เหรียญอายุมงคล 91 ปี หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์ พระเกจิชื่อดังสุพรรณบุรี / โฟกัสพระเครื่อง : โคมคำ

โฟกัสพระเครื่อง

โคมคำ

[email protected]

 

เหรียญอายุมงคล 91 ปี

หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์

พระเกจิชื่อดังสุพรรณบุรี

 

“หลวงพ่อปลื้ม จิตตสัญญโต” หรือ “พระครูสุมนคณารักษ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี อีกหนึ่งพระเกจิชื่อดังที่ชาวบางปลาม้าให้ความเลื่อมใสศรัทธา

เป็นพระเกจิชื่อดังอันดับต้นของสุพรรณบุรี

เหรียญหลวงพ่อปลื้ม ปี พ.ศ.2540 จัดสร้างขึ้นเนื่องในงานวันครบรอบอายุ 91 ปี เป็นเหรียญทองแดง จำนวนการสร้างไม่ได้จดบันทึกไว้

อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถวัดสวนหงส์

ส่วนหนึ่งให้เช่าบูชา เพื่อนำปัจจัยรายได้ไปปรับปรุงภูมิทัศน์วัดในสมัยนั้น เพราะตั้งอยู่ใกล้ลุ่มริมน้ำท่าจีนและน้ำท่วมขังทุกปี จึงนำรายได้ไปใช้ในการถมดินปรับพื้นที่ให้สูงกว่าระดับพื้นที่เดิม

อีกส่วนหนึ่งแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้มาร่วมงาน

เหรียญหลวงพ่อปลื้ม (หน้า)

ลักษณะเป็นเหรียญกลม รูปไข่ มีหูห่วง ด้านหน้าเป็นรูปเหมือน ด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อปลื้ม” บนไหล่ 2 ด้านของรูปเหมือนเป็นรูปหงส์ทั้ง 2 ด้าน

เหรียญหลวงพ่อปลื้ม (หลัง)

ด้านหลัง มียันต์น้ำเต้าพระเจ้าห้าพระองค์ และมีคำว่า “นะ” เป็นภาษาขอมกำกับอยู่ ด้านบนเขียนว่า “วัดสวนหงส์” ด้านล่างของเหรียญเขียนว่า “จ.สุพรรณบุรี” และเลขไทยกำกับว่า “๒๕๔๐”

ทุกเหรียญจะมีโค้ดที่ไหล่ด้านซ้ายเป็นตัว “ป” ภาษาขอม ที่ย่อมาจากปลื้ม กำกับไว้ทุกเหรียญ

เหรียญและวัตถุมงคลทุกรุ่น สร้างตั้งแต่สมัยยังมีชีวิตอยู่ทั้งสิ้น

เชื่อกันว่า ใครมีไว้ในครอบครอง จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ส่งผลให้เป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่อง

 

เกิดในสกุล “ศุภพินิจ” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2450 ที่บ้านยอด ต.เก้าห้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี

บิดา-มารดาชื่อ นายสนและนางชื่น ศุภพินิจ

อายุ 14 ปี บรรพชาที่วัดน้อย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ถัดมาอีกหนึ่งปี บรรพชาอีกครั้งที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ มีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัฌชาย์

อยู่จำพรรษาที่คณะ 1 เล่าเรียนจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี ในปี พ.ศ.2469 และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ในปี พ.ศ.2471

กระทั่งอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดมหาธาตุ มีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระญาณสมโพธิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระนิกรมุนี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “จิตตสัญญโต”

ด้วยความที่สนใจใฝ่ในการศึกษา และมีวิริยะ อุตสาหะ จึงสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยคในปี พ.ศ.2474 จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์สำนักเรียนวัดมหาธาตุ

สอนอยู่ได้ระยะหนึ่ง ถูกส่งให้ไปช่วยสอนธรรมบาลีที่วัดเจ้าเจ็ดใน จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดโคกทอง

หลวงพ่อปลื้ม จิตตสัญญโต

ที่พระนครศรีอยุธยา ได้พบกับครูจาบ สุวรรณ ซึ่งเป็นฆราวาส เป็นอาจารย์สอนกัมมัฏฐานอยู่วัดประดู่โรงธรรม (ประดู่ทรงธรรม)

ด้วยที่มีความสนใจในเรื่องของภาวนาจิตอยู่แล้ว จึงได้ขอเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ประมาณ 4 ปี แล้วจึงเดินทางไปอยู่ยังวัดต่างๆ เพื่อหาที่วิเวกในการปฏิบัติธรรม

พ.ศ.2484 ไปอยู่วัดกล้วย จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ศ.2485 อยู่วัดถ้ำตะโก เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ประมาณ 4 เดือนแล้ว เข้าไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุ

พ.ศ.2486 จำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพระ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี แล้วมาวัดขวาง อ.บางปลาม้า ก่อนย้ายไปอยู่วัดปราสาททอง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

พ.ศ.2488 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระวินัยธรจังหวัด มีหน้าที่ตัดสินคดีความในเขต 7

ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ และเจ้าคณะตำบลโคกคราม

พ.ศ.2494 ได้เป็นพระอุปัชฌาย์

วันที่ 5 ธันวาคม 2502 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูสุมนคณารักษ์” เป็นพัดพิเศษ จปร. ซึ่งเป็นพัดแรกของวัดราษฎร์ และเป็นพัดรุ่นสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นกรณีพิเศษอย่างยิ่ง

 

วัดสวนหงส์ เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง มีชื่อปรากฏอยู่ในนิราศสุพรรณบุรีของบรมครูกลอนสุนทรภู่ สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.2379

คนโบราณเล่าสืบทอดมาว่า มีเศรษฐีโคกครามสองผัวเมียชื่อ “สวน” และ “หงส์” มีศรัทธาสร้างวัดนี้ขึ้น จึงนำชื่อทั้งสองมาตั้งเป็นชื่อวัด

หลวงพ่อปลื้มเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 4 และสร้างสรรค์ความเจริญให้วัดและชุมชนอย่างเต็มความสามารถ

สมัยนั้น บริเวณวัดเป็นที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ก็ดำเนินการถมดินจนเป็นที่ดอนพร้อมกับปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่น รวมทั้งจัดระเบียบสิ่งปลูกสร้างเป็นที่เจริญตาแก่ผู้มาเยือน

สิ่งที่ท่านให้ความสำคัญอันดับแรก คือ การศึกษา พระภิกษุและสามเณรของวัดสวนหงส์สามารถสอบนักธรรมได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือการศึกษาของลูกหลานชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ อาทิ เป็นประธานสร้างอาคารเรียนประถมศึกษา, เป็นประธานทอดผ้าป่าช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ

อีกทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนและอุปถัมภ์งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ด้วยเมตตาจิตอันสูงส่ง จึงปรากฏลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งคนสามัญธรรมดา และศิษย์ที่เลี้ยงดูอุปการะจนเป็นใหญ่เป็นโต

คำสอนส่วนใหญ่จะเน้นให้ทุกคนรักใคร่ปรองดอง เคารพกันและกัน ร่วมมือเอื้อประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการกระทำให้ผู้อื่นเสียหาย

 

มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่ชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ก็ถูกหลวงพ่อคูณแนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อปลื้มซึ่งเป็นอาจารย์ที่วัดสวนหงส์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรีด้วย

ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร จึงเริ่มมีอาการอาพาธและรักษาตัวอยู่นาน 85 วัน ก่อนมรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2545

สิริอายุ 94 ปี 5 เดือน 7 วัน พรรษา 74 •