โมเดลใหม่ / ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ : หนุ่มเมืองจันท์

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

โมเดลใหม่

 

ช่วงที่ผ่านมา ผมนั่งลุ้นรายได้ของหนัง “บุพเพสันนิวาส 2”

อยากให้ได้อย่างต่ำ 500 ล้านบาท

หรือทะลุ 1,000 ล้าน ยิ่งดี

“พี่เก้ง” จิระ มะลิกุล และ GDH น่าจะตั้งความหวังไว้สูงมากสำหรับหนังเรื่องนี้

“บุพเพสันนิวาส 2” เป็นภาคต่อจากละครโทรทัศน์ “บุพเพสันนิวาส” ที่โด่งดังมากในจอแก้ว

เรตติ้งกระฉูด เกิดกระแสไวรัลมากมายระดับ “ปรากฏการณ์”

ตั้งแต่คนแห่ไปเที่ยวอยุธยา-ลพบุรีจนรถติดทุกวันหยุด

วัดไชยวัฒนาราม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และพระนารายณ์ราชนิเวศน์เนืองแน่นด้วยผู้คน

จากนักท่องเที่ยววันธรรมดา 800-900 คน เพิ่มเป็น 4,000 คน

วันหยุดจาก 3,300 คน เป็น 18,000 คน

นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยว ส่วนใหญ่ใส่ชุดไทยไปถ่ายรูป

เกิดปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์”

มีคนคำนวณว่าในช่วงที่ละครออกอากาศ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2561 เศรษฐกิจของอยุธยาขยายตัวถึง 33%

แอดมินของเพจสินค้าต่างๆ ก็รอดูละครว่าจะมีอะไรเด็ดๆ บ้าง เพื่อจะคิดไอเดียโฆษณาอิงกระแส “บุพเพสันนิวาส”

พระเอก-นางเอก กินอะไร อาหารนั้นก็ฮิตขึ้นมาทันที

หมูกระทะ กุ้งย่าง มะม่วงน้ำปลาหวาน หมูสร่ง ฯลฯ

คำว่า “ออเจ้า” ถูกนำมาใช้จนกลายเป็นคำฮิต

จากปรากฏการณ์ “บุพเพสันนิวาส” ทำให้ค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้ผลิตละครอยากทำภาค 2

แต่ไม่ทำเป็นละครโทรทัศน์

เปลี่ยนเป็นภาพยนตร์แทน

นั่นคือที่มาของการจับมือระหว่าง “บรอดคาซท์” กับ GDH

ก่อนหน้านี้มีละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งที่ทำแบบนี้มาก่อน

นั่นคือ “นาคี”

ตอนเป็นละครโทรทัศน์ก็ฮิตน้องๆ “บุพเพสันนิวาส”

พอจะทำเป็น “นาคี 2” เขาก็เปลี่ยนมาเป็นหนัง

“นาคี 2” ทำรายได้ใน กทม.และปริมณฑล 161 ล้านบาท

ติดอันดับ 4 ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของเมืองไทย (เฉพาะรายได้ใน กทม.และปริมณฑล)

ส่วนรายได้ทั่วประเทศ “นาคี 2” ทำรายได้ถึง 417 ล้านบาท

ถ้าดูตัวเลขรายได้อย่างละเอียด จะพบว่ารายได้จากต่างจังหวัดสูงกว่าใน กทม.และปริมณฑล

ในขณะที่ “พี่มากพระโขนง” ภาพยนตร์ที่ทำรายได้อันดับ 1 ของประเทศ

ใน กทม. ได้ 559 ล้านบาท

แต่ทั่วประเทศคาดว่าเกิน 1,000 ล้านบาท

ที่ระบุตัวเลขรายได้ทั่วประเทศของ “พี่มากพระโขนง” ไม่ได้ชัดเจน เพราะช่วงนั้นยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขรายได้ในต่างจังหวัด

“พี่เก้ง” เคยเล่าว่าเหตุผลที่ “พี่มากฯ” ทำรายได้ถล่มทลาย เพราะหนังเรื่องนี้อิงกับตำนาน “แม่นาคพระโขนง” ที่คนรู้จักกันทั่วประเทศ

เพียงแต่พลิกมุมมองใหม่

เล่าในมุมของ “พี่มาก” แทนที่จะเป็น “แม่นาค” เหมือนในอดีต

ดังนั้น การโฆษณาหนังให้คนทั่วประเทศได้รับรู้จึงไม่ใช่เรื่องยาก

เหมือนเป็น “เพื่อนเก่า” ที่คุ้นเคยกันมาก่อน

นอกจากนั้น หนัง “พี่มากฯ” ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ผู้ใหญ่” ออกมาดูหนังในโรง

