ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (121) : การเมืองแบบไทยๆ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

หากรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้ง จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วทำประชามติ พวกเขาจะเกรงใจประชาชน การทำประชามตินี้ คือการถามความเห็นประชาชนจริงๆ

แต่รัฐบาลเผด็จการ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แล้วทำประชามติ ก็ทำพอเป็นพิธี หากไม่ผ่าน ก็เขียนใหม่จนกว่าจะรับ หรืออย่างเลวที่สุดก็คือประกาศใช้เลย โดยไม่ต้องทำประชามติ สรุปคือ ยังไงๆ พวกเขาก็จะได้รัฐธรรมนูญฉบับที่ตัวเองต้องการ

ดังนั้นเอง อนาคตจึงเห็นได้ชัดเจน ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอำนาจที่เหนือกว่าได้กำหนดไว้แล้ว

ในการทำประชามติครั้งนี้ ไม่แฟร์อย่างยิ่ง เพราะว่ามีการตั้งเงื่อนไขมากมาย พูดง่ายๆ คืออยากให้รับ เพราะหากไม่รับ ก็อาจจะได้ฉบับที่เลวกว่า เหมือนให้เด็กนักเรียนเลือกอาจารย์ใหญ่ และขู่ด้วยว่า หากครูคนนี้ไม่เอา ก็อาจจะได้อาจารย์ใหญ่ที่ดุกว่านี้

หรืออาจเอารัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมา มายำรวมกัน มีการตัดต่อ เอาบางส่วนของรัฐธรรมนูญฉบับนั้นมาผสมกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้

สมัยฉันเป็นนักศึกษา ฉันมีคัมภีร์เต้าเต๋อจินฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษหลายสิบฉบับ เพราะฉันชอบเปรียบเทียบ แต่แปลกที่ไม่มีฉบับไหนที่ฉันชอบที่สุด ไม่มีฉบับไหนที่สมบูรณ์ ฉันชอบบางบทในเล่มนั้น แต่ชอบบางบทในเล่มนี้ วันหนึ่งฉันเกิดไอเดียสุดยอด ว่าจะเลือกบทที่ชอบของแต่ละเล่ม มาเรียบเรียงเป็นเล่มใหม่ มันอาจเป็นเต้าเต๋อจินฉบับที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องแปลใหม่เลย

โดยความคิด มันน่าจะเป็นอย่างนั้น เช่น เลือกบทที่หนึ่งจากฉบับที่ฉันชอบที่สุด และบทที่สองจากอีกฉบับที่ฉันชอบที่สุด อย่างนี้เรื่อยไป จนครบแปดสิบบท มันคงกลายเป็นฉบับที่ดีที่สุดแน่ หรืออย่างน้อย ก็ไม่เลวกว่าเดิม

แต่ในทางปฏิบัติ มันทำไม่ได้ มันเหมือนการข่มขืนกัน มันผิดธรรมชาติ ทันใดนั้นมันก็ผิดหลักการเบื้องต้นของเต้าเต๋อจิน ที่ว่าด้วยการดำเนินไปตามธรรมชาติ มันคล้ายฉลาด แต่มันฝืดฝืน มันคล้ายจะดีกว่า แต่กลับไม่ใช่ เพราะธรรมชาติต้องการจุดอ่อนด้วย

นักแปลแต่ละคน อย่างน้อยก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน ใช้เวลาไม่น้อยในการแปล มีความดีบางอย่างในแต่ละฉบับ มันเป็นเนื้อเดียวกัน ความดีกับความไม่ดี บางครั้งมันแยกออกมาไม่ได้

เต้าเต๋อจินฉบับที่ดีโดยไอเดียของฉัน จึงกลายเป็นฉบับที่เลวที่สุด เพราะฉันไม่ได้แปลเอง

หากประชามติไม่ผ่าน คสช. ควรหยิบเอารัฐธรรมนูญในอดีตฉบับใดฉบับหนึ่งขึ้นมาทั้งฉบับ ถึงมันไม่ได้สมบูรณ์ อย่างน้อยมันก็มีความจริงในตัวมันเอง อย่างนี้การรับผิดชอบนี้ เป็นของคณะที่เขียนรัฐธรรมนูญฉบับนั้นขึ้นมาในอดีต แต่หากเขียนจนกว่าตัวเองจะพอใจ หรือหยิบฉบับนั้นมาผสมฉบับนี้ เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เกิดผลร้ายใดขึ้น คสช. ก็ต้องรับผิดชอบ

