พล.ต.ท.ธิติ ‘น.1’ ในใจ ‘บิ๊กปั๊ด’ จัดทัพนครบาลดึงคู่หู ‘นักสืบ’ ‘นพศิลป์-ธีรเดช’ ทำโจรกรุงแขยง/บทความโล่เงิน

บทความโล่เงิน

 

พล.ต.ท.ธิติ ‘น.1’ ในใจ ‘บิ๊กปั๊ด’

จัดทัพนครบาลดึงคู่หู ‘นักสืบ’

‘นพศิลป์-ธีรเดช’ ทำโจรกรุงแขยง

 

กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดิน การจัดทำทัพนครบาล “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้วิเคราะห์สถานการณ์ ที่จะจัดวางนายพลมือถึง คุมทั้งงานสืบสวนสอบสวน งานความมั่นคง งานจราจร งานป้องกันปราบปราม งานป้องกันปราบปรามยาเสพติด และกิจกรรมพิเศษ ไว้ได้อยู่ เพราะทั้งหมดล้วนเป็นภารกิจ “หิน” ทั้งสิ้น

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง หรือ “บิ๊กจ้าว” ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 40 เป็นตัวเลือกดีที่สุด ให้ข้ามห้วยมานั่ง “น.1” ชนิดหัดปากเซียนทุกสื่อ

สไตล์นักสืบอย่าง “ผบ.ปั๊ด” มีลับลวงพลางเป็นเรื่องปกติ กลยุทธ์ให้คนใกล้ชิดออกมาปล่อยข่าวชื่อโน้นชื่อนี้แคนดิเดต ผบช.น. เพื่อหันเหความสนใจไปอีกทางหนึ่ง “บิ๊กจ้าว” จะได้ไม่ตกเป็นเป้า แต่ชื่อนี้อยู่ในใจมาตั้งแต่ต้น

อย่างการแต่งตั้ง “นายพลแก้มลิง” วาระกลางปีที่แล้ว บิ๊กจ้าวเป็นหนึ่งในรายชื่อได้ขยับจากรอง ผบช.ภ.1 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่ประสานงานรัฐสภา)

คนวงในทราบดีว่า แม้เก้าอี้เมืองหลวงถือเป็นทำเลทองและเป็นเก้าอี้สำคัญ แต่มีความตึงเครียดสูงมาก โดยเฉพาะปัญหาการชุมนุมของมวลชนกลุ่มต่างๆ

“บิ๊กจ้าว” เอง ไม่อยากจะมา เพราะอยู่ ภ.2 ก็สบายกว่าอยู่แล้ว ไม่ต้องมีภาวะกดดัน แต่เมื่อ “นาย” ทั้ง “บิ๊กปั๊ด” และบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความไว้วางใจ ก็ต้องรับคำบัญชา

ที่สำคัญของการเป็น “ตัวเลือกแรก” ของเก้าอี้ น.1 คือบุคลิก พล.ต.ท.ธิติ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความตรง ยอมหักไม่ยอมงอ โดยเฉพาะกับธุรกิจสีเทา พวกรุ่นพี่รุ่นน้องนายพลเรียกเขาว่า สไลด์ “ตู้”

ถ้าจำกันได้ กรณีบ่อน “หลงจู๊สมชาย” ที่มีการเด้งล้างบาง 3 ผู้การจังหวัดภาคตะวันออก และ ผบช.ภ.2 ตบท้าย พล.ต.อ.สุวัฒน์ส่ง “บิ๊กจ้าว” ผบช.ประจำฯ ไปนั่งรักษาการ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ร่วมสางคดีด้วย จนมีผลงานให้ผู้บังคับบัญชาเชื่อมั่น อัพเก้าอี้นั่ง ผบช.ภ.2 เมื่อปลายปีที่แล้ว

แต่อีกกระแสบอกว่า ด้วยความ “ตงฉิน” มากไป อาจไม่ถูกใจผู้ประกอบการบางรายที่ทำธุรกิจบันเทิงในภาคตะวันออกแหล่งท่องเที่ยว แล้วมีคอนเน็กชั่นนักการเมืองที่ใกล้ศูนย์อำนาจ พยายามสร้างบารมีแข่งกับ “ขั้วเดิม”

เพราะฉะนั้น ฝ่ายการเมืองจึงขอสลับ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สกพ. ไปทำหน้าที่ ผบช.ภ.2 แทน จึงมีความลงตัวมากกว่า

กลายเป็นว่า วินๆ ทั้งสองฟาก

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง

ย้อนไปดูเส้นทางรับราชการกว่าจะมาเป็น “แม่ทัพคุมเมืองหลวง” เริ่มตำแหน่งสารวัตรกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีโอกาสขึ้นติดยศ พ.ต.อ. ผกก.ปอศ. แล้วโยกเป็นรอง ผบก.ปคม. สไลด์ไปรอง ผบก.ปคบ. จากนั้นขยับติดยศ พล.ต.ต. เก้าอี้ ผบก.กต.3 จต. แล้วย้ายไปเป็น ผบก.ปคม. เมื่อปี 2557 ถัดมาอีกปีโยกเป็น ผบก.ภ.จว.สระบุรี ปี 2559 เป็น ผบก.ภ.จว.สงขลา ปี 2560 ขยับขึ้นรอง ผบช.ภ.1 ปี 2561 ย้ายเป็นรอง ผบช.ส. ปี 2562 มาเป็นรอง ผบช.น.

จากนั้นปี 2563 มาเป็น ผบช.ประจำ ตร. ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี ทำให้มีโอกาสใกล้ชิดกับ “บิ๊กตู่” จนเป็นที่ไว้วางใจ

ในส่วนรอง ผบช.น. 12 ตำแหน่ง มีย้ายออก 3 นายพล นั่นคือ พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ เป็น ผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เป็น ผบช.กมค. และ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน เป็นรอง ผบช.ภ.1

แล้วสวมเก้าอี้ “รอง ผบช.น.” มี พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. นรต.45 สายตรง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. นรต.รุ่น 50 เพื่อนสนิทร่วมรุ่น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ว่าที่ ผช.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.

ที่สำคัญ “บิ๊กปั๊ด” ที่ได้รับขนานนามว่า “อาจารย์ใหญ่” นักสืบ ยุค 5 G ยังจะคัด 2 มือดีเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ ร่วมทัพนครบาล รับรองเลยว่า โจรเมืองกรุงขยาดทีมนี้แน่นอน

นั่นคือ

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์

พล.ต.ต.นพศิลป์ หรือ “นพ” นรต.46 ศิษย์คนเก่งของ ผบ.ตร. อดีตนักสืบลูกหม้อนครบาล เป็นนักสืบผลงานเป็นที่ยอมรับในวงการนักสืบ อยู่ในชุดทีมคลี่คลายคดีสำคัญของบิ๊กปั๊ด เป็นตัวหลักคดี “น้องชมพู่” นำไปสู่การจับกุมนายไชย์พล หรือลุงพล วิภา กับ น.ส.สมพร หรือป้าแต๋น หลาบโพธิ์ ปิดคดีสะเทือนขวัญฆ่าแหม่มนักท่องเที่ยวชาวสวิส ภูเก็ต และชุดไล่ล่ากดดันจน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ อดีต ผกก.เมืองนครสวรรค์ ขอมอบตัว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์

พล.ต.ต.ธีรเดช หรือ “จ๋อ” ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นรต. 47 สไลด์มานั่ง ผบก.สส.บช.น. ศิษย์เอกจากโรงเรียนนักสืบนครบาล ผลงานเก็บกวาดคนผสมยาเสพติดสูตรมรณะ “เค นมผง” ตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่จะมีคนเสียชีวิตอีกมาก คดีรวบพ่อค้ายาเสพติดใหญ่ “ลูแปงไต้หวัน” เป็นนักสืบคู่หู พล.ต.ต.นพศิลป์ พิชิตคดีน้องชมพู่และชุดไล่ล่า ผกก.โจ้ ล่าสุดทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และอีกหลายคดีสำคัญที่สร้างผลงานในพื้นที่ภาค 2

ทั้ง พล.ต.ท.ธิติ และ พล.ต.ต.ธีรเดช ถือว่าย้ายสถานที่ทำงานมาประกบคู่ลุยโจรเมืองกรุงกันต่อ

ประกบด้วย พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รอง ผบก.สปพ. นรต.รุ่น 45 หัวหน้าสำนักงาน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ขึ้นเป็น ผบก.สปพ. (191) พ.ต.อ.ภานพเคยเป็นนายตำรวจติดตาม พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเวร พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี อดีต ผบช.น. ถือเป็นลูกหม้อนครบาล เคยนั่ง ผกก.หลาย สน. เช่น ดินแดง, สมเด็จพระเจ้ายา ได้รับรางวัล “สน.เพื่อประชาชน” อันดับ 1 ของ บช.น. ขณะทำหน้าที่ ผกก.ทั้ง 2 แห่ง และ สน.เทียนทะเล

อีกทั้ง พ.ต.อ.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ รอง ผบก.น.9 ชุดม็อบเข้มแข็ง นรต.รุ่น 47 ขึ้นเป็น ผบก.อคฝ.

ทั้งหมดคือโฉมใหม่ทัพนครบาล ภายใต้การกุมบังเหียนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.คนที่ 13