เด็กถูกลืมในรถ/บทความพิเศษ สุภา ปัทมานันท์

บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

เด็กถูกลืมในรถ

 

สําหรับคนญี่ปุ่นที่เคยชินกับอากาศหนาวและมีหิมะตก ฤดูร้อนปีนี้ของญี่ปุ่น ร้อนจัดเป็นพิเศษ บางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศา ผู้คนอึดอัด หงุดหงิดกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ และท่ามกลางอากาศร้อนจัดนี้ เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดสะเทือนใจผู้ใหญ่

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีเด็กอนุบาลถูกลืมทิ้งไว้ในรถโรงเรียน เหตุเกิดที่เมืองมาคิโนฮาระ จังหวัดชิสุโอกะ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น พบเด็กหญิงวัย 3 ขวบเสียชีวิตอยู่ในรถโรงเรียน เธอถูกลืมทิ้งไว้ในรถนานถึง 5 ชั่วโมงกว่าคุณครูจะรู้ว่าเธอขาดเรียน พบเสียชีวิตแล้วอยู่ในรถโรงเรียน ในสภาพไม่สวมเสื้อท่อนบน และน้ำในกระติกน้ำไม่มีเหลือเลย

สรุปได้ว่า หนูน้อยเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดในรถ เธอดิ้นรนสุดชีวิตด้วยการดื่มน้ำในกระติกจนหมดหยดสุดท้าย และยังทุรนทุรายถอดเสื้อออกเพื่อคลายความร้อน แต่ก็ไม่อาจรอดชีวิตได้ เพราะความสะเพร่าของผู้ใหญ่ที่พ่อแม่ของเธอไว้วางใจฝากให้ดูแล

ในกรณีนี้คนขับรถคือ ครูใหญ่ของโรงเรียน วัย 73 ปี ทุกคนสงสัยว่าเหตุใดครูใหญ่จึงมาขับรถโรงเรียนรับเด็กจากบ้าน เป็นเพราะคนขับรถประจำหยุดงาน ครูใหญ่ต้องทำหน้าที่แทน และให้การกับตำรวจว่า หน้าที่เช็กรายชื่อเด็กเป็นของครูอีกคนหนึ่ง

คำตอบนี้สร้างความไม่พอใจให้พ่อแม่และบรรดาผู้ปกครองอย่างมาก

 

ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ที่ญี่ปุ่นมีเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเด็กเล็กวัยตั้งแต่ 1- 6 ขวบ ถึง 6 ราย ทั้งถูกพ่อแม่ลืมไว้ในรถส่วนตัวแล้วไปทำธุระ ไปซื้อของ และถูกลืมไว้ในรถโรงเรียน ผู้ใหญ่จึงเกิดความตื่นตัวขึ้น พยายามคิดหาวิธีป้องกันการเกิดเหตุสลดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รัฐบาลถึงกับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในรถรับ-ส่งเด็ก และผู้สูงวัย เพิ่มมาตรการที่รัดกุมยิ่งขึ้น

เมื่อลองสอบถามผู้ใหญ่ดูว่า เคยลืมเด็กไว้ในรถบ้างไหม แม่รายหนึ่งบอกว่า ลูกคนเล็กนอนหลับอยู่ขณะพานั่งรถมาที่สวนสาธารณะ จึงเปิดแอร์ทิ้งไว้แล้วพาลูกคนโตไปเล่นประมาณ 30 นาที กลับมาพบว่าลูกอยู่ในสภาพอิดโรย กระสับกระส่าย เหงื่อท่วมตัว ที่คิดว่าเปิดแอร์ไว้แล้วนั้น ที่แท้ลูกชายคนโตไปกดปุ่มแอร์เล่น กลายเป็นปิดแอร์

นี่เป็นตัวอย่างที่โชคดี แม่กลับมาทันเวลา หรือกรณีเด็กขอถือกุญแจรถเล่น ขณะผู้ใหญ่ลงจากรถชั่วครู่ แล้วรถล็อกอัตโนมัติ เป็นต้น

 

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์ในญี่ปุ่นทำการสำรวจผู้ขับรถยนต์ทั่วประเทศราว 2,650 คน ว่าเคยลืมเด็กไว้ในรถหรือไม่ มีผู้ตอบว่า “เคยทิ้งเด็กให้อยู่ในรถคนเดียว” ถึง 768 คน ราว 30% “ให้เด็กอยู่ในรถคนเดียวไม่เกิน 5 นาที” 504 คน ราว 66% และ 54 คน ราว 54% ตอบว่า “ให้อยู่ในรถคนเดียวนานเกิน 15 นาที”

และน่าตกใจที่มี 18 คน บอกว่า “เคยลืมไปเลยว่าพาเด็กมาด้วย” นับเป็นความสะเพร่าอย่างร้ายแรงทีเดียว