บ่อนการพนันเอง ก็ยังต้องมีกฎจริยธรรมบางอย่างของบ่อน เช่น

๑ ไม่โกงลูกค้า

๒ หากลูกค้าคนไหนชนะ ก็ต้องยิ้มแย้มแสดงความยินดี

แค่สองข้อนี้ ก็ถือว่าบ่อนการพนันนั้นมีจริยธรรมแล้ว มันไม่ต้องมาก เพราะการพนันเป็นอบายมุขอย่างหนึ่ง การมีกฎจริยธรรมของตัวเอง เป็นหลักการที่ค้ำจุนตัวมันเอง

แม้จะเรียบง่ายปานนั้น แต่ฉันเคยเจอบ่อน ที่เวลาลูกค้าได้ แม้จะไม่ได้มากมายอะไรจนเกินไป ทางบ่อนแสดงกิริยาไม่พอใจ หน้าบึ้ง ด่าว่า สั่งห้ามว่าทีหลังอย่ามาอีก ฉันตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าจะมี

ฉันอายแทน เห็นแล้วลืมไม่ได้

การทำประชามติครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ หากไม่ผ่าน จะเกิดอะไรขึ้น ควรบอกให้ชัดเจน นี้คือความแฟร์ ขอเพียงแค่นี้เอง ประชาชนมีสิทธิจะรับทราบ ในเรื่องนี้ฉันเห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ เราต้องนิ่งและตั้งคำถาม ส่วนพรรคเพื่อไทยจะต่อต้านสุดชีวิต จนกว่าจะได้ฉบับที่เลวที่สุด นี่เองที่ฉันบอกว่า ยอมหักไม่ยอมงอ

แปลกที่ว่า หาก คสช. แฟร์กับฉัน ความรู้สึกของฉันก็จะเปลี่ยนไป ฉันจะเต็มใจมากขึ้นในการพิจารณา และฉันอาจตัดสินใจได้ เช่น ฉันอาจรับ แต่หากไม่แฟร์กับฉัน ฉันคร้านที่จะคิด เพราะมันเป็นการข่มขืน

๑๐

ฉันเคยถามตัวเองเล่นๆ ว่า หากฉันเล่นการเมือง ฉันจะอยู่พรรคไหนดี

ฉันคงไม่อยู่พรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะรู้สึกมันซับซ้อนเกินไป ไม่ถูกกับธรรมชาติของฉัน

ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา ฉันชอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ใจนักเลง จริงใจ และมีคุณธรรมแบบชาวบ้านบางอย่าง มากกว่านักการเมืองที่ซับซ้อนมาก หากฉันจะไปร่วมกับพรรคที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และมีมานาน ฉันคงเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา แต่นี่เป็นเพียงการคิดเล่นๆ เพราะฉันคงไม่มีวันเป็นนักการเมือง

ฉันอาลัย บรรหาร ศิลปอาชา เราอาจคิดว่าเขาเป็นพวกปลาไหล ที่พร้อมจะย้ายไปอยู่ข้างไหนก็ได้ แต่ฉันกลับมองว่าเขาเป็นนักการเมืองแบบไทยๆ ที่น่ารัก

ที่จริง เล่นการเมืองแบบไทยๆ ก็ยังแบ่งออกเป็น

๑ เล่นการเมืองแบบไทยๆ ที่น่ารัก เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา

๒ เล่นการเมืองแบบไทยๆ ที่ไม่น่ารัก เช่น พรรคภูมิใจไทย

๓ หรือเล่นการเมืองแบบไทยๆ แบบน่ากลัว เช่น กปปส.

ที่น่าสนใจคือ ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย ล้วนตอบรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่จิตวิญญาณของพวกเขาไม่เหมือนกัน มันแสดงออกในน้ำเสียง ในคำพูด เลือกเหมือนกัน แต่ที่มาและที่ไปไม่เหมือนกัน ฉันสรุปง่ายๆ ว่า อันหนึ่งน่ารัก และอันหนึ่งไม่น่ารัก

๑๑

พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ล้วนซับซ้อน แม้จะตรงข้ามกัน เป็นคู่ปรับกัน ดีเลวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันไม่อาจตรงไปตรงมา ไม่เรียบง่าย ประเทศไทยอาจไปดีกว่านี้ หากพรรคชาติไทยพัฒนาชนะการเลือกตั้ง

๑๒

แปลกนะ ชีวิตเป็นแบบนี้

๑ ซับซ้อนก็ไปไม่รอด

๒ เรียบง่ายก็ไปไม่รอด

มันไปไม่รอดในทั้งสองทิศทาง

ฉันเลือกความเรียบง่าย ไม่ช้าก็ตัน พอเปลี่ยนมาเป็นซับซ้อน ไม่ช้าก็ตันอีกเช่นกัน รวมความคือมันล้วนไปไม่รอด แต่เมื่อชีวิตยังอยู่ ก็ต้องสู้ ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะรอดหรือไม่ก็ตาม