สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/สุภาพบุรุษ

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————

สุภาพบุรุษ

————————-

การยกย่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสุภาพบุรุษ หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีของพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก

มองได้หลายแง่

มองในแง่ใส-ใส แบบธรรมดาที่สุด ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ผู้ใต้บังคับบัญชา จะแสดงท่าทีเชิดชู และเป็นกำลังใจ ในยามที่ “นาย” เผชิญมรสุม

แต่หากจะมองให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกนิด

นั่นก็คือขณะที่โผการโยกย้ายนายทหารยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่แนวโน้มสูง ที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จะยังมั่นคงในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกต่อไป ก็ไม่แปลกที่จะแสดง”จุดยืน”เคียงข้างนายให้ชัดเจน

ชัดเจน หลังถูกข่าวลือโหมกระหน่ำมาหลายเดือน ว่าอาจจะถูกโยกไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ด้วยถูกมองว่ามี “ระยะห่าง” จากพล.อ.ประยุทธ์ มากไปสักนิด

ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังจะเข้าสู่สมรภูมิ”เลือกตั้ง”เพื่อ”จะไปต่อ”อาจอยากจะหา ผู้นำทหาร “คนอื่น”มาใกล้ชิดเพื่อสร้างความอบอุ่นยิ่งขึ้น

ดังนั้นการลดกระแสข่าวลือเช่นนี้ลงได้ดีที่สุดสำหรับผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน ก็คือการแสดงจุดยืนเคียงข้างนายนั่นเอง

ด้วยจะทำให้”นาย”อบอุ่นใจ และอาจยุติข่าวลือต่างๆลงด้วยการยืนยันให้พล.อ.ณรงค์พันธ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก ต่อไป

อย่างไรก็ตามหากจะมองให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้นไปอีก ก็พอมองได้เช่นกัน

กล่าวคือมองว่า การเชิดชูพล.อ.ประยุทธ์ของผู้บัญชาการทหารครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การให้กำลังใจ ไม่ใช่การลดระยะห่างระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ณรงค์พันธ์ เท่านั้น

หากแต่มองได้ว่า ผู้บัญชาการทหารบก คือตัวแทนในฝั่งขั้วอนุรักษ์นิยม ที่เป็นเสาหลักสำคัญในการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นครองอำนาจมาตลอด และอาจจะสนับสนุนต่อไป

การแสดงจุดยืนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นสุภาพบุรุษที่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงเสมือนเป็นประกาศกรอบบรรทัดฐานไว้อย่างชัดเจนว่าทุกอย่างจะต้องจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร

ออกมาเป็นลบ อย่างการให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับไม่ขัดขืน

ดังนั้นเมื่อคำวินิจฉัยสุดท้ายเรื่อง 8 ปีออกมา ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับเช่นกัน

แน่นอน ผลอาจจะออกมาให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปต่อ ไม่ว่าจะอีก 2 ปี ตามที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี คือพล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ ว่า

หรือไปจบที่ ปี 2570 อย่างที่มีบางฝ่ายชี้ช่องไว้

ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ โดยเฉพาะ ฝ่ายต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งในและนอกสภา ต้องรับในกรอบนี้ ไม่ไปกดดันหรือละเมิดศาลรัฐธรรมนูญ

จึงถือเป็นการมัดมือฝ่ายต่อต้านเอาไว้กลายๆ

ขณะที่หลายฝ่ายยังเชื่อว่า แม้ มติของศาลรัฐธรรมนุญในเบื้องต้นการพักงานจะไม่เป็นคุณกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่ในเบื้องปลายผลอาจจะกลายเป็นบวกก็ได้

ด้วยในฝั่งขั้วอนุรักษ์ ที่ประกอบด้วยเหล่าเนติบริการ นักร่างรัฐธรรมนูญ นักกฏหมาย สามารถรวมพลังทำศึก”นิติสงคราม” ที่มักให้เกิดปาฏิหารย์แห่งกฏหมายได้เสมอ

ที่ผ่านมาก็ชนะหรือได้เปรียบเสมอมามิใช่หรือ

และในกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ หากยังเป็นตัวเล่นสำคัญในขั้วอนุรักษ์ ก็อาจพลิกกลับมาได้ไปต่อ

นี่คือความสลับซับซ้อนที่เราอาจสามารถมองผ่านคำพูด”สุภาพบุรุษ”ของ ผู้บัญชาการทหารบกได้ตามสมควร