‘ป้าแว่น’ / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

‘ป้าแว่น’

 

วันก่อน “นัม” บก.เส้นทางเศรษฐี ติดต่อให้สัมภาษณ์ “ป้าแว่น” บังอร วันน้อย ในงานสัมมนา “พลิกเกมไว โอกาสใหม่ SMEs”

ผมไม่เคยได้ยินชื่อ “บังอร วันน้อย” มาก่อน

“นัม” บอกว่าเป็นเจ้าของน้ำพริกกะปิ “ป้าแว่น” ที่ขายในเซเว่น อีเลฟเว่น

ผมตอบตกลงทันที เพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากว่าทำอย่างไรจึงสามารถนำ “น้ำพริกกะปิ” ที่เป็นอาหารหลักของคนไทยเข้าไปในร้านเซเว่นได้

ก่อนจะสัมภาษณ์ ผมต้องทำการบ้านก่อน

เริ่มจากไปซื้อน้ำพริกกะปิ “ป้าแว่น” มาชิมก่อน

ผมเป็นคนชอบกินน้ำพริกกะปิอยู่แล้ว แต่หาร้านอร่อยๆ ที่ไม่เผ็ดมากไม่ค่อยได้

แวบเข้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หยิบน้ำพริกกะปิ “ป้าแว่น” มาทำการบ้านทันที

ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก

แต่ไม่น่าเชื่อ

น้ำพริกกะปิ “ป้าแว่น” อร่อยมาก

เกิดแรงบันดาลใจในการสัมภาษณ์ขึ้นมาทันที

ยิ่งไปอ่านบทสัมภาษณ์เก่าๆ ของ “ป้าแว่น” ยิ่งรู้สึกอยากคุย

ต้องสนุกแน่เลย

ผมไปถึงงานก่อนเวลาพักหนึ่ง เพื่อให้คุยกับ “ป้าแว่น” ก่อน

ตามปกติวิทยากรจะอยู่ในห้องรับรองก่อนขึ้นเวที

แต่ “ป้าแว่น” อยู่หน้าบูธขายน้ำพริกของตัวเอง

กำลังขายอย่างสนุกสนาน

ทีมงานชวนผม-ป้าแว่น และคุณสินชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของน้ำพริก “ป้าแว่น” ไปคุยกันในห้องรับรอง

คุณป้าไม่ยอมเข้าไปคุยมือเปล่า เธอถือน้ำพริกใหม่ที่ยังไม่วางตลาดมาด้วย

มาให้ชิม

“น้ำพริกปลาสลิดกรอบคั่วกะปิ” ครับ

อร่อยมากกก…

มากขนาดที่ขณะเขียนต้นฉบับชิ้นนี้ ผมมี “น้ำพริกปลาสลิดกรอบคั่วกะปิ” เป็นอุปกรณ์ประกอบการเขียน

“ป้าแว่น” ให้มา 1 โหล

ตอนนี้เหลือแค่ 3 กระปุก

เป็น “สแน็ก” ที่กินแล้วหยุดไม่ได้

เหมือนกับ “ป้าแว่น”

นั่งคุยแล้วหยุดไม่ได้

ป้าคุยสนุก เรื่องราวระหว่างทางเยอะมาก

“ป้าแว่น” ยากจน ทำสวน ขายผักมาก่อน

แต่ที่มาทำน้ำพริกขาย ก็เพราะลูก 3 คนต้องไปโรงเรียน

ให้เงินลูกคนละบาท 3 คนก็ 3 บาท

แต่ผักกว่าจะโต กว่าจะขายได้ เงินไม่พอที่จะให้ลูกไปโรงเรียน

เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งแนะนำให้ “ป้าแว่น” ขายน้ำพริกในตลาด เพราะเคยชิมฝีมือ “ป้าแว่น” มาก่อน

จะได้มีรายได้ทุกวัน

“ป้าแว่น” เริ่มต้นด้วยการขาย “น้ำพริกแกง”

วันแรกขายได้ 300 บาท

ดีใจมาก

“ป้าแว่น” เป็นคนขายเก่ง เป็นนักการตลาดแบบสามัญสำนึก

ขายได้พักหนึ่ง เธออยากกระตุ้นยอดขาย

“ป้าแว่น” ทำแกงไก่ แจกคนแถวนั้น

ใครกินก็ติดใจ นอกจากกลับมาซื้อน้ำพริกไปทำเองแล้วยังแนะนำต่อให้ด้วย

ชีวิต “ป้าแว่น” พลิกผันครั้งแรกตอนที่ทางอำเภอขอให้ “ป้าแว่น” ส่ง “น้ำพริก” ไปประกวดสินค้าโอท็อปของจังหวัดชลบุรี

