ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | ใครทิ้งรัฐบาลก่อนคนนั้นชนะ

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

ลําปางแลนด์สไลด์ที่เสรีรวมไทยชนะพรรคคุณธรรมนัส พรหมเผ่า ขาดลอย สะท้อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้นในไทย เพราะไม่เพียงผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคฝ่ายค้านที่ไม่เคยมี ส.ส.เขตเลยจะชนะ ส.ส.เก่าจากพรรครัฐบาล คะแนนที่เสรีวมไทยชนะยังห่างกันเกือบเท่าตัว

พูดตรงๆ เสรีรวมไทยแข่งกับพรรคคุณธรรมนัสในเงื่อนไขที่เสียเปรียบตั้งแต่ความคุ้นเคยพื้นที่, ไม่มีเครือข่ายหัวคะแนน, ไม่มีข้าราชการช่วย, ไม่มีกลุ่มอิทธิพลเบื้องหลัง รวมทั้งไม่มีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ส่วนความได้เปรียบข้อเดียวคือเสรีรวมไทยอยู่ฝ่ายค้าน ส่วนคุณธรรมนัสอยู่ฝ่ายรัฐบาล

โดยทั่วไปการเลือกตั้งซ่อมมักจบด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายค้านและชัยชนะของฝ่ายรัฐบาล

เหตุผลง่ายๆ คือการเลือกตั้งแบบนี้ไม่มีผลต่อการได้นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล คนจึงมักลงคะแนนโดยพิจารณาว่าผู้สมัครคนไหนจะให้อะไรได้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มีอะไรให้ประชาชนได้เลย

เมื่อใดที่ฝ่ายค้านชนะรัฐบาล เมื่อนั้นย่อมแปลว่าความชิงชังของประชาชนต่อรัฐบาลได้มาถึงจุดซึ่งไม่สนใจผลประโยชน์จากรัฐบาลในแง่ตัวเงิน, โครงการก่อสร้าง, นโยบายสาธารณะ, งบประมาณ ฯลฯ ถึงขั้นที่ตัดสินใจลงคะแนนเพื่ออุดมการณ์หรือการแสดงออกว่าไม่สนับสนุนรัฐบาล

แม้คุณธรรมนัสจะมีภาพเป็นฝ่ายตรงข้ามคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเทียบกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่ถึงจะเป็นพวกรัฐบาลโดยไม่เอาประยุทธ์ คุณธรรมนัสก็เป็นพวกเดียวกับรัฐมนตรีและ ส.ส.ในเครือข่ายประยุทธ์ทุกคน ยุทธศาสตร์โค่นประยุทธ์แต่เอารัฐบาลจึงไม่ทำให้คุณธรรมนัสได้คะแนนสูงขึ้นเลย

สำหรับคนที่ไม่พอใจรัฐบาล พรรคคุณธรรมนัสเป็นพวกรัฐบาลจนไม่จำเป็นต้องเลือกเข้าสภา แม้คุณธรรมนัสจะแสดงออกว่าต้องการโค่นคุณประยุทธ์ แต่คุณธรรมนัสก็พร้อมจับมือกับคุณประวิตร วงษ์สุวรรณ และคนอื่นๆ จนความกระด้างกระเดื่องเป็นเพียงความโกรธที่ไม่ได้ตำแหน่งที่ต้องการเท่านั้นเอง

สำหรับคนที่สนับสนุนรัฐบาล คุณธรรมนัสคือสัญลักษณ์ของคนที่ทำทุกทางเพื่อโค่นคุณประยุทธ์จนรัฐบาลล้มไปด้วย คุณธรรมนัสจึงเป็นภัยคุกคามรัฐบาลขั้นต้องกำจัดให้สิ้นซาก ยุทธศาสตร์โค่นประยุทธ์แต่เอารัฐบาลจึงไม่ช่วยให้คุณธรรมนัสได้คะแนนจากผู้สนับสนุนรัฐบาลด้วยเช่นกัน

สำหรับคนที่เลือก ส.ส.โดยไม่สนใจเรื่องฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่เลือกเพราะความขยันลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในแง่นโยบายและไปงานศพ พรรคคุณธรรมนัสที่อยู่ในรัฐบาลแต่ไม่มีตำแหน่งอะไรคือพรรคที่คุมข้าราชการและทรัพยากรอื่นไม่ได้ เลือกเข้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

มีการโจมตีว่าพรรคคุณธรรมนัสแพ้เพราะเป็น “นกสองหัว” ที่ทรยศรัฐบาลไปเป็นพวกฝ่ายค้าน แต่การเลือกตั้งซ่อมทุกพื้นที่ในปี 2565 จบด้วยชัยชนะของคนที่ไม่ใช่พวกรัฐบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณสุรชาติ เทียนทอง ที่หลักสี่ หรือชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์ที่สงขลาและชุมพร

