Technical Time-out

SearchSri

 

แค่เริ่มก็เหนื่อยแล้ว

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดฤดูกาลไม่กี่สัปดาห์ก็มีประเด็นร้อนที่แฟนบอลให้ความสนใจกันไม่น้อยแล้ว

ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่าที่มีลุ้น 4 ถ้วยเมื่อฤดูกาลก่อน เริ่มต้นอย่างทุลักทุเลด้วยการเสมอ 2 นัดแรก พร้อมเจอวิกฤตผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ผิดกับแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดหัวได้อย่างสวยหรูเก็บชัย 2 นัดรวด เช่นเดียวกับ อาร์เซนอล

ขณะที่ดาร์บี้แมตช์กรุงลอนดอนระหว่าง 2 ทีมกลุ่ม “บิ๊ก 6” เชลซี และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ลงเอยอย่างดุเดือดเมื่อกุนซือของทั้ง 2 ทีมต่างโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

แต่ไฮไลต์ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่เท่าการออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แพ้ 2 นัดรวด จมบ๊วยของตารางด้วยผลต่างประตูได้เสียแย่ที่สุดในลีก

 

เป็นการเริ่มต้นที่ตรงข้ามกับความคาดหวังของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทีมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ ซึ่งเฝ้ารออย่างมีความหวังว่าปีศาจแดงภายใต้กุนซือคนใหม่ไฟแรงอย่าง อีริก เทน ฮาก จะไปได้ดี หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่แย่จนเกินไป เมื่อพิจารณาจากช่วงอุ่นเครื่องพรีซีซั่นที่ทีมทำผลงานได้ดี

แต่เมื่อถึงการแข่งขันจริง อะไรๆ กลับไม่เป็นไปอย่างที่หวัง ซึ่งเทน ฮาก ปรารภออกมาตรงๆ หลังเกมพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ยับเยิน 0-4 ว่า ทีมจำเป็นต้องเสริมนักเตะฝีเท้าดีมากกว่านี้

ตลาดซื้อขายรอบนี้ แมนฯ ยูเซ็นสัญญานักเตะมาแล้ว 3 คน คือ ไทเรลล์ มาลาเซีย, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ คริสเตียน อีริกเซ่น 2 รายหลังมีข่าวมาเรื่อยๆ ว่าเป็นคนที่เทน ฮาก อยากได้ แต่เป้าหมายอันดับ 1 จริงๆ อย่าง แฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางบาร์เซโลนา เป็นมหากาพย์ยืดยาวที่ทำหลายคนเซ็ง

เทน ฮาก บอกว่า การจะเสริมทีมนั้นไม่ใช่แค่สักแต่ซื้อนักเตะเข้าทีม แต่ต้องเป็นคนที่ “ใช่” ด้วย ซึ่งที่ผ่านๆ มา ก็มีรายงานมาตลอดว่า กุนซือชาวดัตช์มองว่า เดอ ยอง จะตอบโจทย์การปรับโฉมแดนกลางของผีที่ขาดประสิทธิภาพในช่วงหลังได้

ปัญหาคือ การซื้อขายเดอ ยอง ยืดเยื้อยาวนานเกินไป เพราะตัวนักเตะมีปัญหากับต้นสังกัดบาร์ซ่า เรื่องค่าเหนื่อยที่ค้าง ประกอบกับข่าวลือว่าเขาลังเลที่จะย้ายร่วมทีมปีศาจแดงเพราะไม่ได้เล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

หลายคนมองว่า การที่ปิดดีลเดอ ยอง ไม่ได้เสียที ทำให้ผีเสียโอกาสในการเจรจาหาตัวแทนคนอื่น และยิ่งเวลาผ่านไปใกล้ปิดตลาดมากเท่าไร โอกาสที่จะซื้อเป้าหมายรองก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ

 

อีกประเด็นที่มองข้ามไม่ได้คือเรื่องอนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด ซุป’ตาร์ที่มีข่าวว่าร่ำๆ อยากย้ายทีม

