ทลายเครือข่ายอาวุธสงคราม จับ ‘ทหาร-3 ตำรวจ’ เอี่ยวค้าปืน ‘โจ๊ก’ ติว ผกก. ถ้าเอาไม่อยู่ฝึกงาน ตร./บทความโล่เงิน

บทความโล่เงิน

 

ทลายเครือข่ายอาวุธสงคราม

จับ ‘ทหาร-3 ตำรวจ’ เอี่ยวค้าปืน

‘โจ๊ก’ ติว ผกก. ถ้าเอาไม่อยู่ฝึกงาน ตร.

 

พัทลุงขึ้นชื่อว่าเมืองคนดุ มีคดีมือปืนและผู้มีอิทธิพลสะสมปัญหามายาวนาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ก่อปัญหา กระทำตนลักษณะเกลือเป็นหนอนบ้าง ทุบหม้อข้าวตัวเองบ้าง

เหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ กรณีแรก ด.ต.สันติบาลเอาปืนหลวงไปจำนำ แล้วขายต่อเป็นทอดๆ จนหลุดไปอยู่ที่สมุน “ไอ้แกร็ก” นายประดิษฐ์ มุสิกะสงค์ มือปืนรับจ้าง 15 คดี ถูกวิสามัญฯ ไปแล้วเมื่อ 24 มกราคมที่ผ่านมา

และกรณีที่สอง จ.ส.อ.ค่ายเสนาณรงค์ค้าอาวุธปืนสงคราม จนปืนไปอยู่ในมือคนร้าย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม หลังจาก 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

 

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังตำรวจ ภ.9 ร่วม ภ.จว.พัทลุง และ สภ.ควนขนุน ได้วิสามัญ “ไอ้แกร็ก” จากนั้นได้ติดตามจับกุมกลุ่มมือปืนรับจ้าง พ่อค้ายาเสพติดที่มีอาวุธปืนสงครามอยู่ในความครอบครอง กระทั่งสืบสวนทราบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ มีส่วนรู้เห็นนำอาวุธปืนสงครามมาจำหน่ายให้กับกลุ่มคนร้าย จึงขออำนาจศาลจังหวัดพัทลุงเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติด

จากการตรวจสอบพบเป็นปืนของ ด.ต.ธวัชชัย เพ็ชรบุรี ที่มีการเบิกยืมออกมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ ด.ต.ธวัชชัยได้นำอาวุธปืนไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย แล้วได้ขายต่อเป็นทอดๆ ไป จนถึงมือนายไพฑูร ขวัญแก้ว ลูกสมุนของ “ไอ้แกร็ก” ก่อนส่งไปถึงมือนายพีรพงษ์ ขำผุด ผู้ต้องหาที่ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านคู่กรณี ที่ขับรถเฉี่ยวชนกันและไม่สามารถตกลงกันได้

ตำรวจขออนุมัติศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 5 ราย ประกอบด้วย

1. ด.ต.ธวัชชัย เพ็ชรบุรี โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

2. ร.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ พละไชย

3. ด.ต.สุเทพ เพ็งทิพย์ โดนกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรับของโจร

4. นายทรงพล บุญดำ

และ 5. นายไพทูร ขวัญแก้ว ถูกกล่าวหาว่า สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรับของโจร

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 รายถูกจับกุมได้หมด ปิดแฟ้มคดีแล้ว

 

เหตุการณ์ที่สองนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดพัทลุงตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติด 3 ราย มี

1. นายอภิสิทธิ์ หรือบิว ฉิมพูน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/1 ม.5 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง พร้อมปืนเอ็ม 16 2 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน กระสุนปืนรวมกว่า 100 นัด ยาบ้าและไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง

2. นายวสันต์ หรือผอม รอดนวน พร้อมปืนพกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 ม.ม.ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน พร้อมกระสุนปืน 14 นัด และไอซ์จำนวนหนึ่ง

3. จับกุมนายชิต มีสี อายุ 58 ปี พร้อมอาก้า 1 กระบอก แม็กกาซีน และกระสุนปืนรวมกว่า 100 นัด อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนขนาด .22 จำนวน 10 นัด และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งสามเป็นเครือข่ายยาเสพติด โดยอาวุธปืนทั้งหมดเป็นของนายวสันต์ จากนั้นได้มีการขยายผล หาแหล่งที่มาของอาวุธปืนสงครามจนทราบว่า นายวสันต์ได้ซื้ออาวุธปืน เอ็ม 16 จาก จ.ส.อ.กิตติพงศ์ ไชยพรหม กระบอกละ 50,000 บาท และทราบอีกว่านายวสันต์กำลังวางแผนนำอาวุธปืนสงครามไปยิงคู่อริ แต่ถูกตำรวจจับได้ก่อน

ต่อมาได้จับกุม จ.ส.อ.กิตติพงศ์ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยมิได้รับอนุญาต

รวมจับกุมขบวนการได้ทั้งสิ้น 4 ราย

 

พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ตำรวจที่ขายปืนอาวุธประจำกายตัวเอง จะเป็นตำรวจโบราณ อายุ 50-60 ปี ที่พอยังมีอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นตำรวจรุ่นใหม่ จะไม่มีแล้ว ตำรวจที่ทำอย่างนี้ถือว่าทุบหม้อข้าวตัวเอง ถ้าพบจะไม่เอาไว้ ปืนที่ขายส่วนใหญ่จะไปอยู่ในพ่อค้ายาเสพติด แต่ปัจจุบันปัญหาลดไปเยอะแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้นกวาดล้างโจรขโมยรังนก คนร้ายที่ไม่สู้ตำรวจได้เข้ามามอบตัว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า 7 เดือนที่ผ่านมาการก่อคดีอาชญากรรม จ.พัทลุง ลดลงเป็นที่น่าพอใจ จากนี้ไป ผกก.จะต้องควบคุมพื้นที่ให้สงบ โดยจะต้องไม่มีเสียงปืนดังขึ้นในพื้นที่โดยเด็ดขาด หากดังขึ้นจะต้องนำ ผกก.ไปฝึกงาน เพราะควบคุมพื้นที่ไม่ได้ เชื่อมั่นว่าหาก ผกก.เดินหน้าปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ยาเสพติด คนร้ายจะอยู่ไม่ได้

“ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำไม่ให้เกิดเหตุยิงบ้านเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องโบราณที่ไม่ควรจะมีขึ้นในปัจจุบันนี้แล้ว นอกจากนี้ ยังให้แนวคิดว่าต้องไม่มีปืนที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ ถ้าพบดำเนินคดีตั้งแต่ต้นทางปืนมาจนถึงปลายทาง พัทลุงต้องเอาปืนออกจากพื้นที่ให้เยอะที่สุดเพื่อนำความสงบกลับคืนพื้นที่ให้มากที่สุด ขอย้ำอีกครั้งว่าหากมีเสียงปืนดังขึ้น แม้ว่าจะจับกุมผู้ต้องหาได้ ผกก.จะต้องถูกเรียกตัวไปฝึกงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยทันที ยกเว้นคดีเกิดขึ้นภายในครอบครัวที่พอจะให้อภัยกันได้” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุงกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นมาก ชาวบ้านแฮปปี้ เพราะปรับย้ายข้าราชการที่ไม่ดีออกไปมาก กวาดล้างผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนไม่กล้าออกมานั่งกินข้าวนอกบ้าน เพราะกลัวลูกหลง แต่ตอนนี้บรรยากาศดีขึ้น

จากนี้ไปหวังว่าชาวพัทลุงคงยิ้มออกได้มากขึ้น