ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 กันยายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ท่าอากาศยานต่างความคิด |
เผยแพร่ |
ท่าอากาศยานต่างความคิด
อนุสรณ์ ติปยานนท์
บางอย่างในความรักของเรา (24)
สิ้นคำทักทาย หญิงสาวต่างชาติผู้นั้นวางแก้วกาแฟของเธอลงบนโต๊ะของผม ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พนักสูง ในขณะที่ร้านค้าส่วนใหญ่ยึดถือหลักการที่จะไม่ทำให้เก้าอี้ในร้านนั่งไม่สบายจนเกินไปเพื่อที่ลูกค้าจะไม่ติดใจทอดถอนตัวเองในร้านจนนานเกินควรและเปิดโอกาสให้ลูกค้าคนอื่นได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามา อันหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย ร้านอาหารแห่งนี้กลับทำในทางตรงข้าม เก้าอี้ทุกตัว โต๊ะทุกตัวทำให้ผู้เป็นลูกค้าเกียจคร้านเพิ่มขึ้นจนไม่คิดจะจากไปในเวลาอันสั้น
ผมขยับตัวเป็นสัญญาณถึงการตระหนักรู้ของการมาถึงของคนแปลกหน้า แม้ว่าผมจะใช้ภาษาต่างชาติที่หมายถึงภาษาอังกฤษได้พอควร แต่การต้องมีบทสนทนาแบบกะทันหันก็สร้างความกังวลใจอยู่ดี
ไม่นานเกินครึ่งนาที หญิงสาวผู้นั้นซึ่งบัดนี้ผมมองเธอได้ชัดเจนขึ้นก็หยิบหนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋าสะพายของเธอและเปิดอย่างลวกๆ ไปจนพบหน้าที่ต้องการ เธอกางหน้าหนังสือนั้น หมุนหนังสือให้ตัวอักษรอยู่ในมุมมองของผมก่อนจะเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษว่า “ฉันจะไปถึงที่นี่ได้อย่างไร?”
ผมเพ่งสายตาอ่านข้อความและพิจารณาสถานที่ในหนังสือเล่มนั้น มันคือหนังสือคู่มือการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวแบบเป้หลังหรือ Backpacker ที่ได้รับความนิยมในชื่อของ “ดาวเคราะห์เดียวดาย” ฉบับที่เธอมีนั้นเป็นฉบับที่รวบรวมการเดินทางในสามประเทศอันได้แก่ ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมหนังสือจึงมีขนาดหนากว่าฉบับที่เป็นประเทศเดียวโดดๆ นี่น่าจะเป็นการเดินทางที่ยาวไกลไม่ใช่น้อยหากหญิงสาวผู้นั้นจะไปให้ครบถ้วนถึงสามประเทศตามคำแนะนำ
แน่นอนว่าพรมแดนระหว่างประเทศทั้งสามสามารถเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศได้อย่างสะดวก แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกระทำได้ราบรื่นดังเช่นการเดินทางในประเทศที่เจริญทั่วไป
ผมอ่านรายชื่อของสถานที่ที่หญิงสาวต้องการไปเยือน มันเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา หากเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปผมคงแนะนำให้เริ่มต้นจากการไปรอรถประจำทางที่สนามหลวง มีรถประจำทางหลายสายที่แล่นผ่านหรือแล่นเลียบสถานที่ดังกล่าว
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม ผมไม่แน่ใจว่าคำแนะนำที่ว่าจะเหมาะสมกับเธอ
การเอ่ยว่าหญิงสาวผู้นั้นเป็นหญิงสาวที่มีความงามไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลย
เธอมีเส้นผมยาวสีทองที่แลดูเหมือนผืนพรมมากกว่าเส้นผม
เธอมีดวงตาสีฟ้าที่ทำให้คุณนึกถึงท้องฟ้ายามเช้าที่ปราศจากเมฆหมอก
เธอมีท่อนแขนสีขาวที่ทำให้เรานึกถึงงาช้างชั้นดี
