สำเริงคดี : ไปโรงเรียน

เดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาเปิดเทอมใหม่ในประเทศตะวันตก

ที่โรงเรียนประถม St. Thomas”s, Battersea ในกรุงลอนดอน ที่ว่ากันว่ามีการจัดการศึกษาอย่างดีที่สุดเท่าที่เงินจะซื้อได้ (ค่าเล่าเรียนปีละ 36,500 ปอนด์) มีนักเรียนใหม่เป็นรัชทายาทลำดับที่ 3 ของราชบัลลังก์อังกฤษมาเข้าเรียนด้วยในปีนี้

ไซมอน โอ มอลเลย์ ครูใหญ่ของโรงเรียนบอกว่ากฎหลักของโรงเรียนก็คือความเมตตา และแจงต่อว่า โรงเรียนแห่งนี้มีค่านิยมแกนกลางซึ่งประกอบด้วย ความเมตตา ความสุภาพ ความเชื่อมั่น ความเป็นมนุษย์ และการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้มิใช่ผู้รับ

ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนจะได้ติดตั้งกระจกกันกระสุนไว้เตรียมรับ ด.ช.ปรินซ์จอร์จ แล้ว แต่ดยุคและดัชเชสออฟเคมบริดจ์ก็ตกลงใจกันว่าจะให้พระโอรสมีชีวิตนักเรียนเช่นเดียวกับเด็กสามัญชนทั่วไปให้มากที่สุด

ทั้งคู่วางแผนจะขับรถไปส่งจอร์จที่โรงเรียนเอง (ซึ่งใช้เวลาราว 30 นาทีจากพระราชวังเคนซิงตัน) เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเด็กคนอื่นๆ

ผู้ปกครองคนหนึ่งบอกว่า ถ้าเป็นยังงั้น พวกเขาก็คงจะเข้ากับผู้ปกครองคนอื่นๆ ได้ดี

ปรินซ์จอร์จมิใช่เจ้าชายองค์แรกที่ไปเรียนในโรงเรียนร่วมกับสามัญชน เนื่องเพราะการปฏิบัติเช่นนี้เริ่มเกิดขึ้นแต่ครั้งทูลกระหม่อมปู่ โดยปรินซ์ชาร์ลส์ได้รับการติวเตรียมองค์ในวังก่อนจะไปเข้าชั้นประถมที่โรงเรียน Hill House แล้วจึงเป็น Cheam School

ส่วนปรินซ์วิลเลียมพระบิดาและทูลกระหม่อมอาแฮรี่ได้เข้าเรียนชั้นประถมที่ Wetherby School ก่อนจะย้ายไปต่อมัธยมที่ Eton College

ก่อนจะถึงวันเปิดเทอม เคทได้พาปรินซ์จอร์จไปซื้อของใช้ที่โรงเรียนบางอย่าง เช่น กล่องใส่อาหารกลางวัน และขวดน้ำดื่ม ซึ่งเจ้าชายองค์น้อยเลือกแบบเอง

แหล่งข่าววงใน (วัง) เล่าว่า พระองค์จอร์จตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ

ขณะที่พระมารดาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันที่ต้องส่งลูกชายไปอยู่ที่โรงเรียนตามลำพัง แถมอยู่ในกลุ่มเด็กเล็กที่สุดของโรงเรียนด้วย

และสิ่งที่เคทห่วงสุดก็คือ ปรินซ์จอร์จจะถูกปาปารัซซี่คอยติดตามจับจ้องตลอดเวลา

เธอเกรงว่ามันจะทำให้ลูกชายรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากเด็กอื่นๆ

ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะสอนจอร์จอย่างที่ไดอานาเคยสอนปรินซ์วิลเลียมบนรถในวันแรกที่ไปส่งโรงเรียนหรือไม่ว่า…

“ฟังให้ดีนะลูก ที่โรงเรียนใหม่ของลูกจะมีช่างภาพ (photographers) มาคอยตามดูลูกอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น ลูกต้องทำตัวดีๆ นะจ๊ะ”

วิลเลียมในวัยเยาว์ตอบพระมารดาว่า “ลูกไม่ชอบพวก tographers เลย”

ซึ่งคำตอบจากไดอานาก็คือ

“เอาเถอะ ลูกจะต้องเจอเรื่องนี้ไปจนตลอดชีวิตของลูกนั่นแหละ”…