สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/อะไรก็เป็นไปได้

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————————

อะไรก็เป็นไปได้

—————————

จุดแข็ง หรือพูดแบบทื่อ-ทื่อ จุด “หนา”ของ ระบอบประยุทธ์ ที่ต่อเนื่องมาจากการรัฐประหาร

คือความสามารถ “หักโค่น”เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ แบบดื้อๆ

หากเป็นพฤติกรรมของนักการเมืองทั่วไปเขาจะพูดว่า ลื่นไหล

แต่กับระบอบอำนาจนิยมปัจจุบัน จะว่าลื่นไหลก็ไม่ให้ภาพนัก

เพราะหลายๆครั้งเป็นแบบ “อั๊วจะเอาอย่างนี้”แล้วก็ลุยเข้าไปเอาหน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น

อย่างกรณีล่าสุด วิธีการ”500 หาร” นั้น

ฝ่ายระบอบประยุทธ์ แบก”หลักการ”มาอธิบายกันหลายๆดุ้นว่าจะต้องเป็น “100 หาร”

แต่พอเห็นว่าจะไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตน ก็มาเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ชนิด”กลืนน้ำลาย”ไม่ทันอย่างที่เราแลเห็นในการประชุมรัฐสภา

ซึ่งการได้มาแบบ”หนาๆ”เช่นนี้ จะนำไปสู่การต่อยอด เพื่อความได้เปรียบอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่แน่ๆ เฉพาะหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงจะมั่นใจขึ้นหลายขีด ว่าการคืนชีพให้พรรคเล็ก ด้วยสูตร 500 หาร

น่าจะทำให้เสียงสนับสนุนในศึกซักฟอกมั่นคงขึ้น และคงจะผ่านไปได้โดยสะดวก

จากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงไปชั่งน้ำหนัก “ทางเลือก” สำหรับการไปต่อในอำนาจของตนเองต่อไป

ด้านหนึ่ง ก็อาจเลือกทางเดินที่มีอยู่แล้ว นั่นคือไปสามัคคีกับพี่ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แต่ หากเลือกเดินทางนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้กำหนดเกม 500 หาร คงขอแชร์อำนาจในพรรค ไม่ให้อยู่ในมือพี่ป้อมฝ่ายเดียว

เผลอๆอาจจะขอเป็นผู้นำพรรคเสียเอง

แต่หากไม่ราบรื่น พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะยืมวิธีการฝ่ายตรงข้ามมาใช้ก็ได้

นั่นคือ เมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งถูก”ประหาร”เป้าหมายแลนด์สไลด์โดยเกม 500 หาร ด้วยการตั้งพรรค”ครอบครัวเพื่อไทย”ขึ้นมาคู่ขนานกับพรรคเดิม เพื่อชิงส.ส.บัญชีรายชื่อ

พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจมีพรรคของตนเอง คู่ขนานไปกับพรรคพลังประชารัฐ

โดยการระดม ฝ่ายอนุรักษ์ ในพรรคหรือกลุ่มชนอื่นๆมาร่วม

ซึ่งในเชิงกายภาพ ไม่จำเป็นที่จะต้องใหญ่โตเป็นพรรคลำดับหนึ่ง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มีพรรค 250 เสียง คือเสียงจากวุฒิสภา หนุนให้เป็นผู้นำต่อไป เป็นต้นทุนอยู่แล้ว

และต้นทุนนี้ ทำให้พรรคการอื่น โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบันคงไม่สลับไปอยู่กับขั้วตรงข้าม

ขณะเดียวกันพรรคเล็ก ที่ได้อานิสงส์ จากสูตร 500 หาร ก็คงพร้อมเป็นแนวร่วม

ครอบครัวลุงตู่ จึงน่าจะอุ่นหนาฝาคั่งต่อไป

แต่ทั้งนี้ ก็อยู่บนเงื่อนไขที่ว่า จะต้องสกัด แลนด์สไลด์ ของพรรคเพื่อไทย รวมถึงขั้วประชาธิปไตยให้ได้

ซึ่งก็คงไม่ง่ายนัก เพราะขั้วตรงข้ามเหล่านี้ก็พร้อมงัดยุทธวิธีอื่นมาสู้ยิบตาเช่นกัน

และหากการสู่ยิบตานั้น ทำท่าหรือมีแนวโน้ม จะหักโค่นขั้วอำนาจเดิมได้

ก็ขอให้ทำใจ เราอาจได้เห็น จุดหนาของระบอบประยุทธ์ อีก นั่นคือ ขนาด สูตร 500 หาร ยังเอาฝ่ายตรงข้ามไม่อยู่

เราก็อาจได้เห็นอะไรแปลกๆในขั้นตอนที่ 2พ.ร.ป.การเลือกตั้งและพรรคการเมือง เข้าสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอย่างกกต. ที่ทำให้แม้กระทั่งสูตร500 หาร ที่ว่าจะเคยหวังเป็นทีเด็ด อาจสะดุด และนำไปสู่ความยุ่งเหยิงทางการเมืองจนถึงขนาด 2พ.ร.ป.ไม่ได้ไปต่อ

แล้วอาจมีคนหยิบเอาเรื่องการเลือกตั้งมาเป็นตัวประกัน

ทำนองอยากมีการเลือกตั้งไหม ถ้าอยากก็ต้องยอมให้มีพ.ร.ก.เลือกตั้ง ที่มาจากการกำหนดของรัฐบาลปัจจุบัน

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น เราอาจได้ยินเรื่องร่างกฎหมายเพื่ออยู่ยาวภาค 2อีกก็ได้

ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่จุดหนาของขั้วอำนาจปัจจุบันอะไรที่เป็นไปไม่ได้ –ไม่มี!!

————————————