กุมารแพทย์ มาซาฮิโกะ ซาคาโมโต้ (坂本昌彦) เตือนว่าการทิ้งให้เด็กอยู่ในรถคนเดียวเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ผู้ใหญ่ไม่ควรคิดว่าแค่ 5 นาที 10 นาทีเท่านั้น ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นได้ แต่ในความเป็นจริงเหตุการณ์ไม่คาดคิด และอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกขณะ มิหนำซ้ำที่ควรตระหนักคือ เด็กช่วยเหลือตัวเอง หรือป้องกันอันตรายเองไม่ได้

เด็กที่ถูกทิ้งไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง จะได้รับอันตรายถึงชีวิตจากการเป็น “ลมแดด” (熱中症) ง่ายกว่าผู้ใหญ่อย่างเทียบกันไม่ได้เลย เพราะอุณหภูมิในร่างกายเด็กจะสูงขึ้นเร็วกว่าผู้ใหญ่ 3-5 เท่าในสถานการณ์เดียวกัน

นอกจากนี้ จากการทดลองของ Japan Automobile Federation (日本自動車連盟) พบว่ารถยนต์ที่จอดทิ้งไว้กลางแจ้งโดยไม่เปิดแอร์ ผ่านไป 5 นาที อุณหภูมิในรถจะขึ้นสูงเกิน 35 องศา และเกือบถึง 40 องศาเมื่อผ่านไป 15 นาที

เมื่อลงจากรถแล้ว การพาเด็กออกไปข้างนอกด้วยกันท่ามกลางอากาศร้อน ผู้ใหญ่ก็อย่าคิดว่าเด็กจะทนความร้อนของอากาศได้เท่าๆ กับตัวเอง หรือคิดว่าจอดรถในที่ร่มแล้ว เปิดหน้าต่างแง้มไว้เล็กน้อยให้เด็กรออยู่ในรถ รีบไปธุระแล้วกลับมา

อย่างนี้ก็อันตรายไม่น้อยไปกว่ากันเลย

 

เราต้องช่วยกันฝึกเด็กให้รู้จักแก้ไขสถานการณ์เมื่อถูกทิ้งไว้ในรถคนเดียว ในญี่ปุ่นมีกฎหมายกำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีต้องนั่ง car seat (ญี่ปุ่นเรียก child seat) อีกไม่นานนี้ ไทยก็จะมีข้อบังคับเกี่ยวกับ car seat เช่นเดียวกัน

ประการแรก ต้องสอนให้เด็กรู้จักปลดล็อกของ car seat ให้ได้ก่อน

ต่อไปคือ วิธีการกดแตรให้ดัง วิธีการเปิดสัญญาณไฟกะพริบฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ และวิธีการปลดล็อกของประตูด้านที่นั่งคนขับ

หากเด็กสามารถทำตามวิธีเหล่านี้ได้ คงพอเบาใจได้ว่าผู้ใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงจะรับรู้สัญญาณอันตราย ขอความช่วยเหลือและช่วยเด็กได้ทันเวลา

รถยนต์รุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกามีการติดตั้งระบบตรวจจับสัญญาณสิ่งมีชีวิตในรถ (幼児置き去る検知システム) หากเด็กถูกลืมไว้ในรถ เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งจะส่งสัญญาณไปยังมือถือของพ่อแม่ หรือแตรรถยนต์จะดังขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

เพราะว่าในสหรัฐอเมริกาก็มีเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถไม่น้อยเช่นกัน พ่อแม่ที่เหน็ดเหนื่อย เครียดจากการทำงาน พักผ่อนไม่เพียงพอ ย่อมมีผลต่อสติสัมปชัญญะในขณะนั้นๆ ได้

ในอนาคตจึงคาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ทั้งหลายที่แข่งกันพัฒนาสมรรถนะเครื่องยนต์ในการขับขี่ ดีไซน์ ความสวยงามหรูหราของรถยนต์ จะหันมาใส่ใจพัฒนาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารตัวน้อยๆ กันบ้าง

อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ทันทีสำหรับพ่อแม่ และผู้ใหญ่ที่มีเด็กนั่งมาในรถด้วย จะไม่ลืมเด็กเลยก็คือ เอาโทรศัพท์มือถือ หรือกระเป๋าสตางค์ ของมีค่า ของใช้ส่วนตัว เป็นต้น วางไว้ใกล้ตัวเด็กแทนที่จะไว้ใกล้ตัวผู้ใหญ่เอง พอลงจากรถไปแล้วนึกขึ้นได้ต้องรีบกลับมาที่รถทันที

ผู้ใหญ่ทั้งหลายได้ขับขี่รถยนต์อย่างเพลิดเพลิน สบายใจ ไม่ควรลืมหันมาใส่ใจสภาพแวดล้อมภายในรถที่อาจก่ออันตรายแก่ชีวิตน้อยๆ ได้

เด็กถูกลืมในรถ เรื่องเศร้าที่ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก