Sony ‘New’ BRAVIA TV ความบันเทิงที่เหนือชั้นอีกระดับ / เครื่องเสียง : พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Sony ‘New’ BRAVIA TV

ความบันเทิงที่เหนือชั้นอีกระดับ

 

แม้โควิดจะยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ จะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นก็ยังดูครึ่งๆ กลางๆ ไม่ชัดว่าจะไปข้างไหนแน่ แต่นานาธุรกิจต้องเดินหน้าต่อแบบมิอาจรออะไรได้อีกต่อไปแล้ว

จริงๆ ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาในแวดวงไอที รวมทั้งวงการเครื่องเสียง ได้มีผู้นำเข้าบางรายจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่แบบให้มาเจอะเจอจับต้องตัวเป็นๆ ได้ ให้เห็นกันบ้างแล้ว

เดือนที่ผ่านมาก็ถึงครา บจก.โซนี่ไทย บ้างหลังจากว่างเว้นงานทำนองนี้มากว่าสองปีเห็นจะได้

แต่ก็ไม่ได้ไปจัดที่ไหนไกลเกินที่ทำการสำนักงานใหญ่บนถนนเพชรบุรี (ตัดใหม่) พร้อมมีเจ้าหน้าที่ตรวจ ATK ก่อนให้เข้างานอย่างเคร่งครัด

พระเอกของงานครั้งนี้มาครบทั้งทางด้านภาพและเสียง

ว่ากันเรื่องภาพก่อนละกัน

 

พูดถึงระบบภาพของ Sony ก็หนีไม่พ้นชื่อ BRAVIA ที่เป็นแบรนด์ของ Sony Visual Inc. ซึ่งใช้มาเกือบสองทศวรรษเห็นจะได้ จำได้เป็นเงาๆ ว่าตอนเปิดตัวแบรนด์นี้ที่กรุงโตเกียว (ซึ่งได้ไปกับเขาด้วย) นั้น มีสื่อมวลชนจากทั่วโลกไปร่วมงานกันอย่างล้นหลาม ถึงวันนี้ผมก็เลือนๆ ไปแล้ว ว่าชื่อบราเวียนั้นย่อมาจากอะไร ต้องกลับไปรื้อลิ้นชักความทรงจำสักหน่อยนึง จึงค่อยได้ความว่ามาจาก Best Resolution Audio Visual Integrated Architecture ซึ่งใช้แทนความเป็นเลิศของจอภาพ Sony ที่ให้ความละเอียดของภาพและเสียงออกมาได้อย่างเป็นที่สุดแล้ว, อะไรทำนองนั้นแหละครับ

BRAVIA TV รุ่นใหม่ที่นำมาเปิดตัวในงานเที่ยวนี้ มีอยู่สามอนุกรมด้วยกันที่โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบประมวลผลแบบใหม่ คือ A90K-Series, A80K-Series ใช้จอภาพแบบ OLED และ X90K-Series ที่ใช้จอภาพแบบ 4K LED โดยชิพประมวลผลใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาล่าสุดนี้ เป็นแบบที่เรียกว่า Cognitive Processor XR

ทีวีรุ่นใหม่สามอนุกรมนี้จึงเรียกได้อีกชื่อว่า BRAVIA XR ครับ

 

ชิพตัวนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อจำลองแบบของการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์ จากนั้นจึงสร้างประสบการณ์ภาพและเสียงที่สมจริงขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งยังสามารถวิเคราะห์พร้อมปรับปรุงองค์ประกอบของภาพโดยเฉพาะตำแหน่งที่โฟกัส เพื่อให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินไปกับเนื้อหาของภาพอันโดดเด่น รวมทั้งยังให้สีสันที่สดใสและสมจริงในทุกมุมมอง พูดง่ายๆ คือใช้อัลกอริธึ่มขั้นสูงประมวลผลข้อมูลจากประสบการณ์จริงของบุคคลอันหลากหลายทั้งในแง่การมองเห็น และการได้ยิน แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อรังสรรค์ภาพ และเสียง ของคอนเทนต์ ให้ออกมาใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามธรรมชาติของการเห็นและได้ยินของผู้คนนั่นเอง เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทีวีให้ออกมาจึงมีความสมจริงสูงมากทั้งทางด้านภาพและเสียง

โดยทางด้านภาพนั้นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานของชิพประมวลผลนี้ ประกอบไปด้วย XR Colour ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ XR Triluminos Pro ที่ช่วยให้สเปกตรัมสีกว้างขึ้น ทำให้ทีวีสามารถเข้าถึงสีได้มากกว่าพันล้านสี จึงสามารถแยกแยะความต่างในความเหมือนของแต่ะสี ที่แม้จะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยมากๆ ออกมาได้อย่างละเอียด ภาพที่เห็นในจอจึงมีความสมจริงตามธรรมชาติเสมือนมองเห็นภาพจริงด้วยตาเปล่า

องค์ประกอบต่อมาคือ XR Contrast ชิพประมวลผลนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ภาพต่างๆ ในลักษณะเดียวกับที่สายตาโฟกัส เพื่อช่วยให้ได้สีและความลึกของภาพตามความเป็นจริงที่เห็น โดยจะปรับความสว่างในจุดที่แสงจ้า และให้สีดำสนิทในเงามืด ทำให้ได้รายละเอียดของภาพครบถ้วนทั้งในบริเวณที่สว่างและในพื้นที่อันมืดมิด

