หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๓๓)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๓๓)

 

มนุษย์ต่อสู้กับกาลเวลา โดยใช้ทุกสิ่งที่มี

ความเร็ว

แรงโน้มถ่วง

Entropy

Quantum Entanglement

และมนุษย์จะพ่ายแพ้ เพราะมนุษย์ไม่มีทางใดเอาชนะกาลเวลาได้

แต่ที่จริง มนุษย์ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องไปต่อสู้กับกาลเวลาเลย เช่นเดียวกับที่เราไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับความกว้าง ความยาว ความลึก

สมมุติฉันมีห้องหนึ่งห้อง มันมีความกว้างยาวเท่าใด ก็เท่านั้น หากฉันไม่ชอบ ก็ไปหาห้องใหม่

ชีวิตของฉัน จะมีอายุเท่าไรก็ไม่สำคัญ มันจะเป็น 70 หรือ 80 หรือ 90 ก็เป็นไปตามนั้น ฉันจะไม่ดิ้นรนต่อสู้ ฉันยอมรับว่าทุกสิ่งไม่จีรัง ไม่ว่าจะเป็นโลกทั้งใบนี้ หรืออัตตาของฉัน แต่ความพิศวงยังมีอยู่

ทุกวันนี้ ฉันยังสนใจอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัวฉัน

 

สังเกตว่าสงครามโลกที่ผ่านมา และที่ยังมาไม่ถึง ล้วนเกิดจากสาเหตุเดียวกัน มันคือการต่อสู้กันของ

ฝ่ายเสรีนิยม

ฝ่ายเผด็จการ

เพราะ Mindset ของพวกเขาสองฝ่าย แตกต่างกัน

สงครามโลกครั้งที่สาม คงเกิดจากสองบล็อก คือ

บล็อกฝ่ายโลกเสรี

บล็อกฝ่ายรัสเซียและจีน และพรรคพวก เช่น เกาหลีเหนือ อิหร่าน หรือซาอุดีอาระเบีย หรือจะเป็นใครก็ตาม มันมีตัวละครเล็กๆ ที่เข้ามาร่วมบล็อกด้วย เช่น ศัตรูของศัตรูคือมิตรของฉัน

มันเฉือนกันตรง Mindset นี่เอง

ทั้งสองฝ่ายก็มีข้อดีข้อเสียของตน แต่ Mindset เป็นอะไรที่ลึกซึ้ง มันคุยไม่รู้เรื่อง มันพูดกันคนละภพภูมิ เพราะคุยไม่รู้เรื่อง จึงตัดความรำคาญ รบกันดีกว่า

การฆ่ากัน คือการสนทนาที่หมดจดที่สุด เป็นสิ่งสูงสุดที่สิ่งมีชีวิตจะทำได้

 

ยกตัวอย่างเห็นง่ายๆ เช่น ที่สี่แยกแห่งหนึ่ง ต้องการสร้างทางด่วนข้าม ปรากฏว่าต้องรอยี่สิบปีหรือนานกว่านั้น ในโลกเสรี เพราะชาวบ้านแถวนั้นไม่ยอมโอนคืนที่ดิน ต้องเป็นความกันยาวนาน

แต่ในระบบเผด็จการ จะแล้วเสร็จในไม่กี่เดือน เพียงคำสั่งเด็ดขาดออกมาเท่านั้น สี่แยกนี้ก็เปลี่ยนไป นี้คือข้อดีของฝ่ายเผด็จการ

แต่ทว่า ข้อเสียของพวกเขาก็คือ มันลิดรอนสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ และคนบางกลุ่มจะรับสิ่งนี้ไม่ได้ ยินยอมจะไม่มีทางด่วนเสียยังจะดีเสียกว่า หรือต้องรอยี่สิบปี ก็ยอมรอ

หากรัสเซียต้องการยูเครน หรือจีนต้องการไต้หวัน หากมองความต้องการของตัวเองเป็นหลัก เหมือนต้องการสร้างทางด่วนตรงนี้ สำหรับพวกเขา มันไม่ได้ผิดอะไร หากผิด ก็เล็กน้อย ทำไมคนบางกลุ่มถึงไม่ยอม ทำไมจึงยอมเสี่ยงทำสงคราม ทำไมต้องสู้ตาย Mindset ของพวกเขาไม่เข้าใจ

รัสเซียไม่มีทางชนะยูเครน เหมือนสมัยก่อน อเมริกาไม่มีทางชนะเวียดนาม ขนาดชาวยูเครนทันสมัยกว่า และเข้มแข็งกว่าชาวเวียดนามมากนัก แต่โดยพื้นฐาน ชาวยูเครนสู้ตายเฉกเช่นชาวเวียดนาม

จิตดวงนี้ประหลาดยิ่งนัก มันเป็นดั่งเทพนิยาย ไม่รู้มาจากไหน มันคือ Mindset ของโลกเสรี

 

๑๐

ฝ่ายเผด็จการคิดว่า อาจไปเหยียบเท้าคนบางคน ก็น่าจะแค่นั้น

แต่ไม่ใช่ นี้เป็นการเหยียบลึกไปถึงดวงจิตของฝ่ายเสรีนิยม

การบุกยูเครน หรือบุกไต้หวัน หากประชาชนของพวกเขาเต็มใจ ก็แล้วไป หากมีประชามติแล้วชาวยูเครนอยากไปอยู่กับรัสเซีย หรือจีนไต้หวันอยากกลับไปหาจีน ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ชาวโลกเสรียอมรับได้

