขับรถในสนามแข่ง เข้าและออกจากรถได้โดยไม่ต้องถอดหมวกกันน็อก

เรียกว่าเอาใจสายซิ่งกันสุดฤทธิ์

ท้ายรถติดไฟแบบ 3 แถบดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ลู่ลมกว่าเดิม

รุ่นเปิดประทุน สามารถเปิดหลังคาผ้าใบทั้งผืน ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระในกระโปรงท้าย โดยสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้สูงสุดถึง 2 ใบ

ล้ออัลลอยรุ่นใหม่ล่าสุดตั้งแต่ขนาดมาตรฐาน 17 นิ้ว ไปจนถึงขนาด 19 นิ้วสำหรับฟอร์ด มัสแตง GT

ถ้ายังใหญ่ไม่พอมีออปชั่นเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วได้ด้วย

ภายในดูไฮเทคมากขึ้นกับแผงหน้าปัดซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยจอโค้งที่แสดงผลแบบต่อเนื่อง 2 จอ

แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ปรับการทำงานให้แสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่ พร้อมซอฟต์แวร์ทันสมัย ทำให้เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลแบบแอนิเมชั่นได้หลากหลาย

เช่น ใครที่ชอบความคลาสสิคของหน้าปัดเลือกได้เช่นกัน

ขณะที่อีกจอเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอขนาด 13.2 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับขี่เสมือนค็อกพิตนักบิน

โดยย้ายปุ่มควบคุมบางส่วน เช่น การปรับระดับเสียง และอุณหภูมิ เข้าไปรวมอยู่บนหน้าปัดดิจิทัล

ระบบเสียงของ B&O ปรับแต่งเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการสั่งงานด้วยเสียง SYNC4 ของฟอร์ดด้วย

พวงมาลัยแบบท้ายตัดพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

ตกแต่งภายในด้วยวัสดุผ้า และเบาะนั่งที่หุ้มด้วยผ้าทั้งหมด พร้อมออปชั่นเสริมเป็นเบาะแบบไวนิลหนังกลับ และมีเข็มขัดนิรภัยสีดำ

ในขณะที่รุ่นพรีเมียม ใช้วัสดุหุ้มและการตกแต่งตัดขอบทั้งแผงหน้าปัดและบานประตูด้านใน

คอนโซลกลางมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และมีช่องเสียบ USB อยู่เหนือศีรษะ ให้ใช้กับกล้องวิดีโอติดรถยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ ไม่มีสายไฟเกะกะ

ขุมพลัง 2 บล็อก เริ่มจากรุ่น EcoBoost ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด

และเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร เจเนอเรชั่นที่ 4 ในรุ่น “GT” และ “Dark Horse”

ระบบเกียร์มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 10 สปีด

เรียกว่าซอยเกียร์ละเอียดยิบเพื่อพละกำลังต่อเนื่อง

โหมดขับขี่ปรับได้ 6 โหมด ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดแข่งทางตรง (แดร็ก) โหมดแทร็ก และโหมดสุดท้ายที่บันทึกการตั้งค่าส่วนตัวได้ถึง 6 สไตล์

ติดตั้งฟีเจอร์ “Co-Pilot360” เจเนอเรชั่นใหม่ มีระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับการขับขี่ที่ต้องเบรกบ่อย

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง

ระบบช่วยหักเลี้ยวเพื่อเลี่ยงการปะทะ

ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง

ระบบเลี่ยงการสะเทือนจากหลุมบนถนน หรือ Active Pothole Mitigation ซึ่งคอยตรวจสอบระบบกันสะเทือน ตัวถัง การบังคับเลี้ยว และการเบรกอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งปรับการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้สอดคล้องกัน

นอกจากนี้ สามารถสั่งการรถผ่านแอพพลิเคชั่น FordPass ได้หลากหลายจากระยะไกล เช่น การสตาร์ตและดับเครื่องยนต์ การล็อกและปลดล็อกประตู ตั้งเวลาสตาร์ตเครื่องยนต์ ระบุตำแหน่งของรถ และตรวจดูสภาพและสถานะของรถ

FordPass ยังบอกข้อมูลสำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับรถ เช่น ระดับน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการเข้ารับบริการ และข้อมูลการรับประกัน

 

ที่มันกว่านั้น ฟอร์ด มัสแตง เจน 7 ติดตั้งนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนต์ด้วย “ดริฟต์เบรกแบบไฟฟ้า” ออกแบบเบรกมือที่มีทั้งรูปลักษณ์และประโยชน์ใช้สอย แบบเดียวกับเบรกมือดั้งเดิม

เหมาะทั้งผู้ขับขี่มือใหม่ที่อยากเรียนรู้ทักษะการดริฟต์รถ และผู้ขับขี่ที่ชำนาญด้วยระบบที่พร้อมสำหรับสนามแข่ง

รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “Remote Rev” ที่กดเร่งเครื่องยนต์จากปุ่มบนกุญแจรีโมตของรถได้

ทำมาเพื่อสนองนี้ดคนที่นำรถมาประชันกัน จากเดิมที่ต้องเข้าไปในรถเพื่อเหยียบคันเร่งให้เสียงสะท้าน สามารถยืนนอกรถกดรีโมตเพิ่มคันเร่งได้เช่นกัน

ฟอร์ด มัสแตง ใหม่ มาพร้อม 12 เฉดสี โดยเป็นสีใหม่ 2 สี คือ สีน้ำเงิน เวเปอร์ บลู และสีเหลือง เยลโล สแปลช

พร้อมตกแต่งด้วยลายทางในสีและลวดลายใหม่

ยังเลือกสีจานเบรก Brembo ได้ 3 สี คือ สีดำ สีแดง และสีน้ำเงิน แกร็บเบอร์ บลู

ใครที่สนใจต้องรออีกนิดเพราะเริ่มขายอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า

โจ๋ทั่วโลกรวมถึงเมืองไทย เตรียมกระเป๋าสั่นกันได้เลย •