ปฏิบัติการเงียบ ‘บิ๊กบี้’ ยึดทัพภาคที่ 1 พื้นที่คอแดง ฟ้าผ่าสวนมิสกวัน ตท.28 ยึด 3 กองพลหลัก ยึดบูรพาพยัคฆ์ 3 ป.แผ่ว ‘วรยส-สราวุธ’ จ่อ/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

ปฏิบัติการเงียบ

‘บิ๊กบี้’ ยึดทัพภาคที่ 1

พื้นที่คอแดง

ฟ้าผ่าสวนมิสกวัน

ตท.28 ยึด 3 กองพลหลัก

ยึดบูรพาพยัคฆ์ 3 ป.แผ่ว

‘วรยส-สราวุธ’ จ่อ

 

การจัดวางตัวแม่ทัพนายกอง ผบ.หน่วยคุมกำลัง ของบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย ครั้งนี้ถือว่ามีนัยสำคัญ ที่สะท้อนทั้งทิศทางอำนาจในกองทัพ และการเมือง

การนั่งเป็น ผบ.ทบ.มา 2 ปี และนั่งต่อเป็นปีที่ 3 ปีสุดท้าย ทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์เป็น ผบ.ทบ.ที่แข็งแกร่ง และยังมีแบ๊กอัพที่ไม่ธรรมดา

ที่สำคัญคือ มีนายทหารเตรียมทหารรุ่น 28 ที่รู้กันดีว่า มี “พลังภายใน” เป็นฐานอำนาจสำคัญ

การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร 765 นายพล ที่โปรดเกล้าฯ เมื่อ 10 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นดัชนีชี้วัดได้เป็นอย่างดี แถมทั้งสะท้อนถึงอำนาจในกองทัพที่ลดลงของพี่น้อง 3 ป. “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” โดยเฉพาะในกองทัพบก

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

การที่บิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย เป็นเรื่องที่พลิกความคาดหมาย แม้จะมีสัญญาณมาก่อนแล้ว จากการที่ พล.ต.พนาเป็นนายพล ทบ.คนเดียวที่ได้รับเลือกให้ไปฝึกหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ ของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) 3 เดือน หรือหลักสูตรทหารคอแดง หรือที่เรียกกันว่าหลักสูตรราชสวัสดิ์ เมื่อ 9 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

แต่ทว่า ก็ถูกคาดการณ์ว่า เพื่อเตรียมตัวขึ้นแม่ทัพน้อยที่ 1 เท่านั้น เพราะมีเต็งหนึ่งอย่างบิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 รุ่นพี่ ตท.24 จ่ออยู่ และที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 1 ก็มักจะขึ้นจากแม่ทัพน้อย ต่อเนื่องกันมาหลายคน

อีกทั้ง พล.ท.ธราพงษ์ ก็ถือเป็นบูรพาพยัคฆ์สายตรงบ้านป่ารอยต่อฯ ของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ เป็นน้องรักของบิ๊กตู่น้อย พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีต ผช.ผบ.ทบ. อดีตแม่ทัพภาคที่ 1 ลูกรักบิ๊กป้อม แกนนำ ตท.20

ด้วยความชอบธรรม ทั้งรุ่น และจ่อเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 และคอนเน็กชั่น พล.ท.ธราพงษ์ ก็คือตัวเต็งแม่ทัพภาคที่ 1 แต่ทว่า ก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่า ดึง พล.ต.พนาขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย

โดยส่ง พล.ท.ธราพงษ์ไปเป็นพลเอก ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. เข้ากรุ บก.ทบ.ไปเลย แม้จะเป็นคนเก่ง คนดี ใจเย็น นุ่มนิ่ง และยิ้มเสมอก็ตาม

พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี

เกมนี้ ทำให้มีการจับจ้องไปที่ ตท.27 กับ ตท.28 ว่าเป็นทางลัด การผลัดเปลี่ยนรุ่น ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เร็วขึ้น จากแม่ทัพโต พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง ตท.23 ก็ข้าม พล.ท.ธราพงษ์ ตท.26 มาเป็น พล.ต.พนา ตท.26 เลย นัยว่า ตท.28 จะได้ขึ้นมารับไม้ต่อพอดี

สอดรับกับการที่บิ๊กไก่ พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. แกนนำ ตท.28 คนสำคัญ ขยับขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 จ่อไว้แล้ว

จากเดิมที่รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่มี 3 เก้าอี้ เป็นคิวของนายทหาร ตท.27 ที่เป็นผู้บัญชาการกองพลอยู่ จะขึ้นมาหลังจากที่ถูกยื้อไม่ให้ขยับมาในโผที่แล้ว เพื่อรอ พล.ต.วรยส

