‘ฝีดาษลิงที่รัก’/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

ดร.ตรัย เป๊กทอง

ig : traipekthong

 

‘ฝีดาษลิงที่รัก’

 

ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายก็มาอีกแล้ว และที่แน่ๆ ความแกะ ความแพะ ความห่าน ฯลฯ กำลังเข้าคิวรอเราอยู่ตราบจนนิรันดร์

ผมเฝ้ารอการมาเยือนของฝีดาษลิงหน้าบ้านอย่างใจจดใจจ่อราวรอคอยคนรักกลับบ้าน การมาของเขาจะทำให้ผมเปลี่ยนแปลงแต่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เรามาว่ากันในบทความนี้

 

การมาของโรคอุบัติใหม่

คือข่าวดีของมวลมนุษยชาติ

ก่อนอื่นต้องขอให้มองไวรัสมุมมองใหม่ในฐานะเพื่อนผู้ช่วยให้รอด นี่คือตัวการที่ทำให้เรารักชีวิต ดูชีวิตรักษาชีวิตและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำรงอยู่ของชีวิต อย่างที่ไวรัสชนิดอื่นเคยทำมาในประวัติศาสตร์โลก

อย่างไวรัส HIV ทำให้เราเป็นโรคผัวเดียวเมียเดียวกันมากขึ้น

ไวรัสตับอักเสบทำให้เราใช้ภาชนะดื่มกินของใครของมัน

โคโรนาไวรัสตัวการโควิด-19 ทำให้เรารักบ้านรักถิ่นฐานครอบครัวรักตัวเอง

ดูแลสุขภาพออกกำลังกายกันเป็นบ้าเป็นหลัง

ค้นหาของดีๆ มีประโยชน์มาบำรุงสุขภาพร่างกาย

ลดเที่ยวต่างประเทศมาท่องเที่ยวในประเทศ ละแวกบ้าน

ทำความสะอาดบ้านเรือนให้น่าอยู่อาศัย ห้องใครห้องมันเป็นสัดเป็นส่วน รู้จักการปลีกวิเวกและสันโดษ อยู่กับตัวเองมากขึ้น

การดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองไม่พึ่งพิงใครหรือพึ่งน้อยที่สุด เป็นหนทางของนักบวชและอรหันต์ มีเพียงตัวเราและลมหายใจของเราเท่านั้น เสื้อผ้าน้อยชิ้นกันร้อนกันหนาว ข้าวน้อยมื้อเพียงพอให้ชีวิตอยู่รอด เรือนคาพอทิ้งกายาพักผ่อนหลับนอน น้ำและยาเวลาโรคามาเยือน

ขอบคุณไวรัสเพื่อนรักที่จะทำให้เราบรรลุสู่ปรมัตถ์ปรารถนา ในวิชาสุดท้ายของทุกชีวิตคือวิชาหลุดพ้น

ร้อยละแปดของยีนมนุษย์คือไวรัส

คำตอบจากนักวิทยาศาสตร์

ที่ศึกษาพันธุกรรมคน

หากคุณคิดว่าการที่เราสืบเชื้อสายมาจากลิงนั้นทำลายความรู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์แล้วล่ะก็ จงทำตัวให้เคยชินเสียเถอะ เพราะคุณยังสืบเชื้อสายมาจากไวรัสด้วย

ไวรัสเป็นกึ่งสิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายยีนไปมาหาสู่กัน หากมนุษย์จะสูญพันธุ์ ไวรัสนี่แหละจะอยู่ครอบครองโลกใบนี้ไปตราบนานเท่านาน จนถึงกาลล่มสลายของเอกภพ

เมื่อไฟบรรลัยกัลป์เผาทั้งสามโลกแล้วสร้างจักรวาลขึ้นมาใหม่ วิวัฒนาการชีวิตจากแบคทีเรียมาเป็นมนุษย์สำเร็จ ผมจะกลับมาเขียนบทความเรื่อง “ฝีดาษลิงที่รัก” ให้อ่านกันใหม่ด้วยข้อความเดิมๆ เพิ่มเติมตัวละครใหม่ๆ

ไวรัสฝีดาษลิงมีพันธุกรรมเป็นดีเอ็นเอสายคู่ในสกุล Orthopoxvirus ครอบครัว Poxviridae จะว่าไปแล้วไวรัสชนิดนี้ใกล้ชิดผูกพันกับมนุษย์เรามากกว่าโคโรนาไวรัสโรคโควิด-19 เสียด้วยซ้ำ เพราะมีเจ้าบ้านเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังอย่างลิง หนู กระรอก กระแต กระต่าย ฯลฯ เป็นพาหะ

และเชื่อว่าเป็นเพราะเรากินมันเป็นอาหารนั่นเองถึงเป็นตัวการการแพร่กระจายจากแอฟริกาไปทั่วโลก การถูกสัตว์เหล่านี้กัดข่วนระหว่างการเลี้ยงการล่าด้วย

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินของการระบาดแล้ว ทั้งยุโรป อเมริกา เอเชีย มีจำนวนผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วทั้งสิ้น 22,763 ราย และกำลังแพร่ไปเรื่อยๆ

โปรดเตรียมการต้อนรับการมาเยือนของเขาให้ดีๆ ถึงแม้ว่าลักษณะการแพร่เชื้อของฝีดาษลิงจะต่างไปจากโคโรนาไวรัสคือยากกว่า กล่าวคือ ต้องมีการใกล้ชิดสนิทสนม การไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยก็ตาม การได้รับสารคัดหลั่งเมื่อผู้ป่วยไอจามและติดต่อกันทางอากาศอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ง่ายเท่าเชื้อไวรัสโควิด-19

ลักษณะอาการฝีที่เกิดขึ้นบนผิวหนังภายในระยะเวลา 5 ถึง 21 วันหลังจากการติดเชื้อ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีไข้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต

อาการเหล่านี้อาจหายได้โดยไม่ต้องรักษาภายในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์

สิ่งที่จะทำให้แพทย์วินิจฉัยผิดว่าเป็นเพียงฝีทั่วไป สุกใส หัด งูสวัด เริมได้ต้องทำการตรวจดีเอ็นเอของไวรัสเพื่อยืนยันเท่านั้นว่าเป็นฝีดาษลิง

 

ใครคือกลุ่มเสี่ยง?

วัคซีนที่ใช้ป้องกัน-การรักษา

เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำคือกลุ่มเสี่ยง วัคซีนที่ใช้ป้องกันตอนนี้มีเพียงวัคซีนที่เราใช้ป้องกันฝีทั่วไป ส่วนวัคซีนเฉพาะเราพัฒนาและถูกอนุมัติให้ใช้ได้แล้วแต่ยังอยู่ในวงแคบๆ ของงานวิจัย

สำหรับยาต้านไวรัสกลุ่มนี้เราก็มี cidofovir และ tecovirimat ซึ่งยังใช้ได้ผลดีและด้วยเหตุที่มีการประมาณอัตราการตายของไวรัสยังต่ำเมื่อเทียบกับโรคร้ายชนิดอื่นจากรายงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2560

ปัจจุบันเราจัดประเภทของไวรัสตามระบบของบัลติมอร์ (Baltimore classification) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจำแนกไวรัสตามลักษณะการสังเคราะห์อาร์เอ็นเอของผู้ส่งสาร ด้วยการจัดระเบียบไวรัสตามลักษณะการผลิต mRNA จึงเป็นไปได้ที่จะศึกษาไวรัสที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกันเป็นกลุ่มที่แตกต่างกัน (ดูรูปประกอบ)

คุ้นๆ กับคำว่า “เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA)” กันไหมครับ

ใช่ครับ คำเดียวกันกับเอ็มอาร์เอ็นเอวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์กับโมเดอร์นาที่ได้ยินกันบ่อยๆ ในช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 ที่ผ่านมานี่แหละครับ ร่างกายของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะใช้สร้างโปรตีนในเซลล์