เธอมีรูปร่างที่ทะมัดทะแมง สมส่วน รัดรึง แม้ว่าเธอจะอยู่ในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งขนาดใหญ่ แต่ก็หาได้ซ่อนเร้นความงามของสรีระเช่นนั้น
เธอเป็นหญิงสาวที่สวย งามและงดงามตรงตามนิยามที่เราจะมีกับใครบางคนที่มีความงามเช่นนั้นได้
ผมใช้นิ้วชี้ของตนเองเคาะโต๊ะเบาๆ เพื่อแสดงถึงอาการครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยกับเธอว่า “ผมรู้จักสถานที่แห่งนั้น ผมรู้วิธีเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น แต่ทว่า มันอาจไม่ช่วยอะไรคุณมากนัก การเดินทางไปที่นั่นมีความซับซ้อนมากพอควรสำหรับชาวต่างชาติ ผมคิดว่าวิธีที่สะดวกกว่าคือการเรียกรถรับจ้างสักคันที่แล่นผ่านมาในบริเวณนี้”
หญิงสาวต่างชาติเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยท่าทีที่อิดโรย “ฉันพยายามแล้ว ฉันทำอย่างที่คุณแนะนำ แต่ดูเหมือนว่าวิธีดังกล่าวดูจะไม่ใช่วิธีที่พวกคุณใช้เดินทางกันในประเทศนี้”
ผมรู้สึกฉงนกับคำตอบดังกล่าวจนอดเอ่ยถามเธอไม่ได้ “ไม่ใช่วิธีที่พวกเราใช้เดินทางในประเทศนี้?”
คำถามของผมดูจะยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ทำให้เธออิดโรย หญิงสาวผู้นั้นหันไปสั่งเครื่องดื่มจากพนักงานในร้าน เธอสั่งเบียร์ขวดเล็กแบบเดียวกับผม และเมื่อเบียร์มาถึง เธอดื่มมันหนึ่งอึก ถอนหายใจ แล้วกล่าวกับผมว่า
“ฉันเรียกรถรับจ้างตามที่คุณแนะนำ และแม้ว่าจะมีมิเตอร์บอกราคา แต่ดูไม่มีใครพึงใจจะใช้มันเลย ทุกคนปิดมิเตอร์เมื่อเห็นฉันเป็นชาวต่างชาติ พวกเขาบอกว่าการเดินทางที่ดีที่สุดคือการเหมารถไปซึ่งฉันจะประหยัดกว่า แต่ราคาของพวกเขาไม่เคยเท่ากัน ในขณะที่รถคันแรกแจ้งราคาฉันในราคาหนึ่ง รถคันต่อมาดูจะมีราคาค่าโดยสารที่สูงขึ้นทุกที จนในที่สุดฉันก็ได้บทสรุปว่า พวกเขาไม่มีราคากลางและแจ้งราคากับฉันตามอำเภอใจ”
“ฉันเดินจากรถคันสุดท้ายมาพักที่ร้านแห่งนี้และคิดว่ามันควรมีการเดินทางที่สมจริง เป็นจริงและเป็นสิ่งพื้นฐานที่ควรจะเป็น”
ผมคลึงขวดเบียร์ที่ว่างเปล่าของตนเองก่อนจะตัดสินใจสั่งเบียร์อีกขวดเป็นเพื่อนร่วมดื่มกับเธอ ในช่วงเวลาขณะนี้ดูไม่มีอะไรดีกว่าการชี้แจงกับเธอถึงระบบการรับมือนักท่องเที่ยวของประเทศตนเอง ผมเริ่มต้นเล่าให้เธอฟังว่าเพราะเหตุใดรถรับจ้างจึงพึงใจที่จะใช้วิธีเหมากับคนต่างชาติ พวกเขามีความเชื่อว่านักท่องเที่ยวคือคนที่มีเงินทองมากที่จะใช้จ่ายได้อย่างไม่ประหยัด สำหรับพวกเรา การท่องเที่ยวคือความฟุ่มเฟือยชนิดหนึ่ง คนที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้จะต้องมีทั้งเวลาและมีฐานะ
ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวประเภท “เป้สะพายหลัง” ที่ต้องคำนวณรายจ่ายต่อวันอย่างกระเหม็ดกระแหม่ มันก็หาได้มีผลใดๆ ต่อความคิดของพวกเขาไม่ พวกเขายังรู้สึกเสมอว่านักท่องเที่ยวควร “จ่าย” หลายสิ่งในราคาที่แพงกว่าผู้คนในประเทศ เพราะว่าพวกเขาเป็นคน “ร่ำรวย”