ในคำสั่งนี้ บิ๊กใหญ่ พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.พล.ร.2 รอ. กลายเป็น ตท.27 คนเดียวที่ได้ขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 จากเดิมที่มีชื่อบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 ที่เคยเป็น ผบ.มทบ.11 มาแล้ว ที่ขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 อีกคน เพราะก็เป็นตัวเต็งคนสำคัญของ ตท.27

แต่ที่สุด กลับมีชื่อบิ๊กหมี พล.ต.ไกรภพ ไชยพันธุ์ ผบ.มทบ.14 รุ่นพี่ ตท.24 นายทหารคอเขียว ขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 ทำให้เก้าอี้รองแม่ทัพภาคที่ 1 เต็มทั้ง 3 ตัว ที่เป็นสัดส่วนทหารคอแดง 2 และคอเขียว 1 ทำให้ พล.ต.ธวัชชัย ทหารคอแดง จึงถูกเบี่ยงไปเป็นรองแม่ทัพน้อยที่ 1 เสียจังหวะไปไม่น้อย แม้ว่าจะมีอายุราชการถึง 2572 ก็ตาม แต่ก็ส่อเค้าโดนคุมกำเนิด

เพราะ ตท.28 กำลังมาแรง พล.ต.วรยส นำรุ่นขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 จ่อขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 และ 5 เสือ ทบ. และชิง ผบ.ทบ.ต่อไป เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2571 และวางตัวบิ๊กกอล์ฟ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.มทบ.11 ที่ย้ายระนาบ เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่จะได้ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง และจะเปลี่ยนจากทหารคอเขียวเป็นทหารคอแดง พร้อมที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ.ในอนาคต เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2573

พลโท ธราพงษ์ มะละคำ

ตําแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ.นี้ ก็ถูกวิจารณ์ไม่น้อยเนื่องจาก พล.ต.สราวุธไม่เคยอยู่ พล.ร.2 รอ.มาก่อนเลย ทั้งๆ ที่ พล.ร.2 รอ. คือพื้นที่อิทธิพล อำนาจบารมีของพี่น้อง 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ มายาวนาน แต่วันนี้ไม่อาจชี้ได้ว่า จะให้ใครเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. เนื่องจากเป็นกองพลคอแดง ขึ้นตรงกับ ผบ.ฉก.ทม.904 ดังนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ซึ่งเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย ฝ่ายการเมืองจึงไม่อาจเข้ามาแทรกแซงได้ ต่อให้เป็นถิ่นกำเนิด และมีลูกน้องบูรพาพยัคฆ์ที่รอการโอบอุ้ม

แม้ ตท.28 จะมีรองเสก พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ เป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ที่เป็นลูกหม้อบูรพาพยัคฆ์อยู่ก็ตาม แต่ทว่า อาจมีปัญหาภายในรุ่น จึงทำให้ พล.ต.สราวุธต้องข้ามมาเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. อาจเพราะเป็นแกนนำรุ่น และเป็นที่ยอมรับ รวมทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์มั่นใจว่าจะสามารถมาดูแลลูกน้อง และกำลังพลได้เป็นอย่างดี จากที่เคยอยู่ พล.ร.9 และ มทบ.11

และมีรุ่นพี่ ตท.27 อย่างรองกบ พ.อ.ปัญญา ตั้งความเพียร เป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ.อยู่แล้ว แต่ก็ต้องชดเชยให้ขยับสลับกันไปเป็น ผบ.มทบ.11 แทน

แม้ว่าทหารคอแดง และ ฉก.ทม.รอ.904 ที่ตั้งขึ้นมา 4 ปีแล้ว ในสมัยบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. 2 ปี จนมายุค พล.อ.ณรงค์พันธ์อีก 2 ปี แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่กระทบอำนาจ 3 ป.เท่าใดนัก

แม่ทัพภาคที่ 1 ในห้วง 4 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่มีสัญญาณแห่งปัญหา จาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ สายวงศ์เทวัญคอแดง และต่อด้วยบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ น้องรักสายทหารเสือราชินี สายตรง พล.อ.ประยุทธ์ และมาถึง พล.ท.สุขสรรค์ สายตรง พล.อ.ประวิตร

แต่มาประจวบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งอำนาจของพี่น้อง 3 ป. ทั้งการวินิจฉัยปมดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ของศาลรัฐธรรมนูญ และอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์หลังจากนั้น จนไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า และความแตกร้าวในพี่น้อง 3 ป. จึงทำให้อำนาจของ 3 ป.น้อยลง และลดความน่าเกรงขามลง

