สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/by นิติ”บันดาล”

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————-

by นิติ”บันดาล”

————————–

ต้องถือว่า ความพยายาม “บันดาล”ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปต่อหลังจากเป็นนายกรัฐมนตรีโดยพฤตินัยมาครบ 8 ปี

มีค่าใช้จ่ายแพงมหาศาล

โดยเฉพาะเหล่านักกฎหมายระดับปรมาจารย์

นับตั้งแต่ นายมีชัย ฤชุพันธ์ นายวิษณุ เครืองาม

รวมไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะพิเศษ ที่สังคมเพิ่มรู้ว่ามีการตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2565 เพื่อหา”ทางออก??” ให้กรณีวาระ8ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะ

ประกอบด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เคยมีตำแหน่งเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 7 คน คือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายนรชิต สิงหเสนี นายธิติพันธ์ เชื้อบุญชัย นายประพันธ์ นัยโกวิท นายปกรณ์ นิลประพันธ์ นายอัชพร จารุจินดา นายอุดม รัฐอมฤต

“จ่ายแพง” เพราะต้องเอาประสบการณ์ ความรอบรู้ และอาจถึงเกียรติภูมิ มาช่วยการันตี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นนายกฯได้ต่อโดยปักหมุดหมายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2560

ว่าไป ความเห็นต่างในประเด็นกฏหมาย สังคมคงพอยอมรับได้

แต่กระนั้น พอมาถึง ประเด็น บันทึกการประชุม และรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 และครั้งที่ 501

ซึ่งนายมีชัย และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ เคยมีความเห็นและจุดยืนอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นคุณกับพล.อ.ประยุทธ์

แต่พอ ต้องมา”บันดาล”ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปต่อ จึงต้องเปลี่ยนท่าที และด้อยค่า เอกสารดังกล่าวลงเสียดื้อๆ

ดื้อๆอย่างที่เราเห็นในคำชี้แจงของนายมียชัย ที่หลุดออกมา

รวมทั้งที่นายวิษณุ เป็นตัวแทนอธิบายว่า

“บันทึกรายงานการประชุมกรธ.ครั้งที่ 500 /501 /502 /503 ไม่มีน้ำหนัก…เอกสารดังกล่าวเป็นรายงานการประชุมที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ไปแล้ว เมื่อปี 60 แต่การประชุมดังกล่าวมาทำหนังสือปี 61 ซึ่งนี่เป็นจุดอ่อนข้อที่หนึ่ง จุดอ่อนข้อที่สองเป็นเพียงแค่ 2-3 คนพูดกัน ส่วนองค์ประชุมที่เหลือ 17 คนนั่งอยู่ไม่ได้ลงมติ และนายมีชัยได้ออกมาชี้แจงแล้ว ประกอบกับคนจดยอมรับว่าจดเนื้อหาไม่ครบ และข้อสำคัญคือการที่มานั่งประชุมกันทำหนังสือเพื่อเป็นคำอธิบายรายมาตราและพอถึงมาตรา 158 เรื่องวาระ 4 ปีก็ไม่มีคำอธิบายที่พูดเรื่องการนับย้อนอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องยึดบทสรุปของหนังสือดังกล่าวเป็นหลัก จะพูดกันในที่ประชุมยังไงก็ช่างแต่ต้องดูเจตนาผลสรุปของหนังสือเพื่อเป็นคู่มือในการตีความรัฐธรรมนูญ”

หลายๆคนได้ยินแล้วมึนกับตรรกเช่นนี้

ยังดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมในเรื่องนี้แล้ว มีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11กันยายน 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข มาให้ศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 13 กันยายน 2565

คนที่บอกว่า เรื่องนี้ไม่มีน้ำหนัก คงรู้สึก รู้สาอะไรบ้างกระมัง

หรือแหะ-แหะ ไม่รู้สึกอะไร เพราะเมื่อเล่นบทผู้”บันดาล”ให้พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อเสียแล้ว

อะไรจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ ก็สามารถเปลี่ยนได้ พลิกได้ กลืนน้ำลายได้ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

ยกเว้นเรื่องที่ ทำมาตั้งแต่เข้าไปเป็นมือไม้คณะรัฐประหารในการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อปูทางให้”อยู่กันยาวๆ”

นั่น ห้ามแตะ ห้ามเปลี่ยนเด็ดขาด แถมยังวางกลไกป้องกันไม่ให้ใครแก้ได้โดยง่ายอีกด้วย

ล่าสุด รัฐสภาโหวตคว่ำ 4 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ ไปเรียบร้อย

ผลงาน “by นิติบันดาล” ทั้งนั้น