ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 กรกฎาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์
นพมาส แววหงส์
THE MAN FROM TORONTO
‘ขำขันแบบโหดๆ’
กำกับการแสดง
Patrick Hughes
นำแสดง
Kevin Hart
Woody Harrelson
Ellen Barkin
Jasmine Mathews
เควิน ฮาร์ต เป็นนักแสดงตลกประเภทเดี่ยวไมโครโฟน (stand-up comedian) มาก่อนที่จะผันตัวเองมาเล่นบทบาทตลกบนจอภาพยนตร์
ใน The Man from Toronto เขาเล่นเป็นชายผู้ล้มเหลวในทุกเรื่องไม่ว่าจะทำอะไร แต่มีภรรยาแสนสวยแสนดี (แจสมิน แมทธิวส์) ผู้รักและให้อภัยเขามาตลอด ทั้งๆ ที่เขาทำพลาดไปเสียทุกเรื่องไม่ว่าจะทำอะไร
เท็ดดี้ (เควิน ฮาร์ต) เป็น “คนขี้แพ้” (born loser) โดยแท้ ทำอะไรก็ล้มเหลวจากความผิดพลาดพลั้งเผลอของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาเป็นเซลส์แมนของโรงยิม ซึ่งเจ้านายให้โปรโมตกิจการ…แน่นอน เขาพยายามดีที่สุดในการ “ขาย” และดูเหมือนจะทำสิ่งที่ถูกต้องสักครั้งในชีวิต…ทว่า…
งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่สวยหรูชวนเร้าใจของเขา ลืมใส่ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของสถานที่ไว้ด้วย
เจ้านายโกรธจนหนวดกระดิกเลยเชียวล่ะ…นี่เป็นสำนวนนะคะ ไม่ได้หมายความตรงตามตัวอักษรจริงๆ
โปรเจ็กต์ปัจจุบันที่เขากำลังพยายามโปรโมต คือ การชกมวยแบบไม่โดนตัว (no-contact boxing) ซึ่งแน่นอนว่าจุดขายคือการออกกำลังกายโดยไม่ต้องมีใครเจ็บตัว เพราะเป็นการ “ชกลม” กับคู่ต่อสู้
ซึ่งเจ้าของโรงยิมที่เขาทำงานให้เห็นว่าเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุดเท่าที่เคยมีใครคิดมา
เท็ดดี้เป็นคนขี้แพ้ถึงขนาดที่ภรรยาสุดที่รักของเขาใช้ชื่อเขาเป็นคำกริยาแทนการกระทำที่ลงเอยด้วยความล้มเหลว
“คราวนี้ อย่า ‘เท็ดดี้’ อีกนะ”
เท็ดดี้ยอมรับคำปรามาสโดยดุษณีและหน้าชื่น และ “พยายาม” จะไม่พลาดสักครั้งในชีวิต
ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าเขารักเทิดทูนและขอบคุณภรรยามากขนาดไหนที่ทนอยู่กับคนขี้แพ้อย่างเขามาได้หลายปีดีดักขนาดนี้
เขาจะจัดงานครบรอบแต่งงานให้เธออย่างตรึงตราน่าประทับใจที่สุดแบบที่เธอจะไม่มีวันลืมเลย โดยจัดการจองบ้านพักอันวิเวกและแสนโรแมนติกในบริเวณป่าที่เวอร์จิเนีย
โปรเจ็กต์การเอาใจภรรยานี้เริ่มผิดพลาดตั้งแต่เท็ดดี้ไปสำรวจและเตรียมการที่บ้านพักที่จองไว้ โดยไปผิดที่…จากความสับสนของบ้านเลขที่ที่อ่านไม่ชัดเจน
ส่งผลให้ผู้ที่เปิดประตูรับเขาเข้าบ้าน เป็นอันธพาลที่จับตัวคนเก็บข้อมูลลับสุดยอด เพื่อดำเนินงานอาชญากรรมใต้ดินขององค์กรต่อไป
และเท็ดดี้เฟอะฟะตามแบบฉบับคนขี้แพ้เสียจนถูกเข้าใจผิดว่าเขาเป็น “ชายจากโตรอนโต” ตามชื่อหนัง
