บางอย่างในความรักของเรา (24) / ท่าอากาศยานต่างความคิด : อนุสรณ์ ติปยานนท์

Khao San Road: CHRISTOPHE ARCHAMBAULT/AFP/AFP via Getty Images

ท่าอากาศยานต่างความคิด

อนุสรณ์ ติปยานนท์

[email protected]

บางอย่างในความรักของเรา (24)

 

สิ้นคำทักทาย หญิงสาวต่างชาติผู้นั้นวางแก้วกาแฟของเธอลงบนโต๊ะของผม ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พนักสูง ในขณะที่ร้านค้าส่วนใหญ่ยึดถือหลักการที่จะไม่ทำให้เก้าอี้ในร้านนั่งไม่สบายจนเกินไปเพื่อที่ลูกค้าจะไม่ติดใจทอดถอนตัวเองในร้านจนนานเกินควรและเปิดโอกาสให้ลูกค้าคนอื่นได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามา อันหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย ร้านอาหารแห่งนี้กลับทำในทางตรงข้าม เก้าอี้ทุกตัว โต๊ะทุกตัวทำให้ผู้เป็นลูกค้าเกียจคร้านเพิ่มขึ้นจนไม่คิดจะจากไปในเวลาอันสั้น

ผมขยับตัวเป็นสัญญาณถึงการตระหนักรู้ของการมาถึงของคนแปลกหน้า แม้ว่าผมจะใช้ภาษาต่างชาติที่หมายถึงภาษาอังกฤษได้พอควร แต่การต้องมีบทสนทนาแบบกะทันหันก็สร้างความกังวลใจอยู่ดี

ไม่นานเกินครึ่งนาที หญิงสาวผู้นั้นซึ่งบัดนี้ผมมองเธอได้ชัดเจนขึ้นก็หยิบหนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋าสะพายของเธอและเปิดอย่างลวกๆ ไปจนพบหน้าที่ต้องการ เธอกางหน้าหนังสือนั้น หมุนหนังสือให้ตัวอักษรอยู่ในมุมมองของผมก่อนจะเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “ฉันจะไปถึงที่นี่ได้อย่างไร?”

ผมเพ่งสายตาอ่านข้อความและพิจารณาสถานที่ในหนังสือเล่มนั้น มันคือหนังสือคู่มือการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวแบบเป้หลังหรือ Backpacker ที่ได้รับความนิยมในชื่อของ “ดาวเคราะห์เดียวดาย” ฉบับที่เธอมีนั้นเป็นฉบับที่รวบรวมการเดินทางในสามประเทศอันได้แก่ ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมหนังสือจึงมีขนาดหนากว่าฉบับที่เป็นประเทศเดียวโดดๆ นี่น่าจะเป็นการเดินทางที่ยาวไกลไม่ใช่น้อยหากหญิงสาวผู้นั้นจะไปให้ครบถ้วนถึงสามประเทศตามคำแนะนำ

แน่นอนว่าพรมแดนระหว่างประเทศทั้งสามสามารถเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศได้อย่างสะดวก แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกระทำได้ราบรื่นดังเช่นการเดินทางในประเทศที่เจริญทั่วไป

ผมอ่านรายชื่อของสถานที่ที่หญิงสาวต้องการไปเยือน มันเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา หากเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปผมคงแนะนำให้เริ่มต้นจากการไปรอรถประจำทางที่สนามหลวง มีรถประจำทางหลายสายที่แล่นผ่านหรือแล่นเลียบสถานที่ดังกล่าว

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม ผมไม่แน่ใจว่าคำแนะนำที่ว่าจะเหมาะสมกับเธอ

 

การเอ่ยว่าหญิงสาวผู้นั้นเป็นหญิงสาวที่มีความงามไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลย

เธอมีเส้นผมยาวสีทองที่แลดูเหมือนผืนพรมมากกว่าเส้นผม

เธอมีดวงตาสีฟ้าที่ทำให้คุณนึกถึงท้องฟ้ายามเช้าที่ปราศจากเมฆหมอก

เธอมีท่อนแขนสีขาวที่ทำให้เรานึกถึงงาช้างชั้นดี

เธอมีรูปร่างที่ทะมัดทะแมง สมส่วน รัดรึง แม้ว่าเธอจะอยู่ในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งขนาดใหญ่ แต่ก็หาได้ซ่อนเร้นความงามของสรีระเช่นนั้น

เธอเป็นหญิงสาวที่สวย งามและงดงามตรงตามนิยามที่เราจะมีกับใครบางคนที่มีความงามเช่นนั้นได้

ผมใช้นิ้วชี้ของตนเองเคาะโต๊ะเบาๆ เพื่อแสดงถึงอาการครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยกับเธอว่า “ผมรู้จักสถานที่แห่งนั้น ผมรู้วิธีเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น แต่ทว่า มันอาจไม่ช่วยอะไรคุณมากนัก การเดินทางไปที่นั่นมีความซับซ้อนมากพอควรสำหรับชาวต่างชาติ ผมคิดว่าวิธีที่สะดวกกว่าคือการเรียกรถรับจ้างสักคันที่แล่นผ่านมาในบริเวณนี้”

หญิงสาวต่างชาติเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยท่าทีที่อิดโรย “ฉันพยายามแล้ว ฉันทำอย่างที่คุณแนะนำ แต่ดูเหมือนว่าวิธีดังกล่าวดูจะไม่ใช่วิธีที่พวกคุณใช้เดินทางกันในประเทศนี้”

ผมรู้สึกฉงนกับคำตอบดังกล่าวจนอดเอ่ยถามเธอไม่ได้ “ไม่ใช่วิธีที่พวกเราใช้เดินทางในประเทศนี้?”

คำถามของผมดูจะยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ทำให้เธออิดโรย หญิงสาวผู้นั้นหันไปสั่งเครื่องดื่มจากพนักงานในร้าน เธอสั่งเบียร์ขวดเล็กแบบเดียวกับผม และเมื่อเบียร์มาถึง เธอดื่มมันหนึ่งอึก ถอนหายใจ แล้วกล่าวกับผมว่า

“ฉันเรียกรถรับจ้างตามที่คุณแนะนำ และแม้ว่าจะมีมิเตอร์บอกราคา แต่ดูไม่มีใครพึงใจจะใช้มันเลย ทุกคนปิดมิเตอร์เมื่อเห็นฉันเป็นชาวต่างชาติ พวกเขาบอกว่าการเดินทางที่ดีที่สุดคือการเหมารถไปซึ่งฉันจะประหยัดกว่า แต่ราคาของพวกเขาไม่เคยเท่ากัน ในขณะที่รถคันแรกแจ้งราคาฉันในราคาหนึ่ง รถคันต่อมาดูจะมีราคาค่าโดยสารที่สูงขึ้นทุกที จนในที่สุดฉันก็ได้บทสรุปว่า พวกเขาไม่มีราคากลางและแจ้งราคากับฉันตามอำเภอใจ”

“ฉันเดินจากรถคันสุดท้ายมาพักที่ร้านแห่งนี้และคิดว่ามันควรมีการเดินทางที่สมจริง เป็นจริงและเป็นสิ่งพื้นฐานที่ควรจะเป็น”

 

ผมคลึงขวดเบียร์ที่ว่างเปล่าของตนเองก่อนจะตัดสินใจสั่งเบียร์อีกขวดเป็นเพื่อนร่วมดื่มกับเธอ ในช่วงเวลาขณะนี้ดูไม่มีอะไรดีกว่าการชี้แจงกับเธอถึงระบบการรับมือนักท่องเที่ยวของประเทศตนเอง ผมเริ่มต้นเล่าให้เธอฟังว่าเพราะเหตุใดรถรับจ้างจึงพึงใจที่จะใช้วิธีเหมากับคนต่างชาติ พวกเขามีความเชื่อว่านักท่องเที่ยวคือคนที่มีเงินทองมากที่จะใช้จ่ายได้อย่างไม่ประหยัด สำหรับพวกเรา การท่องเที่ยวคือความฟุ่มเฟือยชนิดหนึ่ง คนที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้จะต้องมีทั้งเวลาและมีฐานะ

ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวประเภท “เป้สะพายหลัง” ที่ต้องคำนวณรายจ่ายต่อวันอย่างกระเหม็ดกระแหม่ มันก็หาได้มีผลใดๆ ต่อความคิดของพวกเขาไม่ พวกเขายังรู้สึกเสมอว่านักท่องเที่ยวควร “จ่าย” หลายสิ่งในราคาที่แพงกว่าผู้คนในประเทศ เพราะว่าพวกเขาเป็นคน “ร่ำรวย”

“แต่ฉันไม่ใช่คนร่ำรวย ฉันทำงานเก็บเงินทั้งปี ก่อนจะลาพักการเรียนจากมหาวิทยาลัยและตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ ฉันได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Beach และชอบมันมากๆ ประเทศไทยในภาพยนตร์เรื่องนั้นสวยงามเหลือเกิน และฉันคิดว่าฉันจะต้องได้พบประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ประเทศนี้อย่างแน่นอน”

“คุณได้ประสบการณ์ดังกล่าวแน่นอน แต่ประสบการณ์ก็เหมือนหลายสิ่งในชีวิตเรา มันมีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เลวร้าย” ผมเอ่ย

“นั่นสิ จริงดังคุณว่า ดังนั้น ฉันควรยิ้มรับค่าโดยสารที่แพงเกินจริงและมองมันในฐานะประสบการณ์สินะ” หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะ

“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ฉันชื่อโจดี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวดัตช์คนหนึ่งที่กำลังหาทางไปพิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ”

 

หลังการแนะนำตัวดังกล่าว หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง เสียงหัวเราะของเธอเปลี่ยนท่าทีอิดโรยของเธอให้เป็นหญิงสาวที่แจ่มใส ผมยิ้มออกมาพร้อมกับบอกเธอว่า ผมยินดีพาเธอไปพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวโดยการใช้บริการรถโดยสารประจำทางหากเธอสนใจ

เพียงแต่ว่าในวันนี้มันเย็นมากเกินไปแล้วสำหรับการไปเยือนพิพิธภัณฑ์ และถ้าเธอยังคงยืนกรานที่จะเก็บรายการนี้ไว้ในสถานที่ที่ต้องไป พรุ่งนี้เช้าผมจะแวะมาเจอเธอที่นี่และจะพาเธอไปถึงที่นั่นด้วยกัน

โจดี้แสดงความดีใจอย่างมากต่อข้อเสนอของผม เธอขอให้ผมมารับเธอที่นี่ในเวลาแปดโมงเช้า แต่ในวันนี้เธออยากขอให้ผมแนะนำอาหารไทยที่เธอจะกินได้อย่างไม่ต้องหวาดกลัวความเผ็ดร้อนจากรสชาติของมัน

ผมนั่งนึกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพาเธอออกจากร้าน เราทั้งคู่ถือขวดเบียร์ไว้ในมือเดินสนทนากันไปบนถนนสายแคบแถบนั้น

ไม่นานนักผมก็พาเธอลัดเลาะออกมายังร้านข้าวต้มที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าอารามหลวง ผมสั่งอาหารรสชาติจืดสามสี่ชนิด ทั้งจับฉ่าย ปลาทอด ไปจนถึงผัดถั่วงอกกับเต้าหู้และคะน้าปลาเค็ม

โจดี้ทดลองใช้ตะเกียบที่แม้ว่าเธอจะใช้มันได้ไม่คล่องแคล่วนักคีบอาหารเหล่านั้น ไม่นานนักบทสนทนาของเราก็เคลื่อนจากเรื่องการเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สู่เป้าหมายในชีวิตของเธอหลังจากการเดินทางกลับประเทศเกิด ไปจนถึงสาขาวิชาที่เธอเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย

โจดี้ร่ำเรียนมาทางประวัติศาสตร์ศิลปะ และนั่นทำให้เธอสนใจการจัดวางสิ่งของต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ และท่ามกลางการสนทนาที่ออกรสนั่นเอง ผมก็ตระหนักขึ้นได้ว่า โจดี้เป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมมีบทสนทนาที่ยาวนาน

เป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมนั่งลงกินอาหารด้วย

และเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมได้ใกล้ชิด เป็นครั้งแรกที่ผมได้ตระหนักว่านับจากการจากไปของปิ่น โลกของเพศตรงข้ามของผมได้ดับสลายไปพร้อมกันด้วย •