และอาจเป็นจังหวะที่เตรียมทหาร 28 ขึ้นในระดับผู้บัญชาการกองพลพอดี จึงทำให้มีการวางแผนกันใหม่ในซีกของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงทำให้ ตท.28 ยึดทั้ง 3 กองพล ในกองทัพภาคที่ 1 เบ็ดเสร็จ ทั้งรองแอ้ม พ.อ.ณัฐเดช จันทรางศุ ขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ขุมกำลังปฏิวัติ พล.ต.สราวุธ เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. และ พ.อ.วุทธยา จันทมาศ เป็น ผบ.พล.ร.9 กองพลคอเขียว

การจัดวางตัวแม่ทัพนายกองเช่นนี้ การเดินเกมแบบนี้ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกองทัพบก และในบรรดาสายเลือดเตรียมทหาร ที่มองตาปริบๆ ว่า แรงและโหดไม่น้อย

พลตรี อมฤต บุญสุยา

แต่หากยึดหลักการที่ว่า การเมืองต้องไม่แทรกแซงกองทัพ ในการโยกย้ายก็ถือว่าเป็นมิติใหม่ หลังจากที่กองทัพตกอยู่ในอำนาจของ 3 ป.มานานกว่า 10 ปี เพราะในอนาคต แม้เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนรัฐบาล การเมืองก็ไม่อาจแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร โดยเฉพาะตำแหน่งที่เป็นทหารคอแดงแม่ทัพภาคที่ 1 และระดับผู้บัญชาการกองพล

ทั้งนี้ เป็นที่เป็นที่รู้กันดีว่ากองทัพภาคที่ 1 เป็นกำลังหลักของกองทัพบก เพราะเป็นขุมกำลังรัฐประหาร และที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นเส้นทางเหล็กที่มักจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในที่สุด

สถานการณ์อำนาจในกองทัพบกในปีสุดท้ายของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จึงทำให้เก้าอี้ ผบ.ทบ.แข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่ผ่านความพยายามเขย่าเก้าอี้ จากกระแสข่าวเปลี่ยน ผบ.ทบ.ที่มีมาตลอด เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ไม่ใช่สายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์

แต่ในที่สุดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่อาจแตะต้องเก้าอี้ ผบ.ทบ.คอแดงได้ ที่เป็นการสะท้อนถึงความไม่ธรรมดาของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ในขณะเดียวกันเมื่อไม่สามารถเปลี่ยน ผบ.ทบ. เพื่อเอาคนของตัวเองขึ้นมาได้ ก็ทำให้พลังอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์แผ่วลงเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อไม่ถูกย้าย พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็จึงยิ่งเสริมความแข็งแกร่งใน ทบ.มากขึ้น ด้วยการจัดวางกำลังเอง โดยมี ตท.28 เป็นฐานกำลังหลัก

พร้อมๆ กันนี้ การส่งบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี จากหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ข้ามจาก ทบ. ไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ก็เพื่อเตรียมจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุดคอแดงคนต่อไป

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ พล.อ.ทรงวิทย์ มีความสนิทสนมและเป็นขั้วเดียวกัน แต่ด้วยเหตุที่ พล.อ.ทรงวิทย์ จบจากโรงเรียนนายร้อย VMI สหรัฐอเมริกา ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อย จปร. จึงไม่อาจเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 หรือเป็น ผบ.ทบ.ได้ จึงต้องแยกไปเติบโตที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเตรียมเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแทนบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่จะเกษียณกันยายน 2566

แม้ว่าในคำสั่งโยกย้ายนี้ พล.อ.เฉลิมพลจะดึงทหารคอเขียว บิ๊กจ่อย พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง รองเสนาธิการทหาร ขึ้นเป็นเสนาธิการทหาร เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างทหารคอแดงกับทหารคอเขียวก็ตาม แต่ก็ส่อเค้าว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนต่อไป ก็จะเป็นทหารคอแดงอย่าง พล.อ.ทรงวิทย์นั่นเอง

พลตรี สราวุธ ไขยสิทธิ์1

จึงเรียกได้ว่า คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร เป็นการกระชับอำนาจของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ ตท.28 เพื่อเตรียมที่จะขึ้นมาดูแลกองทัพบกต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งอำนาจของพี่น้อง 3 ป. และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนขั้วอำนาจและความวุ่นวายที่อาจจะตามมา แต่กองทัพโดยเฉพาะกองทัพบกจะต้องเป็นหลักในการดูแลความมั่นคงในเวลานั้น

จึงอาจกล่าวได้ว่า คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เป็นเสมือนการยึดอำนาจในการคุมกองทัพบกคืน โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จากพี่น้อง 3 ป. และเป็นการยึดอำนาจของ ตท.28 ด้วยเช่นกัน

พลตรี วรยส เหลืองสุวรรณ
พลตรี ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล