อุปสรรค ขวากหนาม ความแพ้จนชิน ก่อนไรอัล กาจบัณฑิต จะมีวันนี้/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

อุปสรรค ขวากหนาม

ความแพ้จนชิน

ก่อนไรอัล กาจบัณฑิต จะมีวันนี้

 

บอกเลยว่า เพราะความชอบฟังเพลงเป็นเหตุ ทำให้ไรอัล กาจบัณฑิต กลายเป็นนักร้องลูกทุ่งคนดัง เป็น ‘ลูกชายแห่งชาติ’ ของแฟนๆ ในวันนี้

ความชอบดังกล่าว ไรอัลบอกว่าเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยเขายังเรียนชั้นประถม ดังนั้น ในทุกๆ วันช่วงเวลาพักเที่ยง เขากับเพื่อนจึงจะชวนกันไปเปิดเพลงฟัง และหลายๆ ครั้งเขาก็จะร้องตามไปด้วย

“ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าการร้องเพลงเพราะคืออะไร ก็ร้องไปตามที่ได้ยิน” เจ้าตัวยกอดีตมาเล่า

กระทั่งพ่อของเขามาได้ยินเสียง ตอนเขาร้องตามเพลงจากวิทยุที่เปิดในรถ แล้วก็ชอบใจ บอก “ร้องเพลงได้นี่นา” จากนั้นก็คอยฝึกฝน และให้คำแนะนำ

แล้วก็ส่งเขาไปลงสนามในการประกวดร้องเพลงงานหนึ่ง

ซึ่ง “บังเอิญว่าดันชนะเลิศ” นึกถึงตอนนั้นแล้วไรอัลก็ยิ้ม

แล้วว่า นั่นก็กลายเป็นการจุดประกาย ทำให้มีไฟในการประกวดต่อ

และก็ประกวด ประกวด ประกวด…จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นผู้เข้าแข่งขัน ประกวดในรายการไมค์หมดหนี้เสี่ยงโชค และก็สามารถเอาชนะ ครองแชมป์ถึง 200 สมัย

ก่อนตัดสินใจขออำลาเวที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

 

ถ้ามอง ‘วันนี้’ ของไรอัล ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศิลปินสังกัดยุ้งข้าว เรคคอร์ด ด้วยวัยเพียง 19 ปี และมีผลงานออกมาแล้วถึง 2 ซิงเกิล คือ ‘รักเก่าข้างกองฟาง’ กับ ‘ฉันรักเพลงลูกทุ่ง’ รวมถึงมีคิวคอนเสิร์ตแน่นๆ หลายคนคงคิดว่า เขาประสบความสำเร็จได้ไวจนน่าอิจฉา

แต่รู้ไหมว่า กว่าจะมีวันนี้เขาสู้มาแล้วเป็นร้อยเวที และ “ในจำนวนนั้นแพ้บ่อยครับ”

แพ้มากกว่าชนะ

ถามว่าตอนนั้นท้อไหม

“แรกๆ ท้อมาก” เจ้าตัวบอกแบบไม่ปิดบัง

“ไม่อยากไปแล้ว เพราะรู้ว่าไปก็แพ้กลับมา แต่มันแพ้จนชิน คือหลังๆ ไม่ได้หวังที่ 1, 2, 3 แล้ว ชมเชยก็ได้ เพราะไม่อยากกลับบ้านมือเปล่า มันกลายเป็นแบบนี้”

ส่วนที่กลายมาเป็นผู้ชนะได้อย่างต่อเนื่องในรายการ ไรอัลบอกเขาเองไม่ได้คิดว่ามีทริกพิเศษใดๆ

แต่ “ผมพยายามทำให้เต็มที่ในทุกๆ รอบ”

“บางรอบอาจจะมีพลาด มีอะไรบ้าง แต่ก็พยายามปล่อยผ่าน เพราะถ้าเราไปโฟกัสว่าเราผิดพลาดตรงนั้น เราก็จะใจเสีย และไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้ในการร้อง”

ยังเล่าด้วยว่า ในช่วงระหว่างทางของความพยายามนั้น ทุกๆ วันเขาจะต้องซ้อมร้องเพลงจำนวน 16 เพลง ซึ่งบางวันถ้าผลงานออกมาไม่ดี ไม่เป็นที่พอใจ ก็จะต้องใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง

“ซ้อมจนล้า”

และนั่นก็ส่งผลให้บางทีก็อยากถอย

อยากถอนความฝันอยากเป็นศิลปินทิ้ง

เหมือนเช่นครั้งหนึ่ง… “วันนั้นกลับจากโรงเรียน แล้วซ้อม ซ้อมก็ไม่ดี บวกกับเหนื่อย ก็ร้องไห้”

“พอร้องเพลงเสร็จปึ๊บก็ไปอยู่ในห้อง พ่อก็แมสเสจมาบอก ว่าอยากให้สู้ๆ นะลูก ความเข้มแข็งวันนี้จะส่งผลให้เรามีวันข้างหน้า ตอนนั้นเป็นช่วงอายุประมาณ 16-17 ได้แมสเสจจากพ่อแล้ว ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก แต่การร้องไห้ครั้งนี้มันเหมือนว่า ทำไมเราถึงท้อล่ะ ในเมื่อคนที่เหนื่อยกว่าเรา เขายังให้กำลังใจเราได้เลย”

“พ่อต้องตื่นเช้าไปขับรถมอเตอร์ไซค์ กลับบ้านก็ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน”

จึงตัดสินใจฮึดสู้

ด้วยเหตุนี้จึงพูดได้เต็มปากว่า “ไม่ง่ายเลย ในการเดินทางมันไม่ราบรื่นอยู่แล้วครับ บางทีมันมีหนาม มีโน่น มีนี่มากระทบ แต่ว่าถ้าท้อไปก่อน มันก็จะไม่ถึงจุดหมายที่เราวางไว้

“ถ้าเราตั้งใจเดินทาง สู้ต่อไป อาจจะเจ็บบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็อดทน”

ไรอัลซึ่งปัจจุบันทำงานไปด้วย เรียนอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ไปด้วยบอกว่า แม้จะเหนื่อยอยู่บ้าง แต่เขาก็ไหว ใจยังสู้

สู้เพื่อบ้านหลังแรกของครอบครัวที่เขากำลังจะซื้อ หลังจากสามารถปลดหนี้ให้ที่บ้านได้สำเร็จ

เรื่องการเป็นนักร้อง ไรอัลบอก “สนุกครับ”

“การร้องเพลงเป็นสิ่งที่ชื่นชอบอยู่แล้ว แล้วการได้มาร้องให้หลายๆ ท่านฟัง แล้วหลายๆ ท่านที่มาร่วมงาน สนุกและชื่นชอบไปกับเพลงที่เรานำเสนอ ก็รู้สึกดี”

ยิ่งได้เจอ ‘แม่ๆ’ ซึ่งเป็นแฟนเพลงรอต้อนรับ ปรบมือให้ ก็ยิ่งมีกำลังใจ

“แฟนๆ เขาให้กำลังใจกับผมมาก ให้สู้ๆ นะลูก ให้อดทนหน่อยนะ” ไรอัลเล่าพลางยิ้ม

ยิ้มแบบแฮปปี้