โชคของผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ / มองบ้านมองเมือง : ปริญญา ตรีน้อยใส

ปริญญา ตรีน้อยใส

มองบ้านมองเมือง

ปริญญา ตรีน้อยใส

 

โชคของผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

 

ขอแสดงความยินดีกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ที่น่าจะบริหารบ้านเมือง ได้ดีกว่าผู้ว่าฯ ชั่วคราว แต่อยู่แปดปี

แต่ด้วยเหตุที่ว่า งบประมาณของกรุงเทพมหานครนั้น เหมือนกับกระทรวงทบวงกรมอื่น คือเป็นหมวดเงินเดือนและค่าจ้างเป็นส่วนใหญ่ เหลืองบประมาณให้ผู้ว่าฯ และทีมงานดูแลอีกไม่เท่าไหร่ ดังนั้น ใครจะบ่นว่าอะไรคงไม่ได้ เพราะว่าไม่มีงบประมาณ

ผู้ว่าการนคร หรือเมือง หรือนายกเทศมนตรี ที่ไหนๆ ในโลก ล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลชีวิตผู้คน ตั้งแต่กินอาหาร อยู่บ้าน ไปโรงเรียน ทำงาน เดินทาง พักผ่อน รักษาพยาบาล ไปจนจบสิ้นชีวิต ภาระจึงมากมาย ยิ่งคนมาก ยิ่งมากเรื่อง ยิ่งมากความ

แต่สำหรับกรุงเทพมหานครที่มีคนหลายล้านคนนั้น ไม่เหมือนเมืองอื่น

 

เริ่มตั้งแต่อาหารการกิน กรุงเทพฯ เป็นสวรรค์ของสตรีตฟู้ดส์ ร้านอาหารอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง แค่หลับตา ไม่เห็นว่าเขาเทน้ำแกงลงท่อระบายน้ำ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว

ตลาดนั้นพอเหลืออยู่บ้าง เพราะคนกรุงเทพฯ ที่มีสิทธิเลือกตั้งไม่ค่อยไป ยิ่งโควิดมา ยิ่งไม่ไป ถ้าซื้อน้อยไปแค่ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน ถ้าซื้อมากก็ไปซูเปอร์สโตร์ หรืออีช้อปปิ้ง ง่ายแค่ปลายนิ้ว

บ้านเมืองอื่นนั้น มีภาระหนักในการหาที่อยู่ให้ผู้คน แต่สำหรับกรุงเทพฯ มีหน่วยงานอย่างการเคหะแห่งชาติ ช่วยรับหน้ามานานปี ทั้งๆ ที่มีผลงานเท่ากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลำดับท้ายๆ

เมื่อไม่ต้องรับผิดชอบ บ้านของคนมีรายได้น้อย บ้านคนมีรายได้สูง บริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็แย่งกันรับภาระ ที่ต้องดูแลจึงเหลือแต่บ้านที่ต้องไปขออนุญาตปลูกสร้าง แต่นั่นเป็นรายได้ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาฯ ผู้ว่าฯ เข้าไปยุ่ง ก็เสียการปกครอง

เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาล นอกจากโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังมีของกระทรวงกลาโหม และของมหาวิทยาลัยที่ล้วนใหญ่โต ยังมีโรงพยาบาลเอกชนอีกมากมาย เปิดบริการยี่สิบสี่ชั่วโมง

สำหรับสถานศึกษา ผู้ว่าฯ ก็ดูแลแค่โรงเรียนที่มีมาแต่อดีต คือโรงเรียนวัด เพราะยังไงคนกรุงเทพฯ พอใจกับโรงเรียนวัดฝรั่ง โรงเรียนสาธิต สวนฯ เตรียมอุดม และโรงเรียนนานาชาติ ที่เปิดสาขาทั่วทั้งปริมณฑล สอนภาษาเดียว สองภาษา สามภาษา เป็นที่สนุกสนาน

ในด้านการเดินทาง ยิ่งไม่เกี่ยว เมื่อคนกรุงเทพฯ เลือกเรียนกันเอง จึงไม่ต้องรับผิดชอบการเดินทางของเด็กนักเรียนและของพ่อแม่ผู้ปกครอง ส่วนไปทำงาน ก็มีระบบขนส่งมวลชนหลายแบบ หลายสาย หลายสี ที่ไม่ขึ้นกับกรุงเทพมหานคร มีหน่วยงานอื่นรับผิดชอบแทน เพราะแค่สายเขียวสายเดียว ก็มีปัญหาหนี้สินแก้ไม่ได้อยู่แล้ว

ถนนหนทางที่มีอยู่ในอดีตเท่าไหร่ ก็มีเท่านั้น กรุงเทพมหานครไม่เคยได้รับงบประมาณตัดถนนใหม่ แต่ไม่เป็นไร เพราะถ้าเป็นถนน ตรอกซอย แทบทั้งหมดเป็นของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่กรมที่ดินเป็นคนดูแลเรื่องการวางผัง และนิติบุคคลบ้านจัดสรรเป็นผู้ดูแลทำความสะอาด

ถนนสายหลักนั้น กรมทางหลวงแผ่นดิน เอาไปรับผิดชอบทั้งก่อสร้าง ดูแล ซ่อมแซม รวมทั้งการเปิดทางเชื่อม ยังมีการทางพิเศษที่ทำมาหากินกับคนที่ต้องรีบเดินทาง ยังมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากจับโจรผู้ร้ายแล้ว ยังมีเวลาอาสาดูแลเรื่องการจราจรและระบบสัญญาณไฟ ด้วยเป็นงานง่ายแต่รายได้ดี ดังนั้น เวลารถติด ผู้ว่าฯ กทม. ก็ลอยตัวเหนือปัญหา

มาถึงพื้นที่สีเขียว นอกจากสวนลุมพินีที่ได้รับพระราชทาน ยังมีสวนที่การรถไฟและโรงงานยาสูบบริจาคให้ ยังมีสนามกีฬาในสถาบันการศึกษา และสนามกอล์ฟของทหารทุกเหล่าทัพ ส่วนสนามเด็กเล่นไม่มีปัญหา ศูนย์การค้าทุกแห่งพร้อมบริการอยู่แล้ว

 

ดังนั้น จึงเป็นโชคของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก ข้อสัญญาเป็นร้อยข้อว่าจะทำ ที่เคยวาดฝันเป็นพันเรื่องว่าจะทำ ก็แค่ตอบว่า ไม่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นเรื่องจริง แค่บอกว่า ไม่มีงบประมาณ ซึ่งเป็นเรื่องจริงอีกเช่นกัน

ภารกิจที่มีก็แค่วิ่งไปถ่ายภาพ ไปตรวจดูทางเท้าทรุด ส่วนใหญ่ได้แต่พูดคุยเป็นกันเองกับวิศวกรไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ตำรวจ กรมราชทัณฑ์ ไปจนถึงวินมอเตอร์ไซค์ ถ้ายังมีเวลาเหลือก็พายเรือเก็บขยะ ปลูกไม้ดอก และฟังดนตรี เต้นระบำ

ยังไงคนกรุงเทพฯ ก็คุ้นเคยกับปัญหาต่างๆ อยู่แล้ว จะมีผู้ว่าฯ เลือกตั้ง แต่งตั้ง ทุกอย่างก็คงเหมียนเดิม

เพียงแต่ว่า ตอนนี้ แค่กำลังเห่อของใหม่ และหมดเรื่องแตงโมแล้วตัวเอง •