ใส่บ่าแบกหาม พรพิมล ลิ่มเจริญ/Genius

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

Genius

เธอจ๊ะ

Genius ถูกใจฉันจริง

เธอเหมือนฉันไหม?

อยากเขียนอะไรยาวๆ ไหม?

เขียนนิยาย เขียนเรื่องสั้น เขียนบทความ เขียนวิทยานิพนธ์ เขียนบล๊อกก็เอาดี

แต่จะเขียนอะไรทีไรทุกอย่างมันเริ่มต้นได้อย่างยากลำบาก

เวลาเขียนก็รู้สึกเหมือนกำลังป่ายปีนภูเขาสูงชัน พอเขียนเสร็จ กลับไม่ยักรู้สึกว่าได้พิชิตยอดเขา กลับกลายเป็นมันไม่ได้ดังใจ เลยกลับไปเริ่มต้นเขียนเริ่มตะเกียกตะกายป่ายปีนใหม่อีก พากเพียรเขียนต่อไป เพื่อจะได้กลับไปตะเกียกตะกายอีก

สนุกดีนะวงจรแบบนี้ ฉันชอบ

Genius เป็นหนังชีวิต สร้างจากหนังสือชื่อ Max Perkins : Editor of Genius เขียนโดย A. Scott Berg หนังสือได้รางวัล National Book Award ประจำปี 1978

หนังสือได้รางวัลก็เตะตาผู้สร้างหนังสินะ

The New Yorker ฉบับวันที่ 16 มิถุนายน 2516 มีคอลัมน์เขียนถึงคุณ A. Scott Berg อีกทีว่า นอกจากจะเป็นเพื่อนบ้านกับ Max Perkins แล้วยังเป็นเพื่อนบ้านกับ Katharine Hepburn นักแสดงอเมริกันผู้เป็นอมตะตลอดกาลอีกด้วย คุณเบิร์กเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของทั้งสองท่าน

กับคุณ Katharine Hepburn คุณเบิร์กติดใจตรงที่ว่า คนอะไรมีรูปปั้นของตนเองไว้ในบ้าน

ปกติเราจะเห็นรูปปั้นแบบนี้ ที่ฝรั่งเรียกว่า bust หรือก็คือรูปปั้นที่มีส่วนหัวและไหล่เท่านั้น ไม่ใช่แบบเต็มตัว ซึ่งก็มักจะเป็นรูปเบโธเฟ่น ไอน์สไตน์ หรือไม่ก็ผู้หญิงทรงศักดิ์ชั้นสูงสมัยโบราณอะไรแบบนั้น

นี่ ที่บ้านคุณแคเธอรีนมีรูปปั้นตนเอง

คุณแคเธอรีนไม่ได้ยี่หระกับคำถามนี้ หากแต่มีคำตอบโก้ๆ ง่ายๆ ให้คุณเบิร์กว่า “That”s why he led a quiet life of books and I”m an actress!”

นั่นก็คือเหตุผลว่า ทำไมเขาถึงมีชีวิตเงียบๆ กับหนังสือและฉันเป็นนักแสดง

หนังสือ Max Perkins : Editor of Genius เป็นเรื่องราวของ Max Perkins : Editor of Genius ชื่อเรื่องก็บ่งบอกว่าเป็นเรื่องของ Max Perkins ผู้ประกอบอาชีพเป็น บรรณาธิการ ในที่นี้คือ book editor

editor อ่านว่า เอ๊ะ ดิ เทอร์

มาจากคำกริยา edit อ่านว่า เอ๊ะ ดิท

ตัว อี ไม่ได้ออกเสียง อี เสมอไป ออกเสียง เอะ ก็ได้ อย่างในกรณีนี้

คุณแม็กซ์ เพอร์คิ่นส์ เป็นบรรณาธิการผู้ค้นพบนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่และยิ่งยงอย่าง Ernest Hemingway และ F. Scott Fitzgerald จนมาถึง Thomas Wolfe ในเรื่องนี้