เธอชนะเลิศ ได้โอท็อป 5 ดาวด้วย

และได้ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน

“ป้าแว่น” บังอร วันน้อย

ยอดขายตอนนั้นประมาณเดือนละ 2-3 แสนบาท

แต่ “ป้าแว่น” กลับเจอมรสุมครั้งใหญ่

พ่อมีที่ดินแปลงหนึ่งให้น้องชายเลี้ยงกุ้งแต่เจ๊ง

ต้องขายที่ดินชำระหนี้

“ป้าแว่น” ก็ปลูกบ้านอยู่ในที่ดินแปลงนี้ จึงตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงนี้พร้อมหนี้ท่วมหัว

เจอมรสุมการเมืองปี 2553 ตามด้วยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554

หนักเลย

“ป้าแว่น” ไม่รู้ทำอย่างไร เปิดโทรทัศน์ดูรายการ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” คุยกับคุณตัน ภาสกรนที

เธอตัดสินใจเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือจากคุณตัน

กะว่าจะยกที่ดินที่กู้แบงก์ให้คุณตันเลย จะได้หมดภาระหนี้สินก้อนโต

คุณตันอ่านจดหมายแล้วนัด “ป้าแว่น” มาคุยที่ทำงาน

พอรู้ปัญหา และข้อเสนอยกที่ดินให้

ในมุมธุรกิจ ที่ดินแปลงนั้นราคาสูงกว่าหนี้เยอะมาก

แต่… “เอาไม่ลงหรอก สงสาร”

คุณตันหันไปถาม “ปั้ม” มือขวาของเขา

“จะช่วยอย่างไรดี”

“ต้องเอาเข้าเซเว่น อีเลฟเว่น อย่างเดียว” คุณปั้มเสนอ

คุณตันคิดนิดนึงแล้วยกหูโทรศัพท์

“ป้าแว่น” เล่าว่าได้ยินเสียงคุณตันคุยกับปลายสายที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้บริหารของเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เขาคุ้นเคย

“ช่วยเอาเข้าร้านให้หน่อย”

ปลายสายพูดอะไรก็ไม่รู้

แต่คุณตันย้ำสั้นๆ

“กูรับรองว่าอร่อย”

จากวันนั้น ชีวิต “ป้าแว่น” ก็เปลี่ยนไป

เซเว่นส่งเจ้าหน้าที่ไปดูโรงงานผลิตของ “ป้าแว่น”

เจอระบบแบบบ้านๆ เข้าก็ส่ายหัว

ต้องปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ใช้เวลา 2 ปีกว่า

“มาตรฐานโรงงานตอนนั้นไม่ได้ 100% หรอก แต่เขาเห็นความตั้งใจของป้า”

ยอดขายของน้ำพริก “ป้าแว่น” ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ดีนัก เพราะน้ำพริกแห้งที่ขาย วางข้างๆ น้ำพริกแบรนด์ยักษ์ใหญ่

จนวันหนึ่ง “ป้าแว่น” และคุณสินชัย มองเห็น “โอกาส” ทางการตลาด

เซเว่นไม่มี “น้ำพริกสด” แบบน้ำพริกกะปิที่ต้องอยู่ในตู้แช่เย็น

ตอนที่เสนอเซเว่นเขาถามว่าจะลองจริงๆ หรือ

และเสนอว่ามีช่วงเจประมาณ 10 วัน ให้ทำ “น้ำพริก” มาขาย

ถ้าไม่รอดก็เลิก

แค่ 2 วัน น้ำพริกหมดเกลี้ยง

คราวนี้ “ป้าแว่น” จึงบุกจริงจัง มีทั้งน้ำพริกกะปิ และน้ำพริกปลาทู

ขายระเบิด

ยอดขายน้ำพริก “ป้าแว่น” ทั้งหมดในเซเว่น

“น้ำพริกกะปิ-น้ำพริกปลาทู” ประมาณ 60-70%

และกำลังจะส่งออกไปต่างประเทศ

น่าชื่นชมจริงๆ

 

“ป้าแว่น” ขอบคุณคุณตันทั้งบนเวทีและการคุยส่วนตัวด้านล่าง

ฝากผมไปบอกคุณตันด้วยว่า “ป้าแว่น” ไม่เคยลืมบุญคุณครั้งนั้น

ผมส่งรูปคู่กับ “ป้าแว่น” ไปหาคุณตัน พร้อมกับเล่าเรื่องให้ฟัง

เขาดีใจที่ “ป้าแว่น” ยังนึกถึง

“ไม่เจอกันหลายปี ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ผมบอกว่าดีมาก จะส่งออกอยู่แล้ว

และตบท้ายให้ระวัง

“ช่วงนี้อย่าแปลกใจถ้ามีคนส่งจดหมายขอความช่วยเหลือจากคุณตันมากขึ้น”

ฝีมือ “ป้าแว่น” ที่พูดบนเวทีครับ •