อาจมีผู้โต้แย้งว่าประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรครัฐบาล แต่ข้อเท็จจริงคือประชาธิปัตย์หาเสียงในพื้นที่โดยโจมตีรัฐบาลไม่มียั้ง คุณนิพนธ์ บุญญามณี ปราศรัยเรื่องที่ไม่มีใครในรัฐบาลกล้าพูดว่าเดี๋ยวพลเอกบางคนก็ตาย

ขณะที่พรรคจงใจวางตัวในรัฐบาลโดยสื่อสารกับสังคมว่าไม่ใช่พวกรัฐบาล ถึงจะอยู่ร่วมรัฐบาล

ทุกครั้งที่ประชาชนมีโอกาสลงคะแนน ประชาชนได้แสดงออกอย่างต่อเนื่องว่าต้องการเลือกพรรคที่ไม่ใช่รัฐบาล หรือไม่อย่างนั้นก็คือเลือกพรรครัฐบาลที่มีระยะห่างจากพวกรัฐบาลที่สุด ผลเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาจึงจบด้วยชัยชนะของพรรคเพื่อไทย, พรรคเสรีรวมไทย และพรรคประชาธิปัตย์

คุณธรรมนัสไม่ได้แพ้เพราะทรยศรัฐบาลหรือเป็น “นกสองหัว” อย่างที่มีผู้ฉวยโอกาสกระทืบซ้ำเพื่อผลักดันวาระการอวยรัฐบาล แต่คุณธรรมนัสแพ้เพราะเป็นพวกรัฐบาลมากเกินไปจนคนมองว่าคุณธรรมนัสเป็น “ฝ่ายแค้น” มากกว่าเป็น “ฝ่ายค้าน” จนไม่มีความจำเป็นต้องไปเลือกเลย

รองนายกฯ และแกนนำพรรคร่วมทุกคนปฏิเสธว่าความพ่ายแพ้ของคุณธรรมนัสไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของรัฐบาล แต่ปรากฏการณ์ที่พรรครัฐบาลแพ้เลือกตั้งซ่อมราบคาบจากภาคใต้, กรุงเทพฯ และภาคเหนือไม่ใช่หลักฐานว่ารัฐบาลชนะแน่ๆ ไม่ว่าจะมองเข้าข้างรัฐบาลอย่างไรก็ตาม

คุณอนุทิน ชาญวีรกูล พูดถูกว่าเลือกตั้งลำปางแข่งกันแค่พรรคเสรีรวมไทยกับพรรคเศรษฐกิจไทยของคุณธรรมนัส

แต่ลำปางแลนด์สไลด์เป็นสัญญาณว่าพฤติกรรมลงคะแนนแบบนี้มีโอกาสลามไปทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือการไม่ลงคะแนนให้ผู้สมัครที่เป็นพวกรัฐบาล

จุดเด่นของรัฐบาลประยุทธ์คือการเอาเงินภาษีประชาชนไปแจกผ่านนโยบายต่างๆ เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้หัวหน้ารัฐบาล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในลำปางและในพื้นที่ที่รัฐบาลแพ้ตลอดปี 2565 คือหลักฐานว่าประชาชนไม่พอใจรัฐบาลมากจนผลประโยชน์จากรัฐไม่ทำให้เกิดคะแนนเสียงได้ต่อไป

ต่อให้รัฐมนตรีทุกคนจะยืนยันว่ารัฐบาลกระแสดี ความเป็นจริงที่ ส.ส.และรัฐมนตรีทุกรายประสบคือประชาชนเบื่อหน่ายคุณประยุทธ์ด้วยสาเหตุต่างๆ จนคะแนนนิยมต่อคุณประยุทธ์ดิ่งเหวขั้นกู่ไม่กลับ และพรรคที่เป็นสัญลักษณ์ของความดิ่งเหวที่สุดคือพรรคพลังประชารัฐของหัวหน้ารัฐบาล

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ความพ่ายแพ้ของรัฐบาลทุกครั้งในปี 2565 คือความพ่ายแพ้ในพื้นที่ซึ่งพลังประชารัฐเคยชนะ มิหนำซ้ำยังเป็นความพ่ายแพ้ในยุคที่คุณประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคอย่างเต็มตัวด้วย

คำถามสำหรับนักการเมืองร่วมรัฐบาลจึงมีอยู่ข้อเดียวว่าจะหลุดพ้นจากชะตากรรมเช่นนี้ได้อย่างไร

คุณธรรมนัสแพ้หนักในศึกเลือกตั้งลำปาง แต่ความพ่ายแพ้จนเกินคาดทำให้คุณธรรมนัสตาสว่างว่าความไม่พอใจของประชาชนต่อคุณประยุทธ์นั้นถึงขีดสุดแล้ว คุณธรรมนัสจึงตัดสินใจถูกในเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นยังผิด นั่นคือการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลไปอยู่กับฝ่ายค้านอย่างชัดเจน

