การเมืองไม่นิ่ง กองทัพระส่ำ ‘บิ๊กตู่’ ทิ้งทวนโผทหาร สัญญาณเงียบ ‘บิ๊กบี้’ กับสัญญาณดีๆ ของ ‘บิ๊กต่อ’ ทร.กรุ่น ทอ.ระอุ/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

การเมืองไม่นิ่ง

กองทัพระส่ำ

‘บิ๊กตู่’ ทิ้งทวนโผทหาร

สัญญาณเงียบ ‘บิ๊กบี้’

กับสัญญาณดีๆ ของ ‘บิ๊กต่อ’

ทร.กรุ่น ทอ.ระอุ

 

การแต่งตั้งโยกย้ายทหารกำลังร้อนไปพร้อมๆ กับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีผลต่ออนาคตของบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำลังจะถึงปลายทาง ที่ทำให้ 3 เหล่าทัพ เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหว

โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพเรือ ดูจะแน่วแน่ ชัดเจนที่สุดว่า บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. จะเสนอชื่อบิ๊กจอร์ช พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.คนใหม่แทน หลังจากที่ดึงตัวกลับมาจากรอง เสธ.ทหาร บก.ทัพไทย เมื่อโยกย้ายเมษายน 2565 ที่ผ่านมา

แต่ทว่า ก็มีความเคลื่อนไหวภายในเตรียมทหาร 21 ในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. ที่ครองอัตราพลเรือเอกพิเศษ อาวุโสกว่า พล.ร.อ.เชิงชาย รุ่นน้อง ตท.22

อีกทั้งยังเคยได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ผบ.ทร.มาแล้ว ในโยกย้ายกันยายน 2564 แต่ก็ต้องหลบทางให้ พล.ร.อ.สมประสงค์เอง ที่มีพลังหนุนจากกลาโหม ให้ข้ามจากรองปลัดกลาโหม กลับมาเป็น ผบ.ทร. เพราะอาวุโสสูงสุดในเหล่าทหารเรือในเวลานั้น

ถ้าเป็นความสัมพันธ์ในระดับปกติ โยกย้ายครั้งนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ก็อาจจะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ธีรกุล เป็น ผบ.ทร. เสมือนขอบคุณที่หลีกทางให้ในปีที่แล้ว

แต่เพราะความสัมพันธ์ไม่ปกติ ด้วยภาพลักษณ์ของ พล.ร.อ.ธีรกุล เป็นทายาทที่บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชีย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร.วางตัวไว้

อีกทั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนว่า พล.ร.อ.สมประสงค์พยายามล้างบางนายทหารที่ พล.ร.อ.ลือชัยวางตัวในตำแหน่งต่างๆ เอาไว้ แม้แต่การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ในพระราชวังเดิม ทร. ที่ พล.ร.อ.ลือชัยทำเอาไว้

ด้วยเพราะ 2 ปีที่เป็น ผบ.ทร. พล.ร.อ.ลือชัยเป็นคู่กรณีมากมาย รวมทั้งอดีต ผบ.ทร.หลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ พล.ร.อ.ลือชัย

พล.ร.อ.สมประสงค์จึงต้องมาแก้ไขทุกอย่างเสียใหม่ แต่ก็ทำให้ยิ่งเกิดความขัดแย้ง แต่ที่พีกสุดคือ การเด้งบิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผช.ผบ.ทร. ทายาทบิ๊กลือ สลับไปเป็นรอง เสธ.ทหารแทน แล้วเอา พล.ร.อ.เชิงชายกลับมา แล้วดันขึ้นเป็น ผบ.ทร.ในโผนี้

แม้จะมีรายงานข่าวว่า มีการร้องขอความเป็นธรรมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้พิจารณาปัญหาในกองทัพเรือ และคืนความชอบธรรมให้ พล.ร.อ.ธีรกุล

แต่ฝ่าย พล.ร.อ.สมประสงค์ก็ไม่ใช่จะยอมง่ายๆ เพราะก็สายตรงถึง พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีข่าวสะพัดออกมาจากบ้านป่ารอยต่อฯ ว่า พล.ร.อ.สมประสงค์เข้าไปพบบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พี่ใหญ่แล้ว ที่อาจจะไปชี้แจงโครงการเรือดำน้ำ ที่มีปัญหาเครื่องยนต์ จนอาจจะต้องยอมเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์จีน แทนเยอรมนี โดยไม่ยกเลิกสัญญาก็เป็นได้ ทั้งนี้ มี พล.ร.อ.เชิงชายร่วมคณะไปด้วย จนเกิดกระแสข่าวลือว่า พาว่าที่ ผบ.ทร.ไปแนะนำตัว และมี พล.อ.ประวิตรเป็นกองหนุน หากต้องวัดพลังกับ พล.อ.ประยุทธ์