“ชายจากโตรอนโต” ตัวจริง (วู้ดดี้ แฮร์เรลสัน) เป็นสุดยอดฝีมือของนักฆ่ารับจ้างผู้ที่มีกิตติศัพท์ที่ได้รับการเล่าขานกันในวงการว่าใครก็ตามที่มาถึงมือเขาแล้ว จะต้องอ้าปากคายความลับโดยไม่ยอมอมพะนำไว้จนตายได้ทุกคนและทุกครั้ง
โตรอนโตได้รับคำสั่งทางโทรศัพท์จากผู้ว่าจ้าง (เอลเลน บาร์กิน) ขององค์กรอาชญากรรมแบบเป็นระบบนี้ ให้เดินทางมาจัดการเค้นข้อมูลสำคัญนี้ให้ได้ก่อนจะลงมือช่วยให้พ้นความทุกข์ทรมานขั้นสุดท้ายไปเสีย
แต่เท็ดดี้ก็กระทำการแบบ “เท็ดดี้” อีกครั้ง โดยทำให้เหล่าร้ายเข้าใจว่าเขาเป็นชายจากโตรอนโต
การผิดฝาผิดตัวครั้งนี้เลยเถิดไปอีก และนำคนขี้แพ้ผู้ล้มเหลวเป็นประจำไปสู่ปฏิบัติการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแบบเหลือเชื่อ ซึ่งมีชายจากโตรอนโตคอยช่วยเหลือให้เขากระทำการสำเร็จ
นี่เป็น “หนังบัดดี้” ซึ่งนำคนสองคนที่แตกต่างกันคนละขั้วมาอยู่ด้วยกันจนกลายเป็นเพื่อนเกลอที่รักใคร่ผูกพันกันจนยากจะตัดขาด
และพลิกชีวิตของทั้งสองคนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
นอกจากอันตรายในภารกิจที่ได้รับการว่าจ้างแล้ว ทั้งสองยังต้องเผชิญและฝ่าฟันภัยจากคนพวกเดียวกันที่มองเห็นว่าทั้งสองกลายเป็นพิษเป็นภัยสำหรับพวกเขา
เพราะองค์กรลับที่มีเครือข่ายกว้างขวางครอบคลุมไปทั่วโลกนี้ไม่ได้มีชายจากโตรอนโตอยู่คนเดียวในสังกัดที่สามารถเรียกหาบริการได้ แต่ยังมีชายจากไมอามี ชายจากโตเกียว ชายจากมอสโก ฯลฯ ผู้เป็นมือสังหารขั้นมหากาฬที่มีค่าตัวสูงลิ่วทุกคน
จริงๆ แล้ว หนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้พูดถึงมากนัก เพราะเป็นแค่เอาของเก่ามาเล่าอีกครั้ง ในแบบเดิมๆ แค่หาฉากแอ๊กชั่นที่เร้าระทึกมานำเสนอสนองความต้องการของคนดู
และจากมาตรฐานของผู้เขียน เควิน ฮาร์ต ออกจะเป็นดาวตลกแบบเฟอะฟะที่พูดมากจนน่ารำคาญ และไม่ทำให้คนดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวด้วยนัก
ส่วนวู้ดดี้ แฮร์เรลสัน ก็เล่นบทที่กลายเป็นแบบฉบับของเขาไปแล้ว คือบทตลกร้าย
ยังจำได้ถึงกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ซึ่งเมื่อเขายังหนุ่มแน่นหน้าตาดี…ไม่ใช่ “โล้นซ่า” หน้าตาขมึงทึงเหมือนตอนนี้…และเล่นเป็นชายในดวงใจของเดมี่ มัวร์ แสนสวยใน Indecent Proposal ซึ่งลงเอยด้วยการที่นางเอกเลือกเขาเหนือโรเบิร์ต เรดฟอร์ด ผู้มีมาดสมาร์ตและเหนือชั้นกว่า
อ้อ มีเกร็ดเกี่ยวกับชีวิตของวู้ดดี้ แฮร์เรลสัน ที่ชวนพิศวงอีกเรื่อง คือ ในชีวิตจริง พ่อของวู้ดดี้เป็นมือสังหารรับจ้างผู้ลงมือฆ่าผู้พิพากษาและต้องโทษจองจำอยู่
จะบอกว่า ชีวิตจริงอิงนิยาย หรือ นิยายอิงชีวิตจริง ก็ไม่รู้ล่ะ •
The Man from Toronto