เปิดหู | Smoke on the Water อัคคีภัยให้มา

อัษฎา อาทรไผท

ถ้าเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ สิ่งที่ตามมาย่อมเป็นความสูญเสียไม่มากก็น้อย แต่ทราบไหมครับว่า บางครั้งนอกจากอาณุภาพทำลายล้างทุกสิ่งของมัน ไฟบรรลัยกัลป์ยังแอบให้กำเนิดการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ด้วย

คุณคงยังจำได้ เมื่อหลายปีก่อนมีเรื่องเศร้าจากอัคคีภัยในสถานบันเทิงย่านเอกมัย เป็นเหตุให้มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก เพราะเป็นสถานที่ปิด ตกแต่งด้วยวัสดุติดไฟง่าย ทางออกไม่สามารถระบายคนได้จำนวนมาก ๆ และบางท่านอาจนึกว่าไฟไหม้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดง เวลาผ่านมาจนคนเริ่มจะลืมมันไป ก็เกิดไฟไหม้ผับขึ้นอีกครั้งที่สถานบันเทิงในจังหวัดชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอีกเช่นเคย

ที่บ้านเราเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็มักจะมีผู้เสียชีวิตเสมอมา เพราะการออกแบบสถานบันเทิงที่ไม่เอื้อต่อเหตุฉุกเฉินแบบนี้ แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1971 หรือเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน มีเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ที่นอกจากไม่มีใครตายแล้ว ยังทำให้เกิดบทเพลงร็อคอมตะ Smoke on the Water ขึ้นด้วย

ภาพ Montreux Casino ไฟไหม้

ย้อนกลับไปในยุคนั้น ณ เมือง Montreux ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีคาสิโนใหญ่ชื่อเดียวกับเมือง ในนั้นมีโรงละครที่ใช้แสดงคอนเสิร์ตด้วยอยู่ ตลอดปีศิลปินชั้นนำของโลกต่างสับเปลี่ยนกันมาโชว์ดนตรีสดกันที่นี่ และในวันนั้น เป็นโชว์สุดท้ายก่อนจะมีการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่พอดี โดยมี Frank Zappa and the Mothers of Invention ศิลปินแนวทดลองสุดลึกล้ำของยุคนั้นขึ้นแสดง

Frank Zappa & the mothers of Invention

ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง วงดนตรีร็อคชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ก็กำลังต่อคิวรอใช้สถานที่เดียวกันนี้ สำหรับบันทึกเสียงผลงานชุดใหม่ของพวกเขา แต่ไม่ทันจะได้เข้าไปใช้สถานที่ เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเสียก่อน

ผู้ชมที่น่าจะอินกับดนตรีทดลองของ Frank Zappa น่าจะสนุกเกินไปหน่อย ยิงปืนพลุขึ้นเพดาน ที่ตกแต่งด้วยหวายวัสดุติดไฟง่าย เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ หลังจากไฟค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจนได้ที่ ก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนในที่สุด ไม่ใช่แค่โรงละคร แต่เป็นอาคารคาสิโนขนาดใหญ่ทั้งหลัง ได้ถูกไฟกลืนกิน มอดไหม้เป็นหน้ากลองในพริบตา

ชาวคณะ Deep Purple ที่ตะลึงกับชะตากรรมของสถานที่บันทึกเสียงของพวกเขา ได้เห็นภาพเพลิงไฟลุกโหมมโหฬารที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบเจอมา เมื่อมองไปยังทะเลสาปเจนีวาเบื้องหน้าคาสิโน พวกเขาเห็นแต่ควันไฟดำมืดลอยคลุ้งอยู่บนผิวน้ำ และนั่นคือที่มาของบทเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มี แต่เกิดขึ้นจากสิ่งที่พบเจอ ณ ตอนนั้น “Smoke on the Water”

ในเพลง ๆ นี้ ทั้งเพลงคือการเล่าเรื่องราวของไฟไหม้คาสิโนครั้งนั้น อย่างตรงไปตรงมา โดยมีเนื้อร้องช่วงแรกดังนี้ (พร้อมคำแปลสไตล์ชาวร็อค)

We all came out to Montreux
พวกเราพากันมาที่เมืองมองเทรอ

On the Lake Geneva shoreline
ริมทะเลสาปเจนีวา

To make records with a mobile, yeah

เพื่อมาอัดเสียง(ในโรงละคร)ด้วยรถอัดเสียงเคลื่อนที่(ของวงโรลลิงสโตน)

We didn’t have much time now

เราไม่ค่อยมีเวลาแล้ว

Frank Zappa and the Mothers

ขณะแฟร็ง แซปป้า และ วงเดอะ มาเธอร์

Were at the best place around

กำลังแสดงกันอยู่ในสถานที่ ๆ เจ๋งที่สุดละแวกนั้น

But some stupid with a flare gun

ไอ้งั่งที่มากับปืนพลุ

Burned the place to the ground

ก็เผาที่นั่นแหลกเป็นจุล

Smoke on the water, a fire in the sky
ควันขโมงอยู่บนน้ำ ไฟลุกโชนอยู่บนฟ้า

(Smoke) on the water, you guys are great

ควันขโมงอยู่บนน้ำ พวกมึงนี่มันเจ๋งจริง ๆ ว่ะ

เพลงเล่าต่อไปเรื่อย ๆ ถึงเหตุการณ์จนจบ คล้ายเป็นบันทึกของพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาได้เห็นมากับตาในวันนั้น

เรื่องราวน่าติดตาม ถูกพ่วงด้วยท่อนริฟกีตาร์สุดแสนจะเล่นง่าย แต่เท่และติดหูมิรู้ลืมของ Ritchie Blackmore (ที่กลายเป็นท่อนริฟระดับเพลงชาติมือกีตาร์ ที่ใคร ๆ ที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้าแล้วต้องเล่นกันทุกคน) พาให้เพลง Smoke on the Water ไต่สู่อันดับ 4 ในชาร์ต US Billboard Hot 100 ของปี 1973 และเมื่อวันเวลาผ่านมา เพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงร็อคอมตะนิรันดร์กาลไปแล้ว โดย Rolling Stone ได้จัดให้เป็น 1 ใน 500 เพลงที่ดีที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

เห็นไหมครับว่าทุกกวิกฤติมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่เสมอ และนี่คือที่มาของเพลงที่ดังที่สุดในโลกเพลงหนึ่ง ที่กำเนิดขึ้นมาได้เพราะแรงบันดาลใจจากควันดำ ๆ บนทะเลสาปเจนีวา