“แต่ฉันไม่ใช่คนร่ำรวย ฉันทำงานเก็บเงินทั้งปี ก่อนจะลาพักการเรียนจากมหาวิทยาลัยและตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ ฉันได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Beach และชอบมันมากๆ ประเทศไทยในภาพยนตร์เรื่องนั้นสวยงามเหลือเกิน และฉันคิดว่าฉันจะต้องได้พบประสบการณ์ที่น่าจดจำที่ประเทศนี้อย่างแน่นอน”
“คุณได้ประสบการณ์ดังกล่าวแน่นอน แต่ประสบการณ์ก็เหมือนหลายสิ่งในชีวิตเรา มันมีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่เลวร้าย” ผมเอ่ย
“นั่นสิ จริงดังคุณว่า ดังนั้น ฉันควรยิ้มรับค่าโดยสารที่แพงเกินจริงและมองมันในฐานะประสบการณ์สินะ” หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะ
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ฉันชื่อโจดี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวดัตช์คนหนึ่งที่กำลังหาทางไปพิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพฯ”
หลังการแนะนำตัวดังกล่าว หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง เสียงหัวเราะของเธอเปลี่ยนท่าทีอิดโรยของเธอให้เป็นหญิงสาวที่แจ่มใส ผมยิ้มออกมาพร้อมกับบอกเธอว่า ผมยินดีพาเธอไปพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวโดยการใช้บริการรถโดยสารประจำทางหากเธอสนใจ
เพียงแต่ว่าในวันนี้มันเย็นมากเกินไปแล้วสำหรับการไปเยือนพิพิธภัณฑ์ และถ้าเธอยังคงยืนกรานที่จะเก็บรายการนี้ไว้ในสถานที่ที่ต้องไป พรุ่งนี้เช้าผมจะแวะมาเจอเธอที่นี่และจะพาเธอไปถึงที่นั่นด้วยกัน
โจดี้แสดงความดีใจอย่างมากต่อข้อเสนอของผม เธอขอให้ผมมารับเธอที่นี่ในเวลาแปดโมงเช้า แต่ในวันนี้เธออยากขอให้ผมแนะนำอาหารไทยที่เธอจะกินได้อย่างไม่ต้องหวาดกลัวความเผ็ดร้อนจากรสชาติของมัน
ผมนั่งนึกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพาเธอออกจากร้าน เราทั้งคู่ถือขวดเบียร์ไว้ในมือเดินสนทนากันไปบนถนนสายแคบแถบนั้น
ไม่นานนักผมก็พาเธอลัดเลาะออกมายังร้านข้าวต้มที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าอารามหลวง ผมสั่งอาหารรสชาติจืดสามสี่ชนิด ทั้งจับฉ่าย ปลาทอด ไปจนถึงผัดถั่วงอกกับเต้าหู้และคะน้าปลาเค็ม
โจดี้ทดลองใช้ตะเกียบที่แม้ว่าเธอจะใช้มันได้ไม่คล่องแคล่วนักคีบอาหารเหล่านั้น ไม่นานนักบทสนทนาของเราก็เคลื่อนจากเรื่องการเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สู่เป้าหมายในชีวิตของเธอหลังจากการเดินทางกลับประเทศเกิด ไปจนถึงสาขาวิชาที่เธอเล่าเรียนในมหาวิทยาลัย
โจดี้ร่ำเรียนมาทางประวัติศาสตร์ศิลปะ และนั่นทำให้เธอสนใจการจัดวางสิ่งของต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ และท่ามกลางการสนทนาที่ออกรสนั่นเอง ผมก็ตระหนักขึ้นได้ว่า โจดี้เป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมมีบทสนทนาที่ยาวนาน
เป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมนั่งลงกินอาหารด้วย
และเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบหลายต่อหลายเดือนที่ผมได้ใกล้ชิด เป็นครั้งแรกที่ผมได้ตระหนักว่านับจากการจากไปของปิ่น โลกของเพศตรงข้ามของผมได้ดับสลายไปพร้อมกันด้วย •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022