คอลัมน์ประจำ

เจมส์ จิรายุ เล่าเรื่องโอ้โห อู้หูยยย และโมเมนต์ค่อนข้างดีที่มีอยู่/รายงานพิเศษ

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 5 - 11 สิงหาคม 2565
คอลัมน์รายงานพิเศษ
เผยแพร่

รายงานพิเศษ

 

เจมส์ จิรายุ

เล่าเรื่องโอ้โห อู้หูยยย

และโมเมนต์ค่อนข้างดีที่มีอยู่

 

“หนักมาก”

คือความเห็นของเจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ต่อผลงานละครเรื่อง ‘พิศวาสฆาตเกมส์’ ที่เขานำแสดง และกำลังออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ทุกวันจันทร์และอังคาร หลังข่าวค่ำ

ที่บอกอย่างนั้น ก็เพราะชีวิตของ ‘โอม’ ซึ่งเขาสวมบทบาท แต่แรกดูเหมือนจะดี คือมีทั้งการงานมั่นคงและครอบครัวที่เป็นสุข แต่แล้วก็กลับเกิดเรื่อง จนต้องติดคุก เสียทั้งการงาน และสูญสิ้นทุกบุคคลอันเป็นที่รัก

อย่างไรก็ดี สำหรับเขา งานหนักมาก, ดราม่าหนักสุดเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่มีความน่าสนใจ และอยากให้ได้ดูกัน

สําหรับนักแสดง เจมส์บอกว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของอาชีพนี้ คือการมีโอกาสได้สวมบทบาทเป็นใครต่อใคร ซึ่งบทบาทต่างๆ ดังกล่าวมีทั้งที่แตกต่างจากตัวจริง และสิ่งต่างๆ ที่ตัวละครทำ เขาเองคงไม่มีโอกาสได้ทำในชีวิตจริง และนั่นก็ทำให้รู้สึกสนุกผสมตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายทอดออกมา

ในการแสดงเรื่อง ‘พิศวาสฆาตเกมส์’ ก็เป็นหนึ่งในนั้นแล้ว

ขณะเดียวกันเรื่อง ‘โลกหมุนรอบเธอ’ ที่เพิ่งเริ่มถ่ายทำก็ใช่

ทั้งนี้ เจมส์ “โอ้โหหหหห…” ยาว พร้อมรอยยิ้ม เมื่อถามถึง ‘โลกหมุนฯ’ ซึ่งเป็นของผู้จัดแอน ทองประสม จากนั้นก็เล่าแบบ ‘ขอไม่สปอยล์’ ว่า ในเรื่องดังกล่าวเขาต้องถ่ายทอดชีวิตของตัวละครตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ให้คนดูได้เห็นตั้งแต่วัยใส่ชุดนักเรียนไปจนถึงตอนโต

“คือพี่แอน (แอน ทองประสม) เคยบอกตั้งแต่เล่นละครเรื่อง ‘กะรัตรัก’ ว่ามีละครเรื่องหนึ่งอยากให้ลองเล่นดู เป็นบทที่ท้าทาย แล้วก็ยาก เจมส์น่าจะเปลี่ยนแคแร็กเตอร์ได้ พูดแค่นี้ แล้วเวลาผ่านไปครึ่งปีไม่เคยพูดถึงเรื่องอะไรเลย”

พอเขาถามว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร นางเอกรุ่นพี่ก็บอกแค่ว่า คนที่ทำบทคือ เอ ทินพันธ์ ผู้เป็นหวานใจ และ “ไม่อยากเล่าเลย เดี๋ยวไม่สนุก”

มารู้ตัวอีกที ก็ถึงเวลาต้องทำงาน

“ผมเพิ่งมาได้รู้เรื่อง โอ้โห ขนาดนั้นเลยเหรอครับเนี่ย แบบอู้หูยยยย…” เล่าพลางหัวเราะ

ส่วน ‘ขนาดนั้น’ ที่ว่าน่ะขนาดไหน เจมส์พูดด้วยดวงตาเป็นประกาย “บอกไม่ได้จริงๆ ครับ”

ที่พอจะแย้มได้นิดๆ คือ ที่เขารู้สึก ‘โอ้โห’ ก็คือในด้านความแปลกใหม่ ความพิสดาร

แล้วก็ขอให้อดใจไว้รอดู

 

นอกจากละคร เจมส์บอกว่าตอนนี้เขากับเพื่อนๆ แก๊ง ‘คนดีที่ไหน’ ซึ่งประกอบไปด้วย บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ, เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ และเป็ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ จะกลับมาร่วมกันทำรายการ ‘คนดีที่ไหน’ ซึ่งหยุดแพร่ภาพทางยูทูบไปกว่า 3 ปีอีกครั้ง

และหวังว่าจะไม่มีจุดจบจนทำให้อยู่ๆ ก็ต้องเลิกไป เหมือนคราวก่อน ตอนที่มีปัญหาเรื่องคิวถ่ายทำ

“ทะเลาะกันเรื่องคิว” เจมส์เล่า

“ตอนนั้นแต่ละคนมีละครแน่นมากๆ คิวไม่ตรงกันเลย พอจัดคิวไม่ลง หลังๆ ก็เริ่มไม่เอาแล้ว เลิกแล้วกัน ช่างมัน ก็เลิกเลย เลิกดื้อๆ แบบนั้น”

สำหรับการกลับมาคราวนี้ “จริงๆ ก็พูดกันไว้ ว่าเราจะพยายามไม่ทะเลาะกันเรื่องคิว”

“แต่ก็ทะเลาะกันเรื่องแรกเลย”

โดย ‘ผู้ก่อการขัดแย้ง’ หลักๆ ก็คือเขา ซึ่งตอนนี้คิวแน่นกว่าคนอื่น เพราะละครเริ่มเปิดกล้องแล้ว

ที่ยุ่งแสนยุ่ง แต่ทุกคนก็ยังอยากทำ เจมส์บอกไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่พวกเขาอยากให้แฟนๆ ทุกคนมีความสุข

“คนดีที่ไหนจะคงคอนเซ็ปต์เดิม จะเป็นการที่เราไปทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ให้เห็นว่าคนอย่างเรา ต่อให้จะเป็นคนดีหรืออาจจะไม่ใช่คนดีเลยก็ได้ แต่เราสามารถทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ได้ และจะพาไปเที่ยว ให้ความสนุกและความสุขกับทุกคน”

“เป้าหมายหลักเราอยากให้ทุกคนมีความสุข”

“มีความเชื่อว่า เวลาเราอยู่ด้วยกัน 5 คน เราสนุก”

 

ในเรื่องของความรัก เจมส์บอกว่าความสัมพันธ์กับโฟมนั้น “ดีครับ ดีอยู่เลย”

แต่กระนั้นการที่ไม่ได้ออกมาเปิดตัวหวือหวา หรือว่าประกาศความหวานให้ประจักษ์ อาจเป็นเพราะ “เราเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่แรก”

คือเรียบๆ เรื่อยๆ

“แต่ผมก็รู้สึกว่า ณ โมเมนต์ที่ผมอยู่ตรงนี้ มันก็ค่อนข้างดี”

ขณะเดียวกัน เธอเองก็เข้าใจ

“ใช่ครับ สำคัญตรงที่เรื่องของสองคนแหละ เพราะถ้าเกิดว่าเขาไม่เข้าใจเลย ผมว่ามันอาจจะอยู่ไม่ได้”

อีกทั้งในตอนนี้เธอเองก็เริ่มชินทั้งในเรื่องของข่าว และเรื่องดราม่าต่างๆ ที่เข้ามาพัวพัน

“ระยะเวลามันนาน คือเลยจุดนั้นมาแล้ว จุดที่แย่”

“พอเวลาผ่านไป เหมือนคนที่รู้แล้ว ว่ามันจะมีเรื่องนี้ๆ เหมือนเขาเริ่มเข้าใจ และชินแล้ว”