ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (127) : คดีธรรมกาย

ฟ้า พูลวรลักษณ์

คดีธรรมกายที่จริงเป็นเรื่องเรียบง่าย มันเป็นเรื่องของ

๑ พระวินัย

๒ กฎหมายอาญา

และเพื่อไม่ให้สับสน เราจะสมมติว่า มีเจ้าอาวาสในวัดเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อวัด กอไก่ อยู่ในตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อตำบล ขอไข่ ซึ่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทยนี้ เจ้าอาวาสท่านนี้ ทำผิดใน

๑ พระวินัย

๒ กฎหมายอาญา

คำถามคือ สมควรที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าไปเชิญตัวมาไหม

หากตอบว่า ไม่ควร ถ้าเช่นนั้นพระวินัยก็ล่มสลาย กฎหมายอาญาก็ล่มสลาย

บทความนี้ก็ไม่ต้องอ่านต่อ

หากตอบว่า สมควร ก็อ่านต่อ

เพราะหากไม่มีพระวินัย สถาบันสงฆ์ก็ล่มสลาย และหากสถาบันสงฆ์ล่มสลาย พุทธศาสนาก็ล่มสลายตาม เพราะลำพังพระพุทธ พระธรรม คงไม่พอ ต้องมีพระสงฆ์ด้วย จึงครบองค์

หากไม่มีพระวินัย พระสงฆ์ก็สามารถเสพเมถุนกับสีกาได้ทุกคืน สามารถรักร่วมเพศ หรือเสพเมถุนกับสัตว์เดรัจฉาน หรืออื่นๆ สามารถเป็นสิบแปดมงกุฎอย่างเต็มรูปแบบ

หากไม่มีกฎหมายอาญา

๑ ฉันจะตื่นขึ้นมาในยามเช้า และไม่รู้ว่าวันนี้จะมีใครมาฆ่าฉันหรือเปล่า เพราะการฆาตกรรมก็ไม่มีความผิด

๒ หากฉันเป็นหญิงสาว ฉันจะไม่รู้ว่า วันนี้ฉันจะโดนข่มขืนไหม เพราะการข่มขืนไม่มีความผิด

๓ หากฉันทำงาน ฉันก็จะไม่รู้ว่าทำงานหาเงินไปทำไม ในเมื่อทุกขณะสามารถมีคนปล้นจี้ฉันได้ โดยไม่มีความผิด

๔ แม้แต่เวลาข้ามถนน ฉันก็ไม่ปลอดภัย เพราะรถทุกคันชนฉันได้โดยไม่มีความผิด

ฉันไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง

ฉันเชื่อว่า วัดกอไก่ ไม่มีปัญหา เพราะเป็นวัดเล็กๆ

คดีธรรมกาย ที่มีปัญหา เพราะเกิดอีกสองตัวแปร มาเบี่ยงเบนประเด็น ได้แก่

๑ ศรัทธา

๒ ประเด็นทางการเมือง

ข้อแรกเกิดขึ้น เพราะธรรมกายเป็นวัดใหญ่ ที่มีสาวกมากมายเป็นแสนเป็นล้าน และมีอำนาจมาก

ข้อสองเกิดขึ้น เมื่อบ้านเมืองแบ่งออกเป็นแดงเหลือง

คดีธรรมกาย ที่จริงก็เป็นคดีที่มีข้อหา

๑ ในทางพระวินัย

๒ ในทางกฎหมายอาญา

สำหรับฉัน พระที่มีฤทธิ์จริง แล้วอวดฤทธิ์ ถือว่าเป็นการอวดอุตริมนุษยธรรม ไม่ใช่วิสัยที่ศิษย์ตถาคตควรกระทำ ส่วนพระที่ไม่มีฤทธิ์จริง แล้วอวดฤทธิ์ ถือว่าผิดกฎหมายอาญา เพราะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ หลอกเอาทรัพย์ อันนี้ยังไม่นับคดียักยอกทรัพย์