คนที่ฉีดวัคซีนแบบนี้จึงมีอาการไข้แบบแปลกๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากสมองเรามึนงงกับคำสั่งใหม่จากผู้ส่งสารว่าทำไมจู่ๆ ถึงสั่งให้ร่างกายเราผลิตโปรตีนชนิดที่ไม่เคยผลิตมาก่อนอย่างโปรตีนเปลือกของไวรัสโคโรนา เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันมาเจอและผลิตแอนติบอดี้ต่อไป

คนที่ฉีดวัคซีนจากจีนไม่เป็นเพราะเป็นวัคซีนคนละแบบกันคือเป็นโปรตีนเปลือกของไวรัสเลย ปลอดภัยกว่าแต่ประสิทธิภาพต่ำกว่า

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน (Antivaxer) ซึ่งก็ยังมีอยู่ในทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเรา ถ้าอ่านบทความนี้เข้าใจก็คงพอจะเบาใจได้ว่าตัววัคซีนไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์แต่อย่างใด

ไวรัส 9,000 กว่าชนิดที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ตั้งชื่อและศึกษาโรคที่ไวรัสเป็นสาเหตุล้วนจัดออกได้เป็น 7 กลุ่มนี้ และพบว่าไม่ได้สัมพันธ์กันกับวิวัฒนาการก่อนหลังการเกิดขึ้นมาของมัน เพียงแต่การจัดกลุ่มแบบนี้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษากลไกการทำงานของยีนของไวรัส จะได้หาวิธีป้องกัน วิธีการผลิตวัคซีนแบบใหม่ๆ ฯลฯ เท่านั้นเอง

บทความนี้จะขอสาธยายไวรัสทั้ง 7 กลุ่มสั้นๆ พร้อมทั้งยกตัวอย่างโรคที่เกิดคร่าวๆ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพโลกของไวรัส

I ดีเอ็นเอสายคู่ไวรัส : โรคฝีดาษลิง หวัด เริม งูสวัด มะเร็ง ฯลฯ

II ดีเอ็นเอสายเดี่ยว : โรคทางภูมิคุ้มกัน ฯลฯ

III อาร์เอ็นเอสายคู่ : โรคของแบคทีเรีย ฟังไจ ฯลฯ

IV อาร์เอ็นเอสายเดี่ยวสาย+ : โรคโควิด-19 ไข้เหลือง โปลิโอ ฯลฯ

V อาร์เอ็นเอสายเดี่ยวสาย- : โรคตับอักเสบ คางทูม ฯลฯ

VI อาร์เอ็นเอสายเดี่ยวที่มีบางช่วงวัฏจักรเป็นดีเอ็นเอ : โรคเอดส์ ฯลฯ

VII ดีเอ็นเอสายคู่ที่มีบางช่วงวัฏจักรเป็นอาร์เอ็นเอ : โรคพืช โรคตับอักเสบ ฯลฯ

เห็นชื่อโรคแล้วทำให้เราระลึกได้ว่าคนเราเกิดมาเพื่อตายแท้ๆ ไม่มีใครรอดพ้น ไม่ว่าจะตายด้วยไวรัสหรือเรื่องอื่น

นอกจากฝีดาษลิง เรายังมีฝีดาษวัว ควาย ม้า อูฐ ลิง รวมถึงฝีดาษคนโดยเฉพาะไม่ต้องตระหนก การสวมหน้ากากตลอดระยะเวลาที่ออกนอกชายคาเป็นสิ่งที่ยังควรทำ การล้างมือบ่อยๆ ลดการสัมผัสโอบกอดจับจูบ เว้นระยะห่าง ลดการสังสรรค์พื้นที่เสี่ยง กลับมาอยู่กับตัวเอง (อีกครั้ง)

กลับมารักตัวเอง รักครอบครัว รักคนที่เรารัก รักคนที่รักเรา เพื่อนบ้านของเรา คนที่อยู่รอบๆ ตัวเรา เพราะ

“ผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่แลเห็นแล้ว จะรักพระเจ้าที่ไม่เคยเห็นไม่ได้”

ฝีดาษลิงที่รักบอกรักผมอย่างนี้