ที่ผ่านมา โรงหนังถูกยึดโดยวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว

คนอายุเกิน 40 น้อยคนที่จะดูหนังในโรง

ยิ่ง 50-60 ขึ้นไป แทบจะไม่เห็นในโรงเลย

รายได้ของหนังไทยจึงอั้นๆ อยู่แค่หลัก 200-300 ล้านบาท

แต่หนัง “พี่มากฯ” นั้นเป็นหนังไทยที่แมสมาก

กระแสบอกต่อทำให้ผู้ใหญ่ออกมาดูหนัง โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่ต่างจังหวัดถึงขั้นมีการเช่ารถมาดูหนังในเมืองกัน

อีกเรื่องหนึ่ง คือหนัง “พี่มากฯ” สนุกจนถึงขั้นมาดูซ้ำรอบสอง

ทั้งหมดคือเหตุผลที่ทำให้ “พี่มากพระโขนง” ทำรายได้เกิน 1,000 ล้านบาท

และ “บุพเพสันนิวาส 2” ก็เดินตามรอย “พี่มากฯ”

เริ่มต้นจาก “ความคุ้นเคย”

มีคนบอกว่าคนเขียนบท “บุพเพสันนิวาส 2” ตั้งใจเขียนให้แฟนละครภาคแรกดู

ไม่ได้เจาะกลุ่มวัยรุ่นเหมือนเดิม

ในมุมการตลาดถือว่าถูกต้องมาก เพราะแฟนละครบุพเพสันนิวาสนั้นครอบคลุมทุกกลุ่มอายุ และทุกจังหวัดในเมืองไทย

“แมส” มากๆ

ถ้าสามารถทำให้คนกลุ่มนี้ออกมาดูหนัง เหมือนกับ “นาคี 2” หรือ “พี่มากพระโขนง”

โอกาสทำเงินเกิน 500 ล้าน หรือทะลุพันล้านได้

แต่ถ้าเจาะกลุ่มแฟน GDH ที่เป็นวัยรุ่น อย่างมากที่สุดไม่น่าจะเกิน 300 ล้านบาท

แผนการตลาดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ

คนที่ไปดูในโรงบอกว่ากลุ่มคนดูหนังแตกต่างจากไปจากเดิมอย่างชัดเจน

เป็น “ผู้ใหญ่” มากขึ้น

ดูง่ายๆ จากการ “ยืน” หรือ “ไม่ยืน”

และบทหนังทำงานได้ผลมากกับคนดูกลุ่มนี้ เพราะทุกคนหัวเราะทุกจังหวะที่คนเขียนบทตั้งใจให้หัวเราะ

ฮาเกือบทั้งเรื่อง

แต่วัยรุ่น หัวเราะบางจังหวะเท่านั้น

หนังยาว 2 ชั่วโมง 46 นาที ยาวกว่าหนังทั่วไปเยอะมาก

กลุ่มแฟนละครชอบ บอกว่ายาวดี สมกับความคิดถึง

ในขณะที่คนหนุ่มสาวบ่นว่ายาวไปนิด

ลูกๆ คนไหนชวนพ่อแม่ไปดูหนังเรื่องนี้ พ่อแม่มักไม่ค่อยปฏิเสธ

และบางครอบครัว พ่อแม่ถึงขั้นสะกิดลูกให้พาไปดู “บุพเพสันนิวาส 2”

ทั้งที่ไม่เคยเข้าโรงหนังมาเป็น 10 ปีแล้ว

ล่าสุด รายได้ของ “บุพเพสันนิวาส 2” ทำรายได้ 290 กว่าล้าน

เกือบ 300 ล้านแล้ว

แบ่งเป็นใน กทม.และปริมณฑล 120 กว่าล้าน

ต่างจังหวัด 170 กว่าล้าน

คาดว่ารายได้น่าจะทะลุ 400 ล้านบาทแน่นอน

แต่จะผ่าน 500 และ 600 ล้านหรือไม่ ต้องลุ้นกัน

ที่แน่ๆ ก็คือ ต่อไปละครเรื่องไหนเรตติ้งดีๆ ฮิตทั่วประเทศ

รับรองว่าแฟนๆ จะได้ดูภาค 2 แน่นอน

แต่ไม่ใช่ในโทรทัศน์

หากเป็นในโรงภาพยนตร์

เพราะ “โมเดล” นี้พิสูจน์แล้วว่าสำเร็จแน่นอน •