สำนวนฟ้องมีหนาถึงหมื่นหน้า มีหลักฐานทั้งเทปบันทึกเสียง วิดีโอภาพ เอกสาร ตัวบุคคล ฯลฯ เรียกว่าหลักฐานมีมากมายมหาศาล ใครสนใจไปค้นหาได้ ไม่ใช่หน้าที่ฉันที่จะเขียนถึง

ประสบการณ์ง่ายๆ เพียงแค่ว่า ฉันเจอคนสิบคนที่นับถือวัดพระธรรมกาย แต่ฟังแล้วก็เลื่อนลอย มันเป็นศรัทธา แต่ฉันเจอคนสิบคนที่หมดตัวเพราะวัดพระธรรมกาย สิบต่อสิบ แต่สิบคนหลังนี้แม้จะเรียบง่าย แต่แรงกว่า

แรงต้านที่เกิดจากศรัทธานั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ หากนี่เป็นศาสนา เพราะด้วยศรัทธา บรรดาสาวกจะเชื่อในความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโย เชื่อว่าโดนใส่ร้าย โดนกลั่นแกลhง และหลักฐานทั้งหมดก็เป็นของปลอม วิดีโอก็อาจตัดต่อเอา บุคคลก็เชื่อไม่ได้ อาจว่าจ้างมา สาวกจะหลับตาแล้วสวดมนต์ ไม่ลืมตามองหลักฐาน มันฉีกออกเป็นสองเส้นทาง เหมือนกระดาษที่ถูกฉีก

ส่วนแรงต้านทางการเมือง เกิดจากว่า เหลืองต่อต้านธรรมกาย แดงจึงหันมาสนับสนุนธรรมกาย ง่ายดี ศัตรูของศัตรูคือมิตร เป็นการหาพันธมิตรในการทำสงคราม

ด้วยพลังจากสาวกนับล้าน และแดงนับล้าน ทำให้คดีธรรมกายยากยิ่งนัก และความซับซ้อนเกิดจากการเบี่ยงเบนประเด็น ง่ายๆ คือ หากคุณจะตัดสินธรรมกาย คุณต้องบริสุทธิ์ก่อน ไม่งั้น ห้าม คดีศาสนาเป็นเรื่องเล็ก คดีรัฐประหารเป็นเรื่องใหญ่ นี้คือการเบี่ยงเบนประเด็น

กฎหมายไร้น้ำใจ แต่นี้คือข้อดีของกฎหมาย เพราะจิตมนุษย์จะมีความอ่อนไหว เรียกว่าคนเราเกิดมา ปกติแล้วจะใจอ่อน

สมมติมีเด็กคนหนึ่ง เกิดมาทำความชั่วหลายอย่าง ทำผิดหลายเรื่อง แต่พ่อแม่ก็ทำร้ายลูกไม่ลง เด็กคนนี้ยิ่งโตก็ยิ่งได้ใจ ยิ่งทำผิดมากขึ้น พ่อแม่ก็ไม่มีกำลังจะปราบปราม พี่น้องก็ห้ามไม่ได้เช่นกัน ท้ายสุด เขาจะทำร้ายพี่น้องของเขาเอง และทำร้ายพ่อแม่ เขาจะนำภัยร้ายแรงมาสู่ทั้งครอบครัว มีแต่กฎหมายที่จัดการเขาได้ เพียงเพราะกฎหมายไม่มีน้ำใจ

สังคมขาดกฎหมายไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องร้ายมากมาย

ความผิดใหญ่หลวงของคนไทยทุกวันนี้ คือการโยงทุกเรื่องเข้าประเด็นทางการเมือง มันมีผลร้ายต่อประเทศชาติของเราอย่างใหญ่หลวง เรากำลังทำร้ายตัวเราเอง เพราะความแยกแยะประเด็นไม่ออกนิดเดียว ความใจแคบ มันเป็นบาปกรรมใหญ่สุดของคนไทยวันนี้

