วิถีแห่งอำนาจ เกี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

“พันธมิตร” แห่ง “แนวร่วม” (106)

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เอี้ยก่วยไม่ปิดบังอำพราง บอกเล่าเรื่องราวที่เพิ่งทราบว่า ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง 2 สามีภรรยาทำร้ายเอี้ยคังบิดาของตน

ยามนี้ตั้งใจจะรุดไปล้างแค้น

กิมย้งวิเคราะห์ผ่านความนึกคิดของกิมลุ้นฮวบอ้วง แม้ทราบว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้กลอกกลิ้งมากเล่ห์เพราะเคยประสบมาแล้วไม่ว่าที่คฤหาสน์ตระกูลเล็ก ไม่ว่าเมื่อประมือกันระหว่างเดินทาง ถึงระนาบที่ว่าในคำพูด 10 ประโยค ยากจะเชื่อได้แม้สักประโยคเดียว

แต่เหตุการณ์ ณ วันนี้ หากเอี้ยก่วยคิดฆ่านับว่าง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ ตรงกันข้าม กลับช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ แสดงว่าไม่มีความคิดเป็นศัตรู

คิดแล้วจึงกล่าว

“ที่แท้ กือสือแบกความแค้นยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง 2 สามีภรรยามีพลังฝีมือลึกล้ำ เอี้ยกือสือคิดล้างแค้นเกรงว่าไม่ง่ายดายนัก”

เอี้ยก่วยนิ่งเงียบงัน ชั่วครู่ให้หลังจึงกล่าว

“อย่างนั้นปล่อยให้เราพ่อลูกทั้ง 2 รุ่นล้วนตายได้เงื้อมมือของเขาเถอะ”

เหมือนกับจะประชด แต่ภายในการทอดอาลัยตายอยาก ก็ดำเนินไปในลักษณะเป็นการต่อรอง

อย่าแปลกใจหากกิมลุ้นฮวบอ้วงจะกล่าว

“ตอนแรกอาตมาทระนงตนว่ามีฝีมือไร้ผู้ต่อต้าน คิดอาศัยกำลังเพียงลำพัง สะกดพิชิตผู้กล้าแผ่นดินตงง้วนช่วงชิงตำแหน่งประมุขยุทธจักร

“แต่ผู้ฝึกปรือวิชาบู๊แผ่นดินตงง้วนไม่ยึดถือกฎเกณฑ์สู้กันตัวต่อตัว ใช้พวกมากฮือเข้ามา อย่างนั้นได้แต่คิดประการอื่น หลังจากที่อาตมาทุเลาจากอาการบาดเจ็บจะเชื้อเชิญยอดฝีมือมาช่วยเหลือ ฝ่ายเราพอมีกำลังกล้าแข็ง นักบู๊แผ่นดินตงง้วนก็ไม่อาจใช้พวกมากเอาชัย

“ทั้งหมดทำการต่อสู้พิสูจน์ผลแพ้ชนะโดยยุติธรรม ท่านยินยอมเข้าร่วมกับฝ่ายเราหรือไม่”

เอี้ยก่วยขณะจะรับปากพลันหวนนึกถึงความโหดร้ายและภาพอันสยดสยองของการประหัตประหารของทหารมองโกล

“ข้าพเจ้าไม่อาจช่วยเหลือฝ่ายมองโกล”

“ท่านคิดอาศัยกำลังเพียงลำพังฆ่าล้างแค้นก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง 2 สามีภรรยา นับเป็นความลำบากยากเข็ญนัก”

เป็นความเป็นจริงอันยากที่เอี้ยก่วยจะไม่เห็นด้วย

“ตกลง ข้าพเจ้าช่วยเหลือท่านช่วงชิงตำแหน่งประมุขยุทธจักร แต่ท่านต้องช่วยเหลือข้าพเจ้าล้างแค้น”

การตกลงของเอี้ยก่วยเป็นการตกลงอย่างมีเงื่อนไข

ได้ยินดังนั้น กิมลุ้นฮวบอ้วงยื่นมือออกพลางกล่าว “ลูกผู้ชายมีวาจาเป็นสัจจะ สัมผัสมือสาบาน” ทั้ง 2 สัมผัสฝ่ามือกัน 3 ครา บรรลุข้อตกลง

เอี้ยก่วยขยายรูปธรรมของข้อตกลงอีกคำรบหนึ่ง

“ข้าพเจ้าเพียงช่วยเหลือท่านช่วงชิงตำแหน่งประมุขยุทธจักร หากท่านคิดช่วยเหลือทหารมองโกลยึดครองแผ่นดินตงง้วน เข่นฆ่าทำร้ายราษฎร ข้าพเจ้าไม่อาจร่วมมือด้วย”

“คนต่างมีปณิธาน ไม่อาจคุกคามบังคับ เอี้ยเฮียตี๋ วิชาฝีมือของท่านมีลวดลายแพรวพราย มิใช่เราอวดอ้างวัยวุฒิวิจารณ์สักคำ การรวบรวมปมเด่นของแต่ละสำนักแม้ประเสริฐเลิศล้ำ แต่ออกจะสับสนอลวน ขาดความบริสุทธิ์สมบูรณ์ สิ่งที่ท่านถนัดชัดเจนที่สุดเป็นแนววิชาสำนักใด คิดใช้วิชาฝีมือใดจัดการกับก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง 2 สามีภรรยา”

คำถามนี้สำคัญ

ในฐานะเป็นเจ้าสำนักสะท้อนให้เห็นว่า กิมลุ้นฮวบอ้วง เป็นตะเกียงอันมากด้วยน้ำมัน เพียงเอ่ยปากออกมาก็มองทะลุไปยังสภาพความเป็นจริงของเอี้ยก่วย

เหมือนกับเป็นการตั้งข้อสังเกต แต่เป็นข้อสังเกตซึ่งมีผลสะเทือน

ความสัมพันธ์ระหว่างกิมลุ้นฮวบอ้วงกับเอี้ยก่วย ถือได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะของพันธมิตรแห่งแนวร่วม

เพราะกิมลุ้นฮวบอ้วงต้องการเป็น “ประมุขยุทธจักร”

เพราะเอี้ยก่วยต้องการล้างแค้นต่อก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง 2 สามีภรรยาซึ่งเขารับรู้มาว่าเป็นคนทำให้ชีวิตของเอี้ยคังผู้บิดาต้องตายไปอย่างน่าอนาถ

แม้จะเคยเป็นปรปักษ์ แม้จะเคยเป็นศัตรู แต่ก็สามารถ “ร่วม” กันได้