มีคำถามมากมายว่าการลาออกจากรัฐบาลของคุณธรรมนัสจะส่งผลอย่างไรทางการเมือง เพราะการที่พรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาลนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดา ยิ่งการลาออกเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ การลาออกย่อมหมายถึงจำนวนเสียงไว้วางใจคุณประยุทธ์และรัฐมนตรีที่จะหายไปทันที

ปริศนาที่ไม่มีใครรู้คือคุณธรรมนัสมี ส.ส.ในพรรคที่พร้อมจะถอนตัวจากรัฐบาลจริงๆ กี่คน เพราะถึงแม้จำนวน ส.ส.ที่ออกจากพลังประชารัฐมาตั้งพรรคใหม่กับคุณธรรมนัสจะมีทั้งสิ้น 18 ราย ตัวเลข ส.ส.ที่ยังคงอยู่กับคุณธรรมนัสตอนนี้อาจมีไม่ถึง 10 ราย หรือหายไปเกือบเท่าตัว

เพื่อประโยชน์ในการตามประเด็น ควรระบุด้วยว่าจำนวน ส.ส.ที่นักการเมืองทั้งในและนอกสภาเชื่อว่ายังอยู่กับคุณธรรมนัสจริงๆ อาจมีไล่เลี่ยกับจำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเท่ากับว่าการลาออกของคุณธรรมนัสอาจแทบไม่มีผลอะไรกับรัฐบาล

เท่าที่มีรายงานมา พล.อ.ประวิตรดำเนินการจน ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยจากชลบุรีและภาคอีสานบางรายกลับไปพลังประชารัฐแล้ว ขณะที่ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยบางคนเตรียมย้ายไปพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า

การลาออกของคุณธรรมนัสจึงไม่ทำให้ฝ่ายรัฐบาลหวั่นไหวเลย

ไม่มีใครรู้ว่าพรรคคุณธรรมนัสมี ส.ส.ในสังกัดที่ยังอยู่กับพรรคจริงๆ กี่คน คุณไผ่ ลิกค์ และ ส.ส.พื้นที่ใกล้เคียงมีความเคลื่อนไหวที่ไม่เปิดเผยซึ่งยังอยู่กับพรรคแน่ๆ รวมทั้งมีการต่อสายกับบุคคลสำคัญทางการเมืองของฝ่ายค้านระดับที่มากกว่าสมัยอยู่เพื่อไทยด้วย แต่นอกเหนือจากกลุ่มนี้แล้วไม่มีเลย

หากตัดประเด็นเรื่องพรรคเพื่อไทยกับนักการเมืองบ้านใหญ่ในลำปางออกไป ชัยชนะของพรรคเสรีรวมไทยสะท้อนว่ากระแสสูงของการไม่เอารัฐบาลมีจริง, คุณธรรมนัสตัดสินใจลาออกจากรัฐบาลเพื่อโอกาสเข้าสภาในการเลือกตั้งครั้งหน้า และการอยู่ร่วมรัฐบาลไม่มีอนาคตเท่าการทิ้งรัฐบาล

การถอนตัวจากรัฐบาลของคุณธรรมนัสคือสัญลักษณ์ว่าโจทย์ใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้แก่การ “เอา” หรือ “ไม่เอา” ประยุทธ์ และในเวลาที่ประเทศเดินหน้าสู่การคืนอำนาจให้ประชาชน คนหรือพรรคที่เป็นพวกประยุทธ์ย่อมมีโอกาสสูงที่จะถูกประชาชนปฏิเสธเหมือนที่คุณธรรมนัสเจอมา

สำหรับพรรคการเมืองที่ยังอยู่ในรัฐบาล โจทย์ใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าคือการตีตัวออกห่างจากคุณประยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกประชาชนต่อต้านตามไปด้วย ความเคลื่อนไหวทางการเมืองจากนี้คือการหาจังหวะออกจากรัฐบาลให้แม่นยำที่สุดโดยไม่เสียความได้เปรียบจากการเป็นรัฐบาล

สำหรับคุณประยุทธ์ โจทย์ใหญ่ตอนนี้คือการเพิ่มอำนาจต่อรองให้คุณประยุทธ์เพื่อสกัดไม่ให้พรรคร่วมตีตัวออกห่างก่อนยุบสภา แต่อำนาจต่อรองสำคัญอย่างการจัดสรรงบประมาณนั้นจะจบในเดือนตุลาคม พ้นจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรให้คุณประยุทธ์ต่อรองพรรคร่วมได้เลย

ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เผลอๆ คุณประยุทธ์อาจไม่ได้เป็นประธานเอเปคอย่างที่ตัวเองต้องการ

พรรคไหนทิ้งรัฐบาลก่อน พรรคนั้นชนะใจประชาชน