หลายคนเตือนตั้งแต่ตอนมีข่าวใหม่ๆ แล้วว่า สโมสรต้องรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้จบและประกาศออกมาให้ชัดเจน จะขายก็รีบขาย จะไม่ขายก็ต้องให้เจ้าตัวแสดงออกชัดเจนด้วย เพราะตอนนี้มีข่าวลือหนาหูว่าเรื่องโรนัลโด้ทำลายสมาธิและขวัญกำลังใจของเพื่อนร่วมทีมไม่น้อย ถึงขั้นมีปากเสียงกันในช่วงซ้อมก่อนเกมสัปดาห์ที่ 2

แถมยังลืออีกว่า เทน ฮาก ไม่พอใจบอร์ดบริหารที่ทำงานช้า และไม่สามารถซื้อนักเตะได้ตามที่ตกลงกันไว้

ไม่ใช่แค่ไม่ได้ตัวกองกลางที่ต้องการ กองหน้าก็ยังขาดแคลนเพราะแข้งที่มีอยู่อย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์ซิยาล, เจดอน ซานโช่ ก็ยังฟอร์มไม่คงที่ ส่วนโรนัลโด้ ฝีเท้าดี แต่อายุใกล้ 38 ปีแล้ว ยังไงก็ไม่เหมือนเก่า

 

สุดท้ายแฟนบอลมองว่าต้นตอของปัญหาไม่พ้นครอบครัว เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของทีม ที่แฟนๆ รู้สึกว่าเข้ามาหากำไรจากทีมและเน้นการทำธุรกิจมากเกินไป แต่ขาดความเข้าใจเรื่องฟุตบอลจนปล่อยให้ทีมเละเทะขนาดนี้

แกรี่ เนวิลล์ ตำนานกองหลังของแมนฯ ยูซึ่งทำหน้าที่นักวิจารณ์บอกว่า ตอนแรกคิดว่ารากเหง้าของปัญหาคือ เอ็ด วู้ดเวิร์ด อดีตประธานบริหารซึ่งเก่งแต่เรื่องหาเงิน แต่ไม่รู้เรื่องฟุตบอล การให้เขารับผิดชอบเรื่องซื้อขายนักเตะเป็นความผิดมหันต์ แต่ถึงตอนนี้วู้ดเวิร์ดจะไม่อยู่แล้ว แต่ปัญหามากมายก็ยังคาราคาซัง เป็นเพราะครอบครัวเกลเซอร์ยังอยู่ และผิดตรงที่เจ้าของทีมตั้งวู้ดเวิร์ดมาทำงานที่ไม่ถนัดตั้งแต่แรก

การเริ่มต้นที่น่าผิดหวังใน 2 นัดแรก ทำให้กระแสต่อต้านเกลเซอร์ในหมู่แฟนผีนับวันยิ่งรุนแรงขึ้น แต่ถ้าไม่มีกลุ่มทุนไหนเสนอตัวเข้าไปเทกโอเวอร์สโมสรจริงๆ จังๆ ก็คงยากที่เกลเซอร์จะปล่อยมือในเร็วๆ นี้

จึงต้องฝากความหวังกับช่วงตลาดซื้อขายที่เหลือเวลาอีกไม่มาก กับฝีมือของอีริก เทน ฮาก ในการปลุกสปิริตลูกทีมให้กลับมากู้ศรัทธาให้ได้โดยเร็ว

อย่าลืมว่าฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซนอล เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการแพ้ 3 นัดรวดจนโดนวิจารณ์ต่างๆ นานา แถมระหว่างฤดูกาลก็มีปัญหาภายในเรื่องนักเตะและการซื้อขายไม่น้อย แต่สุดท้ายก็กลับมาตั้งหลักจนคว้าอันดับ 5 ของตารางได้สำเร็จ

ไม่มีอะไรการันตีว่าแมนฯ ยูจะเป็นแบบเดียวกับปืนใหญ่ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นว่า ถึงจะเริ่มต้นแย่ยังไง ฤดูกาลนี้ก็ยังอีกยาวไกล มีเวลาให้ฮึดกลับขึ้นมาใหม่ได้เสมอ •

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022