แต่โดยหลักการแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ล้วงลูก จะยึดตามที่ ผบ.เหล่าทัพเสนอมา ยกเว้นกรณีจำเป็น

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย, พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์

สถานการณ์ทางการเมือง ที่ทำให้อนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่แน่นอนว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ ในสมัยหน้าอีกหรือไม่

อย่างกรณีการตีความวาระการเป็นนายกฯ 8 ปี ที่ถูกโหมโจมตีอย่างหนัก ด้วยแง่มุมของกฎหมาย หรือแม้แต่การที่ พล.อ.ประวิตรหลุดข้อมูลวงในว่า พล.อ.ประยุทธ์จะรอดปม 8 ปี 24 สิงหาคม 2565 นี้ แต่ทว่า อาจอยู่ได้ในสมัยหน้าแค่ 2 ปี หมายถึง การนับอายุนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อ 6 เมษายน 2560 ดังนั้น จะเป็นนายกฯ ได้อีกจนถึงปี 2568

และแม้จะยังเป็นนายกฯ ได้จนถึงปี 2568 แต่ก็ใช่ว่าหลังการเลือกตั้งในปีหน้า พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯ ได้ง่ายๆ

แล้วถ้าเหลือเวลาที่จะเป็นนายกฯ ได้แค่ 2 ปีเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังจะไปต่อ จะเป็นนายกฯ อีกหรือ

อีกทั้งสัญญาณการเร่งเปิดตัวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ก็อาจเป็นสัญญาณชี้ว่า นายพีระพันธุ์ สายเลือดทหาร คือทายาททางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่ได้เคยวางตัวเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งที่มีข่าวว่า บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นคนแนะนำ เพราะมีความสนิทสนม เพราะเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียลด้วยกัน พล.อ.อภิรัชต์เป็นรุ่นน้อง

นี่อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังนับถอยหลัง และเตรียมวางตัวนักการเมือง และบุคคลที่เข้ามาช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่ก็ล้วนเป็นกองหนุน พล.อ.ประยุทธ์เอาไว้แล้ว โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไปอยู่เบื้องหลัง

ไม่แค่นั้น ยังมีสัญญาณออกมาจากคนใกล้ตัวบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย ว่า นับถอยหลังสู่การพ้นอำนาจแล้ว เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ย้ำเสมอว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน ก็จะกลับบ้านพักผ่อนด้วย

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ประเด็นเหล่านี้ ส่งผลต่อบรรยากาศในกองทัพไม่น้อย เพราะกลับมาเกิดกระแสข่าวสะพัดกันอีกครั้งว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องจัดโผทหารครั้งนี้แบบทิ้งทวน

กระแสข่าวลือการเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. จึงสะพัด ทบ.อีกครั้ง โดยเฉพาะในแวดวงเตรียมทหาร 23 ที่มั่นใจว่า บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทบ. น้องรักทหารเสือราชินี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.ในโผนี้เลย ไม่ต้องรอจนบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เกษียณกันยายน 2566 แล้ว

ทั้งนี้เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ต้องมองยาวถึงสถานการณ์ในปีหน้า ที่จะมีทั้งการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หากเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจ และเกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้น ผบ.ทบ.ในเวลานั้นจะมีบทบาทสำคัญในการดูแลความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง และอาจทำให้ทหารต้องมาควบคุมสถานการณ์อีกครั้ง

ดังนั้น จึงต้องเลือก ผบ.ทบ.ที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์ จึงต้องให้ พล.อ.เจริญชัย น้องรักที่ไว้วางใจ ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.เลย เพื่อให้นั่ง 2 ปีต่อเนื่อง ดูแลสถานการณ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

พล.อ.เจริญชัย, พล.อ.ณรงค์พันธ์

แม้จะยังไม่มีความแน่ชัดว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งทวนด้วยการตั้ง พล.อ.เจริญชัย เป็น ผบ.ทบ.แล้ว จะเอา พล.อ.ณรงค์พันธ์ไปไว้ตำแหน่งไหน