Max Perkins เป็นบรรณาธิการให้สำนักพิมพ์ Charles Scribner”s Sons

Colin Firth แสดงเป็น Maxwell Perkins

Jude Law แสดงเป็น Thomas Wolfe นักเขียนที่กำลังรอการค้นพบ เป็นเพชรรอการเจียระไน

คุณแม็กซ์ เพอร์คิ่นส์ มีภรรยาแล้ว มีบุตรสาว 5 คน วันๆ คุณแม็กซ์ก็ฝังตัวเองในกองต้นฉบับ อ่านไปพลางคิดหาวิธีปรับปรุงไปพลาง ก็ตั้งแต่จัดการแก้ไข เขียนให้ใหม่ หาทางบอกให้นักเขียนกลับคิด ใคร่ครวญอีกทีให้ถี่ถ้วนแล้วเพิ่มเติมหรือตัดทอน ไปจนพิสูจน์อักษร จิปาถะ

My job, my only job,

is to put good books

into the hands of readers.

งานผม อย่างเดียวที่ผมทำ

คือทำให้หนังสือดี

ไปอยู่ในมือผู้อ่านให้ได้

คุณแม็กซ์กล่าวไว้ในตอนหนึ่ง หรือก็คือพูดสั้นๆ ว่า ทำทุกอย่างให้หนังสือมันดี!

วันหนึ่งต้นฉบับของ คุณโทมัส วูล์ฟ ก็ตกมาถึงมือของคุณแม็กซ์

ฉันชอบฉากตอนที่มีคนเอาต้นฉบับมาส่งถึงมือคุณแม็กซ์ คำถามแรกที่คุณแม็กซ์ถาม คือ

Please tell me it”s double-spaced.

ช่วยบอกว่ามันเว้นสองบรรทัดมาแล้ว

double-spaced เราก็เรียกทับศัพท์กันแหละนะว่า ดับเบิ้ลสเปซ เพราะเป็นไทยจะได้อย่างยาวว่า ระยะระหว่างบรรทัดให้เว้นระยะห่าง 2 ช่วงบรรทัดพิมพ์

ใครที่ต้องตรวจงานเขียนใดๆ ก็ต้องอยากให้ส่งมาแบบเว้นบรรทัดสองบรรทัดด้วยกันทั้งนั้น เพราะจะได้มีพื้นที่ให้วงกลม ทำเครื่องหมายต่างๆ แล้วแก้ไขคำที่ถูกลงไปได้

แต่พอถามว่าหนังสือดีไหม คนตอบตอบว่า

No. But it”s unique.

ไม่ แต่ไม่เหมือนใคร

แล้วคุณแม็กซ์ก็พบความแปลกใหม่ จนสุดท้ายก็ตัดสินใจให้ต้นฉบับนั้นได้ตีพิมพ์ เชิญคุณวูล์ฟผู้เขียนมารับฟังข่าว ทำเอาคุณวูล์ฟอึ้งเพราะตกใจ เพราะโดนปฏิเสธมาไม่รู้กี่สำนักพิมพ์แล้ว

All I want to do is to bring your work

to the public in its best possible form.

เราต้องการให้งานของคุณ

ไปสู่สาธารณะในรูปแบบที่ดีที่สุด

ที่จะเป็นไปได้

ในหนังก็จะแสดงให้เราเห็นว่า “เรา” ทำอะไรกันบ้าง ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ บรรณาธิการและนักเขียนต้องพูดต้องคุย แต่เรื่องนี้เขาก็เน้นให้เป็นเรื่องของบรรณาธิการแหละ ว่าต้องดูแลและจัดการ โน้มน้าวนักเขียนให้เขียนออกมาให้ดีเชียว กระบวนการอันนำมาซึ่งความคิดและผลิตงานมันน่าทึ่งตรึงใจนัก

คุณแม็กซ์และครอบครัว ได้ไปรู้จักกับคุณวูล์ฟและภรรยา จนได้สนิทสนมกัน

ได้เห็นว่าคุณวูล์ฟรักภรรยาเป็นที่ยิ่ง เพราะในช่วงตะเกียกตะกายจะให้ผลงานเขียนไปตีพิมพ์ ก็มีเพียงเธอคนนี้ที่เห็นค่า

No one ever thought

my writing was worth a dime.

