รอวันคืนอำนาจ/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

รอวันคืนอำนาจ

 

ไม่ว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจรัฐประหารจะถูลู่ถูกังด้วยวิธีไหน ความไม่พออกพอใจของประชาชนดูเหมือนว่าไม่ได้ลดน้อยถอยลง

ล่าสุดคล้ายบรรยากาศการเมืองจะให้ความรู้สึกดีขึ้นเมื่อชะตากรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะดุดขาตัวเองจากรัฐธรรมนูญที่บัญชาการให้เขียนไว้จนต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ ให้ “พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ” มารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

แต่เอาเข้าจริงความเคลื่อนไหวทางการเมืองกลับเข้าสู่การการหาเสียงเพื่อเลือกตั้งใหม่เสียมากกว่า

ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมระดับพรรค หรือการทำพื้นที่ของตัวบุคคล

นั่นย่อมหมายความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากจะตีความว่าความเบื่อหน่ายกับการบริหารจัดการประเทศที่เป็นอยู่มาถึงจุดไม่อยากจะสนใจแล้ว ต้องการที่จะมีรัฐบาลใหม่กันถ้วนทั่ว

และหากเข้าไปติดตามวิเคราะห์การเมืองในสื่อต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลาย จะพบว่าส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดอยู่ในอารมณ์เดียวกัน คือไม่ใส่ใจกับรัฐบาลชุดปัจจุบันแล้ว ทุกค่ายทุกกูรูต่างเน้นไปที่แนวโน้มผลการเลือกตั้งและใครจะฟอร์มรัฐบาลร่วมกับใครมากกว่า

แม้ในความคิดของหลายๆ คนที่ผ่านประสบการณ์เกมอำนาจมาโชกโชน จะรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่า “รัฐบาลที่มาจากประชาชน” น่าจะยังไม่ถึงเวลาที่เป็นคำตอบของประเทศ และหวั่นว่า “รัฐประหาร” จะยังเป็นทางออก แต่ไม่มีใครกล้าที่จะพูดถึงการยึดอำนาจอย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่ใช่ด้วยกองทัพไม่มีความพร้อม แต่เพราะทุกคนต่างร็ดีว่าหากเอ่ยปากออกมา ความเบื่อหน่ายการสืบทอดอำนาจของคนกลุ่มนี้สร้างความสะอิดสะเอียนชวนคลื่นเหียนเวียนไส้ให้ประชาชนที่ต้องเผชิญชะตากรรมยาวนาน 8 ปีมากแค่ไหน

ความเป็นจริงไม่ว่าเพื่อประโยชน์ของใครก็ตาม หากต้องแลกกับการที่ประชาชนต้องทนทุกข์ต่อไป ยอมยากที่จะมีใครกล้านำมาแสดง

 

อย่าง “นิด้าโพล” ล่าสุดที่สำรวจเรื่อง “รักษาราชการแทนนานยกรัฐมนตรี” อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าแม้บรรยากาศในทางการเมืองจะรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยก็พักท่าทีของผู้นำที่มาแสดงอาการหน้าเขียว เสียงเข้มใส่ผู้คน แต่ที่สุดแล้วความต้องการเปลี่ยนแปลงมีมากกว่า

ในคำถาม “คิดว่าเหมาะสมหรือไม่หาก พล.อ.ประวิตรจะปรับ ครม.” ร้อยละ 46.34 ตอบว่าไม่เหมาะสม, ร้อยละ 21.57 เห็นว่าเหมาะสมยิ่ง, ร้อยละ 16.00 ตอบว่าเหมาะสมยิ่ง, ร้อยละ 12.58 เห็นว่าไม่เหมาะสมยิ่ง

คนส่วนใหญ่ไม่เอาเรื่องปรับ ครม.

แต่เมื่อถามว่า “พล.อ.ประวิตรยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่จะเหมาะสมหรือไม่” ร้อยละ 63.80 ตอบว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง, ร้อยละ 16.54 บอกว่าค่อนข้างเหมาะสม, มีแค่ร้อยละ 13.95 เท่านั้นที่ตอบว่าไม่เหมาะสมเลย และร้อยละ 4.80 ที่บอกไม่ค่อยเหมาะสม

คนส่วนใหญ่ใจไปอยู่ที่รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งแล้ว

มีเหตุผลที่ดูขึงขังหนักแน่นที่จะมาอ้างถึงความจำเป็นต้อง “สืบยทอดอำนาจ” ยาวออกไป และนั่นหมายถึงต้องหาเกมที่สร้างคำอธิบายแบบฉ้อฉลต่ออำนาจของประชาชนที่แท้จริง

ทว่า ถึงวันนี้ที่โลกของการสื่อสารพร้อมจะเปิดโปงการซ่อนเร้นบิดบังเจตนาที่แท้จริง

ปฏิบัติการลับ ลวง พราง ที่เป็นกลยุทธ์เพื่อลวงประชาชนให้เห็นดีเห็นงามกับเกมสืบทอดอำนาจ น่าจะไม่ได้ผลแล้วในยุคสมัยเช่นนี้

การฝืนทำต่อไป แม้จะยังถูลู่ถูกังไปได้ แต่รัฐบาลที่อาศัยเกมควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จให้เกิดความสงบราบคาบ จะเป็นที่ชิงชังของประชาชน