‘เสียงเชียร์’ ที่เหลืออยู่/เมนูข้อมุล นายดาต้า

เมนูข้อมุล

นายดาต้า

 

‘เสียงเชียร์’ ที่เหลืออยู่

 

นักกฎหมายเกือบทุกคน ไม่ว่าจะระดับปรมาจารย์ หรือรุ่นที่เพิ่งร้อนวิชา หากไม่ได้อยู่ในก๊วนเสวยวาสนาได้ชีวิตที่อิ่มเอมจากขบวนการสืบทอดอำนาจ ล้วนแล้วแต่เรียงหน้ากันออกมาแสดงความเห็นเรื่อง “8 ปีบิ๊กตู่ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี” ไปในทางที่ยืนยันว่า “ขัดรัฐธรรมนูญ” ทั้งนั้น

เหมือนกับไม่ว่าใครก็ตามที่ “สามัญสำนึก” ยังทำงานเป็นปกติอยู่ได้บ้าง จะไม่มีทางคิดเห็นไปทางอื่นได้ เพราะไม่มีบทบัญญัติครั้งใหม่ที่แสดงเจตนารมณ์ของการร่างชัดเจนไปยิ่งกว่า “รัฐธรรมนูญปี 2560” ว่า “ไม่อนุญาตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี ไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่เสียด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับเป็นซ้อนกันมา 2 สมัยติดๆ”

แต่ก็อย่างว่าแหละ ประเทศเราในยุคสมัยเช่นนี้ ใช่ยกเอา “จิตสำนึก” ขึ้นมาเรียกร้องให้รักษาไว้ แล้วจะได้สามารถดำรงอยู่ในความเหมาะควรได้

ความ “เขี้ยวลากดิน” ของเหล่าผู้เสวยวาสนาในทุกมิติ ชนิดเข้าขั้น “DF MK” ยังทรงอิทธิฤทธิ์กำหนดชะตากรรมของประเทศชาติได้เสมอ

แม้สิ่งมีชีวิตจำพวกนี้จะดูมี “ละอาย” หลงเหลือในสำนึกบ้าง แต่ยังจำเป็นต้องทำหน้าที่ปกป้อง “ขบวนการสืบทอดอำนาจ” แม้จะด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าฟันธงว่า “ตู่อยู่ต่อได้” ด้วยการเปิดทางรอดไว้ให้ด้วยการชี้นำว่า “เป็นเรื่องข้อกฎหมายมีผู้ตีความขัดแย้งกัน ซึ่งทางออกที่ถูกต้องที่สุดคือยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งแม้จะไม่เผยโฉมของความหวังว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะตีความอย่างไร

แต่ไม่มีใครไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะเชื่อมั่นในผลของชี้ขาดว่าจะต้องเป็นไปตามที่ “ดีไซน์” ไว้

ด้วยบ้านนี้เมืองนี้เป็นเช่นนั้นมาอย่างน้อย 8 ปีเต็มๆ

 

หากถามว่า “ประชาชนคิดอย่างไร” กับภารกิจสนอง “เขาอยากอยู่ยาว” ของบรรดา “เหาฉลาม” เหล่านี้

เมื่อเร็วๆ นี้ “นิด้าโพล” สำรวจออกมา 2 เรื่อง

เรื่องแรก “8 ปี นายกรัฐมนตรีกับอนาคตการเมืองของ 3 ป.”

ในคำถาม “บุคคลในในกลุ่ม 3 ป.ที่ประชาชนเชื่อว่ายังคงมีบทบาทจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า” ร้อยละ 55.18 เชื่อว่าทั้ง 3 ป.จะไม่มีบทบาททางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล, ร้อยละ 27.36 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, ร้อยละ 24.77 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ร้อยละ 19.44 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ในคำถาม “บุคคลในกลุ่ม 3 ป.ที่ประชาชนต้องการให้มีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังเลือกตั้งสมัยหน้า” มากถึงร้อยละ 80.03 ไม่ต้องการให้ทั้ง 3 ป.มีบทบาท, ร้อยละ 14.25 พล.อ.ประยุทธ์, ร้อยละ 7.39 พล.อ.ประวิตร, ร้อยละ 7.16 พล.อ.อนุพงษ์

แปลว่าคนประเทศนี้ที่ต้องการบทบาททางการเมืองของ 3 ป.นั้น แทบไม่เหลือแล้ว

โพลที่ 2 เรื่อง “ข้อตกลงทางการเมืองพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย” อันคล้ายกับทางเลือกใหม่ของ “โอกาสสืบทอดอำนาจ” คือให้พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งรองรับการสืบทอดอำนาจมาร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยที่ประกาศยืนอยู่ข้างประชาชน

ในคำถาม “เชื่อหรือไม่ว่ามีข้อตกลงระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยในการเปลี่ยนสูตรการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจากหาร 500 มาเป็นหาร 100” คำตอบร้อยละ 40.32 ไม่เชื่อเลย, ร้อยละ 21.80 ไม่ค่อยเชื่อ, ร้อยละ 17.91 ค่อนข้างเชื่อ, ร้อยละ 9.38 เชื่อมาก

และคำถาม “เชื่อหรือไม่ว่ามีข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยในการสนับสนุน พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์” คำตอบร้อยละ 59.76 ไม่เชื่อเลย, ร้อยละ 17.45 ไม่ค่อยเชื่อ, ร้อยละ 13.87 คนข้างเชื่อ, ร้อยละ 7.74 เชื่อมาก

 

จากผลโพลทั้งหมด เห็นได้ชัดว่า ความรู้สึกนึกคิดของประชาชนส่วนใหญ่นั้นไม่เหลือความเชื่อมั่นใน “ขบวนการสืบทอดอำนาจ” ไม่ว่าจะในรูปแบบและโอกาสแบบไหนแล้ว

และคงเพราะการเห็นสภาพเช่นนี้เองบรรดาพลพรรค “แด_ฟรี มีเกียรติ” จึงหาโอกาสให้กับ “เขาอยากอยู่ยาว” กันสุดฤทธิ์

แม้จะสัมผัสได้ด้วยท่าทีที่ยังเหลือ “ความเขินอาย” อยู่นิดหน่อยก็ตาม