เพราะที่ บก.ทัพไทย ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะให้บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขยับไปเป็นปลัดกลาโหม เก้าอี้ที่ว่างอยู่เลย นอกจาก การที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์จะส่งน้องรักอย่างบิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ ผบ.ทบ. ข้ามมาเป็นเสนาธิการทหาร แต่ก็ถูกมองว่า เพื่อมาจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คอแดงคนที่ 2 ในปลายปีหน้า แทน พล.อ.เฉลิมพลที่จะเกษียณ มากกว่าที่จะมารอเป็น เสธ.ทหารคู่ใจของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่จะมาเป็น ผบ.ทหารสูงสุด

แต่หากจะเด้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ไปเป็นปลัดกลาโหม ก็ต้องตระหนักถึงธรรมเนียมของกองทัพ ที่การจะย้าย ผบ.ทบ. ข้ามไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมนั้น จะถือว่าเพราะมีความผิด แต่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ไม่ได้ทำผิดอะไร นอกจากไม่ค่อยตอบสนอง พล.อ.ประยุทธ์เท่าที่ควร

ยกเว้นเสียแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอ้างเหตุว่า เป็นการเลื่อนชั้นอาวุโสของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่เป็น ผบ.ทบ.มา 2 ปีแล้ว ขึ้นมาเป็นปลัดกลาโหม เหมือนกองทัพต่างประเทศ ถือว่าเป็นข้าราชการประจำเบอร์ 1 ที่จะยืนหัวแถวของ ผบ.เหล่าทัพ แต่ถ้าอ้างเหตุนี้ พล.อ.เฉลิมพลที่เป็นรุ่นพี่ ตท.21 และเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เหมาะสมกว่า ที่จะข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม

แต่กระนั้น ข่าวที่สะพัดในแวดวง ตท.23 กลับพูดถึงสัญญาณดีๆ ที่ พล.อ.เจริญชัยได้รับมาเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะไปปฏิบัติหน้าที่สำคัญ

หรือแม้แต่การที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ได้พูดคุยกับ พล.อ.เจริญชัย เรื่องการจัดโผ 5 เสือ ทบ.แล้ว ในเรื่องการเลือกระหว่างนายทหาร ตท.22 เพื่อนของ พล.อ.ณรงค์พันธ์เอง กับนายทหาร ตท.23 เพื่อนของ พล.อ.เจริญชัย

ประกอบกับความเงียบในกลาโหม ที่แม้บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม น้องรักสายตรงของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ที่แม้จะเป็นเต็งหนึ่งเดียวอยู่ รวมทั้งบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกลาโหมปัจจุบัน จะเสนอชื่อให้ขึ้นแทนก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณมาชัดๆ เพราะการเป็น ตท.24 และเกษียณ 2568 อาจเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ พล.อ.สนิธชนกต้องรอ หากการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ลงตัวเก้าอี้ปลัดกลาโหม ก็อาจจะต้องเป็นเก้าอี้ตัวอื่นแก้ปัญหาก่อน

จึงไม่แปลกที่การแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เรียกประชุมคณะกรรมการ 7 เสือกลาโหม เพื่อพิจารณาโผแต่งตั้งโยกย้าย ก่อน 23 สิงหาคม ก่อนวันครบกำหนดวาระ 8 ปีนายกฯ โดยมอบหมายให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นคนดำเนินการ โดยนัด ผบ.เหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อตรงมาที่กลาโหมเลย ในวันที่ 16 สิงหาคม จากนั้น รอนายกฯ นัดวันประชุม

ที่คาดกันว่า น่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดในบางตำแหน่ง

พล.อ.อ. นภาเดช ธูปะเตมีย์

ขณะที่กองทัพอากาศนั้น บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. ยังคงปิดลับการตัดสินใจเลือก ผบ.ทอ.คนใหม่ แม้จะให้สัมภาษณ์สื่อ เปิดสเป๊ก ผบ.ทอ.คนใหม่ ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินขับไล่ตระกูล F และการเคยเป็นผู้บังคับฝูงบิน ผู้การกองบิน และผู้ช่วยทูตทหารประจำต่างประเทศ ที่แม้จะเป็นเทรดดิชั่นของ ทอ. แต่ถือว่าเป็นแค่องค์ประกอบย่อย