อีกองค์ประกอบ คือ XR Clarity เป็นการสร้างพื้นผิวภาพที่หายไปขึ้นมาใหม่ เป็นการยกระดับคอนเทนต์ธรรมดาๆ ขึ้นมาเป็นภาพระดับ 4K ผ่าน XR 4K Upscaling เพราะชิพประมวลผลใหม่นี้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อสร้างพื้นผิวภาพที่หายไปและรังสรรค์รายละเอียดขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งภาพ 4K ที่จำลองและปรับปรุงขึ้นมาใหม่นี้จะแตกต่างกันไปตามต้นฉบับที่ป้อนเข้ามา

สุดท้าย คือ XR Motion เป็นการประมวลผลภาพเคลื่อนไหวอัจฉริยะ สำหรับฉากเคลื่อนไหวที่มีความเร็วสูง ให้มีความลื่นไหลปราศจากอาการพร่ามัว โดยชิพประมวลมวลผลและ XR Motion จะทำการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวในหลายๆ เฟรม เพื่อทำแน่ใจว่าฉากนั้นๆ จะดำเนินไปอย่างราบรื่น สว่าง และชัดเจน

 

นอกจากนี้ ทีวี BRAVIA XR ยังผนวกเข้าไว้ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อีกมาก เพื่อให้สามารถคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของผู้สร้างภาพยนตร์ และส่งมอบความบันเทิงออกมาต้องตามความตั้งใจของผู้รังสรรค์ผลงานนั้นๆ ได้อย่างสมจริงมากที่สุด อาทิ Calman Ready ที่ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากซอฟต์แวร์ที่ผู้สร้างใช้ในขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้ได้ภาพระดับที่เทียบเคียงได้กับการรังสรรค์โดยมืออาชีพอย่างแท้จริง

ทั้งยังมี Netflix Adaptive Calibrated Mode ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับคอนเทนต์ของ Netflix โดยเฉพาะ ซึ่งจะทำงานร่วมกับคุณสมบัติการปรับแสงรอบข้างเครื่องทีวี เพื่อปรับลักษณะภาพให้เหมาะสมกับสภาพแสงในห้องโดยอัตโนมัติ ทำให้ได้ภาพระดับสตูดิโออันน่าตื่นตา ทั้งด้วยสีสันและคอนทราสต์ที่แม่นยำ รวมทั้งภาพเคลื่อนไหวที่สมจริง ไม่ว่าจะชมอยู่ในห้องที่มีสภาพแสงลักษณะใดก็ตาม

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในทีวี BRAVIA XR ก็คือ BRAVIA CORE Calibrated Mode ซึ่งเป็นบริการสตรีมมิ่งที่มีภาพยนตร์จำนวนมากให้รับชม และได้ติดตั้งเข้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถใช้สิทธิ์ดูหนังได้สูงสุดถึง 10 เรื่อง และให้สตรีมแบบไม่จำกัดได้นานถึง 24 เดือน ทั้งยังมีเทคโนโลยี Pure Stream, IMAX Enhanced เพื่อช่วยให้เข้าถึงการถ่ายทอดภาพอันน่าตื่นตา และสร้างประสบการณ์ใหม่ในการดูภาพยนตร์ทางทางทีวีได้อย่างยอดเยี่ยม

 

สําหรับเทคโนโลยีทางด้านระบบเสียงที่ผนวกเข้าไว้ในทีวีรุ่นใหม่นี้ ได้ผสมผสานกันระห่าง XR Sound Position และ XR Surround ซึ่งจะช่วยให้ได้เสียงที่คมชัด ทั้งยังให้บรรยากาศเสียงแบบหลากหลายมิติด้วยคุณภาพสูงสุด ทำให้การรับชมได้อรรถรสจากการเข้ารหัสเสียงทั้งแบบ Dolby Atmos และ DTS Digital Surround อย่างกลมกลืน เสมือนร่วมอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันกับฉากต่างๆ ที่ปรากฏบนจออย่างสมจริง

ทั้งยังมีระบบ Acoustic Surface Audio+ ที่ให้การทำงานแบบพิเศษ ด้วยการเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นลำโพงหลายช่องสัญญาณเสียง เพื่อให้เสียงและภาพบนหน้าจอมีความสอดคล้องกันอย่างสมจริง รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Acoustic Multi-Audio ซึ่งมาพร้อมทวีตเตอร์ระบุตำแหน่งเสียง ที่ช่วยเสริมให้ตำแหน่งเสียงมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังให้สัมผัสเสียงที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพได้อย่างชัดเจนผ่านลำโพง X-Balanced

ครับ, ทั้งหมดนั้นเป็นบางคุณสมบัติของ Sony BRAVIA XR TV ที่คุณๆ สามารถสัมผัสคุณภาพอันโดดเด่นได้แล้ววันนี้ ซึ่งเท่าที่ผ่านสายตามาในวันเปิดตัวนั้น ต้องบอกว่ามันให้ความบันเทิงที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขีดขั้นทั้งทางด้านภาพและเสียงจริงๆ

ทั้งสามอนุกรมมีขนาดจอภาพให้เลือกแตกต่างกันไป ซึ่งโดยรวมแล้วมีตั้งแต่ขนาด 48 นิ้ว ถึง 85 นิ้ว

ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางด้านระบบเสียง มีอะไรบ้างนั้น ขอยกยอดไปเที่ยวหน้านะครับ •