ไม่มีใครคิดว่า

งานเขียนของผมจะมีค่าอะไรสักนิด

not worth a dime เป็นสำนวนอเมริกัน หมายถึง ไม่มีค่า ไร้ค่า

dime เป็นเหรียญเล็กๆ มีมูลค่าแค่ 10 เซนต์ คือแบบทำหายก็ไม่เป็นไร เขาใช้มาเปรียบเทียบ ให้เห็นว่าเทียบกับมูลค่าที่นิดน้อยต้อยตีวิดอย่าง 10 เซนต์ก็ยังเทียบค่าได้ไม่เท่าเลย

บรรณาธิการต้องดูแลแม้กระทั่งชื่อ คุณแม็กซ์ยกตัวอย่างงานของ F. Scott Fitzgerald เดิมชื่อ Trimalchio in West Egg ก่อนจะมาเป็น The Great Gatsby

หนังสือของ คุณโทมัส วูล์ฟ เลยได้ชื่อ Look Homeward, Angel แทน O Lost ที่ตั้งชื่อมาแต่เดิม

ทันทีที่หนังสือเล่มแรกขายดีติดอันดับที่หนึ่ง ผู้คนเรียกคุณโทมัสว่า Genius ในบัดดล!

You don”t mind if I steal him

for a tick or two?

ไม่ว่าอะไรนะคะ

ถ้าจะขอยืมตัวไปสักครู่น่ะ

tick ในที่นี้ ความหมายเดียวกับ moment, instant หรือ ชั่วครู่ สักครู่

ไปกินข้าวภัตตาคารร้านอาหารหรู ไม่แปลกใจเลยที่คนจะมารู้จักทักทาย ชีวิตเปลี่ยนแปลง

คุณแม็กซ์นั้นเห็นก็เป็นคุณโทมัสเป็นดั่งลูกชาย และเห็นคุณค่าความเป็นนักเขียนในตัวเขา

A writer like tom,

I get one in a lifetime.

นักเขียนอย่างทอม

ชีวิตหนึ่งมีมาก็สักคนเดียวนะ

แต่พอทำหนังสือเล่มที่สอง ชีวิตทั้งสองก็ยิ่งหนักหนา แม้จะทำงานด้วยกันแล้วสนุกมาก แต่ ณ จุดหนึ่ง คุณแม็กซ์ให้เวลากับคุณโทมัสเกินกว่าที่ให้กับครอบครัว และคุณโทมัสก็เช่นกัน

สุดท้ายก็ได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตกันไป ชีวิตมีมากกว่าจะทำแค่ทำงาน!

วันก่อนอ่านบทความในหนังสือพิมพ์เรื่องว่าในอนาคตแบบ 20-30 ปีข้างหน้าจะมีอาชีพใดที่ค่อยๆ หายไปจากโลกนี้ได้บ้าง ปกติก็จะมีแบบบุรุษไปรษณีย์ ช่างประจำแท่นพิมพ์ พนักงานพิมพ์ดีด คนอ่านมิเตอร์ ดีเจ แต่อันนี้มีบรรณาธิการด้วย

ในข่าวเขาเขียนมาแค่ editor ซึ่งฉันก็คาดคะเนว่าไม่น่ามาถึง book editor หรอก งานหน้าที่นี้อย่างไรก็ต้องมี เขียนนิยายก็ต้องมีคนมาอ่านให้เรียบเรียงให้สิ จะมีซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นไหนมาจัดการได้

ยิ่งได้ดูกระบวนการจากหนังเรื่องนี้ ฉันยิ่งเห็นความเป็นไม่ได้ของมัน

ฉันเอง