29 ส.ค.เคาะ ‘ผบ.ตร.ลักกี้นับเบอร์’ ‘บิ๊กเด่น’ ผงาด – ‘จิรสันต์’ จ่อ น.1 ‘สำราญ’ ขึ้น ผช.ผบ.ตร.- ‘ก้อง’ ไม่ขยับ/บทความโล่เงิน

บทความโล่เงิน

 

29 ส.ค.เคาะ ‘ผบ.ตร.ลักกี้นับเบอร์’

‘บิ๊กเด่น’ ผงาด – ‘จิรสันต์’ จ่อ น.1

‘สำราญ’ ขึ้น ผช.ผบ.ตร.- ‘ก้อง’ ไม่ขยับ

 

ได้ฤกษ์เวลา 14.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เคาะชื่อ ผบ.ตร.คนที่ 13 แทน “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายน

ถัดมาเวลา 15.00 น. ต่อด้วยการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) พิจารณาแต่งตั้งรอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ผบช., รอง ผบช. และ ผบก. ทดแทน 136 ตำแหน่งที่ว่างและสลับโยกย้าย

แน่นอนผู้ที่ชื่อมาแรงตลอด จนเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว คือ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. (นรต.38) เกษียณปี 2566

ทิ้งอีก 2 แคนดิเดต คือ “บิ๊กหิน” พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนอก อาวุโสอันดับ 1 เกษียณปี 2566 ที่ว่ากันว่าพักหลังไม่ชื่นมื่นกับ “บิ๊กปั๊ด” เหตุโดนเบรกหลักสูตรอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง

และอาวุโสอันดับ 3 “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ (นรต.40) ที่เกษียณปี 2567 แม้ได้ชื่อว่าเป็นคนครบเครื่อง ทั้งชื่อชั้นนักบริหารและไฮเทค

 

ส่วนรอง ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง ที่ “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย, “บิ๊กทิน” พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง เกษียณอายุ และต้องตั้งอีกหนึ่งแทนรอง ผบ.ตร.ที่ขึ้น ผบ.ตร. แคนดิเดต ผช.ผบ.ตร.

ที่ต้องชิงกัน มีดังนี้ “บิ๊กป๋อ” พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน อาวุโสอันดับ 1 บุตรชาย พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจคนดัง

“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล (นรต.47) อาวุโสอันดับ 4 นอกจากฉายา “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” แล้ว “แมว เก้าชีวิต” ก็ใช้กับนายพลหนุ่มผู้นี้ได้ นอกจากผลงานเข้าตาแล้ว มีแบ๊กเป็นพี่ใหญ่ แห่ง “3 ป.”

“บิ๊กต่าย” พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (นรต.41) อาวุโสอันดับ 8 ได้แรงหนุนจาก “บิ๊กปั๊ด” เคยนั่งหัวหน้าสำนักงานกันมาก่อน

“บิ๊กต่อ” พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อาวุโสอันดับ 10 (รัฐศาสตร์ มธ.) ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านมักพาดพิงในสภา น่าจะแทรกชื่อขึ้นมาได้

พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง (นรต.39) อาวุโสอันดับ 2 ทำงานใกล้ชิดผู้ใหญ่ มีลุ้นสูง

พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ (นรต.42) อาวุโสอันดับ 6 อดีตนายเวร “ป.ป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.

และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข (นรต.39) อาวุโสอันดับ 7 มาดสุขุมลุ่มลึก ไร้ศัตรู

 

ส่วนระดับ ผช.ผบ.ตร.ที่ว่าง 6 ตำแหน่ง พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้บัญชาการศึกษา (ผบช.ศ.) (นรต.43) อาวุโสอันดับ 1 ขึ้นแน่นอน

ตามด้วย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) (นรต.41) อาวุโสอันดับ 2 ถึงตอนนี้แม้ไม่อยากขยับแต่ต้องอัพเก้าอี้ขึ้นแล้ว พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) (นรต.42) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธภาค 2 (นรต.40) ได้ขึ้น และตัวเต็งนายพลดาวรุ่ง ทิ้งเก้าอี้แม่ทัพเมืองหลวง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. (นรต.50) ทำให้ตำแหน่ง ผบช.น.ว่าง ต้องหาคน “มือถึง” คุมนครบาลอยู่

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (นรต.39) ขออยู่ที่เดิม

เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช “บิ๊กก้อง” ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) (นรต.50) สมัครใจไม่ขยับ เจ้าตัวบอกไม่รีบ ขอใช้เวลานี้พัฒนา บช.ก.ก่อน เพราะอีกหลายโครงการยังไม่แล้วเสร็จดี

ประกอบกับยังสนุกกับการเติมไฟในตัวทีมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งเรื่องการทำงาน ที่หวังตั้งใจให้มีผลงานปราบปรามอาชญากรรมเพื่อสร้างความสงบให้บ้านเมือง สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ให้สมกับสโลแกน ‘มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน’ และก็สมใจเพราะผลงานจับกุมมีต่อเนื่อง รวมไปถึงยังมีความสุขจัดสวัสดิการ เช่น สนามกีฬาหลากชนิด จัดแมตช์เตะบอลระหว่างกองบังคับการ เพื่อให้ลูกน้องและครอบครัวออกกำลังกาย นอกจากจะสร้างความแข็งแรงพ่วงเพิ่มศักยภาพในการทำงานแล้ว ยังถือเป็นการเพิ่มรอยยิ้ม-มิตรภาพ-สามัคคีกันภายในหน่วยอีกด้วย

จึงไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร

 

ส่วน ผบช.ว่าง 13 ตำแหน่ง ที่เป็นไฮไลต์ เห็นจะเป็นเก้าอี้ “น.1” กับ “ผู้บัญชาการไซเบอร์” คาดว่า พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก. (นรต.40) ขยับขึ้น ผบช.สอท. ส่วนเก้าอี้แม่ทัพเมืองหลวงที่มาแรงตอนนี้คือ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. (นรต.40) ขึ้นแท่น มี พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. (นรต.47) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. (นรต.48) ประกบชิง

ส่วน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (นรต.38) ขออยู่ที่เดิม

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.กพ.) (นรต.43) คาดว่าเลื่อนขึ้นนั่ง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ไม่ขยับ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธนายุฒม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 อยู่ที่เดิม

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 เกษียณอายุราชการ คาดว่า พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 อาจขึ้นแทน หรือ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) (นรต.42) สไลด์มา, พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รอง ผบช.น. คาดว่าขึ้นเป็น ผบช.นรต.

 

ส่วนระดับรอง ผบช. ว่าง 36 ตำแหน่งนั้น ผู้ที่ได้รับการเลื่อนชั้นและขยับ ที่น่าสนใจ อาทิ “นครบาล” พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. ขึ้นรอง ผบช.น.

ส่วนสอบสวนกลาง คาด พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. ขึ้นรอง ผบช.ก. เป็นต้น

และผู้บังคับการว่าง 77 ตำแหน่ง ถือว่าเป็นอีกปีที่มีนายพลหน้าใหม่ ใครมีกำลังภายในใส่กันเต็มที่ ไม่รู้จะเหลือที่ว่างสำหรับคนทำงานมากน้อยแค่ไหน