แต่ประเด็นหลักคือ การสานต่อโครงการ F35A ให้สำเร็จตามแผน 3 เฟส ให้ครบ 12 เครื่อง เพราะ พล.อ.อ.นภาเดชเริ่มต้นให้แล้ว จนผ่าน ครม. และผ่านการพิจารณาของ กมธ.งบประมาณ 2566 งวดแรกแล้ว รอแค่การตัดสินใจชองสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ดังนั้น ผบ.ทอ.คนใหม่ต้องอยู่ในคณะกรรมการ F35A ด้วย แต่น่าสังเกตว่า ไม่มีบิ๊กหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา ผช.ผบ.ทอ. ที่ถูกมองว่าเป็นสายตรง พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีต ผบ.ทอ. ที่ พล.อ.อ.นภาเดชต้องรับมรดกร้าว ต่อจากบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ อดีต ผบ.ทอ. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.21

แต่ทว่า เต็งหนึ่งอย่างบิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผบ.คปอ. ก็ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ F 35 เช่นกัน

 

การกำหนดสเป๊กที่ว่าของ พล.อ.อ.นภาเดช จึงยิ่งทำให้กระแสข่าวลือเดิมยิ่งสะพัด ว่าอาจจะเสนอชื่อบิ๊กตุ๊ด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผช.ผบ.ทอ. ที่มีความสนิทสนมกับครอบครัวธูปะเตมีย์ และไม่ใช่นักบินเครื่องบินตระกูล F แต่เคยบิน L 39 และไม่เคยเป็นผู้ฝูง ผู้การกองบิน และ ผช.ทูตทหาร แต่เคยเป็นปลัดบัญชี ทอ. เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.แอร์บูล ที่เป็นคนดึงมาเป็น ผช.ผบ.ทอ.

ดังนั้น การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อ.นภาเดช จึงถูกมองว่าน่าจะเป็นแค่การทำปฏิบัติการไอโอเท่านั้น

เพราะบรรดาลูกทัพฟ้า ต่างเชื่อว่า พล.อ.อ.นภาเดชจะเสนอชื่อบิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผบ.คปอ. น้องรักนักบิน F 16 ตท.22 ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ โดยจะนั่งแค่ 1 ปี ก็เกษียณกันยายน 2566 ซึ่งมีสัญญาณบางอย่างออกมาบ้างแล้ว

และคาดกันว่า ในโผนี้ พล.อ.อ.นภาเดชจะดึงบิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ ที่ปรึกษาพิเศษ ทอ. น้องรักนักบิน F 16 ตท.23 ที่เป็นทีมนักวิ่งสมัยเรียน รร.นายเรืออากาศฯ ด้วยกันมา ขึ้นมาเป็น 6 เสืออากาศ เพื่อเตรียมจ่อเป็น ผบ.ทอ.คนต่อไป เพราะเกษียณกันยายน 2567

แต่ก็ไม่อาจมองข้ามบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสธ.ทอ. นักบิน F 16 จาก ตท.24 ประธานโครงการจัดหา F35A ที่เกษียณ 2568 ที่อาจแซงขึ้นมาในเวลานั้นเลยก็เป็นได้

เพราะมิเช่นนั้น ก็จะกลายเป็นว่า เป็นกันคนละ 1 ปี ต่อกัน 3 คน เพราะ พล.อ.อ.นภาเดชก็เป็น ผบ.ทอ.แค่ปีเดียว

พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ซ้าย) กับ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ขวา)

แต่ก็มีกระแสข่าวสะพัดว่า มีสัญญาณบางอย่างว่า ชื่อที่ พล.อ.อ.นภาเดชเสนอเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ อาจถูกปรับแก้ เนื่องจากมีการโฟกัสไปที่บิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. ที่ครองอาวุโส อัตราพลอากาศเอกพิเศษ และเป็นรอง ผบ.ทอ.อยู่ อีกทั้งมีอดีต ผบ.ทอ.บางส่วนให้การสนับสนุน และข้อมูลนี้ก็เข้าหู พล.อ.ประยุทธ์

พร้อมๆ กันนั้น ก็ยังมีการลุ้นว่า จะมีสัญญาณใดๆ ที่จะทำให้ พล.อ.อ.ชานนท์ได้กลับมาเป็น ผบ.ทอ.หรือไม่ เพราะคาดกันว่า พล.อ.อ.นภาเดชจะส่งออกไปเป็นรองปลัดกลาโหม ส่วน พล.อ.อ.ธนศักดิ์ ให้ข้ามกลับไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่ บก.ทัพไทย

ดังนั้น สถานการณ์ภายในกองทัพเอง รวมทั้งสถานการณ์ร้อนทางการเมือง จึงอาจจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องใช้ความเด็ดขาดในการจัดโผทหาร ส่งท้ายรัฐบาล และอาจจะส่งท้ายชีวิตการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์เอง