ฉันจะยกตัวอย่าง สิ่งที่ฉันเรียกว่าผลงานชิ้นโบแดงของพรรคเพื่อไทย และผลงานชิ้นโบแดงของ คสช. เอามาเปรียบเทียบกัน วางเคียงคู่ขนานกัน

๑ ผลงานชิ้นโบแดงของพรรคเพื่อไทย คือโครงการรถไฟความเร็วสูง

๒ ผลงานชิ้นโบแดงของ คสช. คือการปิดธรรมกาย

๑๐

ผลงานชิ้นโบแดงของพรรคเพื่อไทย คือโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งน่าเสียดายที่ทำไม่ได้ เพราะถูกขัดขวางอย่างไม่คิดชีวิต จากเหลือง ทั้งที่โครงการนี้จะทำคุณประโยชน์ให้มากมายกับประเทศ ขัดขวางเพียงเพราะไม่ชอบใจผู้เสนอ ไม่อยากให้พวกทักษิณมีผลงาน โดยยอมทำร้ายประเทศชาติตัวเองอย่างคนตาบอด นี้คือบาปกรรมใหญ่สุด

ผลงานชิ้นโบแดงของ คสช. คือการปิดธรรมกาย แต่กำลังได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากสาวกนับล้าน และแดงนับล้าน แดงต่อต้าน เพราะไม่ชอบรัฐบาลเผด็จการ คิดอะไร ทำอะไรก็อยากต่อต้าน ฟังดูคุ้นๆ เพราะเหลืองก็ต่อต้านทักษิณเช่นกัน เรียกว่าเลียนแบบกัน

๑๑

วันใดที่เหลืองรวมพลังกับ คสช. สามารถปิดธรรมกายได้ นั่นคือผลงานชิ้นโบแดงของเหลืองและ คสช.

แต่ทุกวันนี้ฝ่ายต่อต้านเผด็จการ และฝ่ายแดง ก็พยายามโยงเรื่องนี้เข้าหาประเด็นการเมือง ทั้งที่ใจก็ไม่ได้ชอบหรือศรัทธาธรรมกาย บางคนถึงกับเกลียดนิกายนี้ด้วยซ้ำ แต่ความรุ่มร้อนทางการเมือง ทำให้พวกเขาหันมาสนับสนุนธรรมกาย นี้คือบาปกรรมใหญ่สุด ที่ทำซ้ำ แต่พลิกข้าง

ทำไมต้องเกลียดชังเหลืองขนาดนั้น พวกคุณจับประเด็นอะไรผิดไปหรือเปล่า

เกลียดถึงขนาดที่ว่า เหลืองต่อต้านอะไร พวกคุณก็จะสนับสนุนสิ่งนั้น โดยไม่มองด้วยว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำไมใจแคบอย่างนั้น

การทำให้ทุกเรื่องกลายเป็นประเด็นการเมือง ทำให้มองว่าธรรมกายถูกกลั่นแกล้ง เหมือนทักษิณโดนแกล้ง ทั้งที่คนละเรื่องเลย มันกลายเป็นเรื่องเดียวกันได้ยังไง

ความรุ่มร้อนทางการเมือง ทำให้เชื่อว่ากระบวนการทางศาลเชื่อไม่ได้หมด เกลียดถึงกับยอมให้บ้านเมืองไม่มีอาญาแผ่นดิน ความมืดบอดทำได้ขนาดนั้น อย่างนี้ก็ไม่ต่างกับเหลือง ที่ความเกลียดทักษิณ ทำให้พร้อมจะล้มล้างการเลือกตั้ง ถึงขั้นยอมให้ศาลเอียง ส่วนแดงก็เกลียดเหลือง ถึงขั้นพร้อมจะให้ประเทศนี้ไม่มีกฎหมายอาญา พวกคุณไม่บ้าพอกันหรือ ไม่เลวพอกันหรือ

๑๒

ประสบการณ์ชีวิตของฉัน ทำให้เห็นชัดเจนว่า แกนนำแดงและเหลือง ล้วนเป็นนักสู้ ว่องไว ไม่ธรรมดา และที่จริง ส่วนใหญ่เป็นคนดี คนที่จะมาเป็นแกนนำต้องเสี่ยงชีวิต ต้องเหน็ดเหนื่อย เพียงแต่มุมมองต่าง มุมมองต่างไม่ผิด แต่จับประเด็นไม่ถูก และล้ำเส้นไปมาก นี้คือความผิด

ตั้งแต่เริ่มมีธรรมกาย ฉันก็เห็นชัดว่านิกายนี้เป็นหนึ่งความชั่วร้ายในสังคมไทย แต่ความยิ่งใหญ่ของมัน ความเปล่งปลั่งของมัน ทำให้ฉันก็อดคิดไม่ได้ว่า แล้วใครที่จะมาปราบธรรมกาย แต่ด้วยกฎแห่งกรรม ฉันเชื่อว่าต้องมีวันนั้นแน่ วันที่ธรรมกายถูกปิด

แต่แล้วคำตอบก็ปรากฏขึ้น อัศวินที่จะมาปราบธรรมกาย กลับคือเหลือง และ คสช. ซึ่งก็ทำความผิดมาไม่น้อย นี้คือความยอกย้อนของชีวิต แต่ก็ลึกซึ้ง

๑๓

พูดง่ายๆ คือ นี้คือผลงานชิ้นโบแดงของเหลือง และ คสช. เสมอเหมือนโครงการรถไฟความเร็วสูงของฝ่ายแดงและพรรคเพื่อไทย ต่างกันที่ว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง ถูกสกัดกั้นไปแล้ว และนำพาซึ่งความเสียหาย ที่กำลังทยอยปรากฏรูปขึ้น จนประเมินไม่ถูก ว่าเป็นเงินเท่าไร ว่าคดีนี้จะจบลง บนความปวดร้าวเท่าไร

แต่คดีธรรมกายยังดำเนินอยู่ และฉันยังไม่รู้ว่าเหลืองและ คสช. จะปิดธรรมกายได้ไหม แต่หากเป็นไปได้ นี้คือผลงานที่ยิ่งใหญ่ คสช. สร้างรถไฟความเร็วสูงด้วยความยากลำบาก ราคาแพง เชื่องช้า สับสน ทำไม่เป็น แต่พรรคเพื่อไทยและแดง ก็อย่าหวังจะกระทบกระเทือนธรรมกาย แม้แต่ปลายจีวร ทำไม่เป็นเหมือนกัน

ที่ซึ้งใจสำหรับรถไฟความเร็วสูง คือความเจริญที่วิ่งตามรถไฟมา ยิ่งรถไฟไวเท่าไร ความเจริญก็ไวเท่านั้น ในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ที่รถไฟวิ่งผ่าน ฉันไม่ได้ซึ้งใจในตัวรถไฟ แต่ซึ้งใจในสิ่งที่มันนำพามา

ที่ซึ้งใจสำหรับคดีธรรมกายคือ การอวดอุตริมนุษยธรรม แม้จะเย้ายวนปานไหน ตลาดปานใด แต่ปฏิจจสมุปบาท ที่แสนยาก แสนลึก ก็ยังวิ่งเอาชนะได้ ไม่น่าเชื่อเลย เต่าเอาชนะกระต่ายได้ยังไง ร่ำรวยเพียงไหน มีอำนาจเท่าใด ก็แพ้กฎแห่งกรรม

เหลืองที่แสนเลว ก็คงความดีที่แสนน่ารัก คุณตาบอดหรือเปล่า ที่มองไม่เห็น หากมองไม่เห็น ก็ไม่ต่างกับศาลรัฐธรรมนูญตาบอด