แต่หากประชากรของพวกเขาไม่ยอม การไปบุกพวกเขา มันคือการประกาศสงครามโลก

หากฝ่ายเผด็จการเข้าใจ Mindset ของฝ่ายโลกเสรี ก็จบ แต่แปลกมาก สิ่งเรียบง่ายนี้ พวกเขามองไม่เห็น

๑๑

พวกเขากลับมองว่า นี้คือ Conspiracy Theory คือมีคนกลุ่มเล็กบางกลุ่มบงการอยู่เบื้องหลังโลกเสรี พวกคนโฉดชั่วตัวจริง คนกลุ่มนี้อาจเป็นนายทุนใหญ่ในโลก อาจเป็นยิว อาจเป็นองค์กรลับ อาจเป็นใครก็ตามที่ได้ผลประโยชน์ใหญ่หลวงในการทำสงคราม อาจเป็น NATO หรือ CIA หรือใครก็ตาม

ดังนั้น พวกเผด็จการเหล่านี้ จึงเป็นคนดีปกป้องโลก จาก Conspiracy Theory มันเป็นการบิดมุมมองนิดหนึ่ง

แต่จุดหมายคือการปฏิเสธ Mindset ของฝ่ายโลกเสรีว่ามีอยู่จริง

๑๒

พวกเขาอาจไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงทำกับทิเบต หรือฮ่องกงได้ หรือทำกับแหลมไครเมียได้ แต่ทำไมทำกับยูเครนหรือไต้หวันไม่ได้

หากเรามองที่ภูมิศาสตร์เราจะเข้าใจ มันต่างกันที่เวลา ขนาด และมวล โดยจิตใจ ชาวโลกเสรีไม่พอใจ เช่น จะยกทัพไปช่วยชาวทิเบต ไม่รู้จะไปยังไง ในทางปฏิบัติ ทำไม่ได้ จึงจำเป็นต้องปล่อยผ่าน แต่จดไว้ในบัญชี ไม่ได้ลืมหายไป เพราะทิเบตไม่มีกำลัง อ่อนแอ จะยกทัพไป จะไปลงที่สนามบินไหน ส่งอาวุธไป ใครใช้เป็น ส่งทางไหน มันปฏิบัติไม่ได้

แต่ยูเครนกับไต้หวันต่างกัน มันกดทีเดียวระเบิดเลย พริบตาเดียว โลกนี้ลุกเป็นไฟ

 

๑๓

ปัญหาคือ Mindset ของฝ่ายเผด็จการ ไม่สามารถเข้าใจได้ พวกเขาคิดแต่ว่า ชาวตะวันตกก่อสงคราม ไม่ยอมเข้าใจว่าตัวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายก่อ นี้คือการคุยกันคนละภาษา จิตนี้ดื้อรั้น ไม่ยอมรับเสียอย่าง

ทุกวันนี้รัสเซียยังประกาศว่า พวกเขาไม่ได้บุกรุกยูเครน และที่นั่นไม่มีสงคราม

๑๔

การที่มนุษย์มีสองกลุ่มนี้ จะดำเนินไปอีกนานเท่าไร จะมีวันใดไหม โลกนี้จะเหลือกลุ่มเดียว จะได้สันติ มองดูชาติเสรีนิยม ไม่มีวันที่พวกเขาจะทำสงครามต่อกัน

เรามองดู Norway, Sweden, Denmark, Finland, Poland หรือประเทศใดก็ตามในโลกเสรี แล้วถามว่าพวกเขาจะก่อสงครามกันเองหรือ มันไม่เกิดขึ้น เพราะ Mindset ของพวกเขาไม่มีสิ่งนี้

แต่มิได้หมายความว่าพวกเขารบไม่เป็น ลองไปบุกรุก หรือคุกคามพวกเขาซิ พวกเขาก็พร้อมจะรบทันที

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่พร้อมจะฆ่าฟันกันตลอดเวลา ขอเพียงกดถูกปุ่มจิตของพวกเขา

๑๕

หากมนุษย์ต่างดาวมีจริง และมีความเจริญทางเทคโนโลยีเท่าเรา หรือเจริญกว่าเรา คำถามคือ แล้ว Mindset ของพวกเขาจะแตกต่างกับเราไหม

มันน่าจะแตกต่างมาก และหากแตกต่าง เราจะคุยกันได้หรือ เราคงรบกันแน่นอน อยู่ที่ว่าใครจะชนะ

ขนาดมนุษย์โลกเราเอง แค่มี Mindset ต่างกันนิดหน่อย ยังอยู่ร่วมกันไม่ได้เลย แต่สิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ Mindset จะต่างกันเพียงใด ฉันไม่กล้าจินตนาการเลย

โชคดีที่เรายังไม่เจอมนุษย์ต่างดาวเลย และมองไปทั่วระบบสุริยจักรวาล ก็ยังมองไม่เห็นเลย ไกลสุดสายตา สุดความนึกคิด ก็ยังไม่พบเลย

ดังนั้น คนจีนและคนรัสเซีย จึงน่ากลัวกว่า แม้พวกเขาจะต่างจากเราแค่เล็กน้อย

 

๑๖

แปลกที่พวกเผด็จการไม่เข้าใจ Mindset ของฝ่ายโลกเสรี อาจไม่เข้าใจจนวันสุดท้าย จนเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม จนกว่าระบบคอมมิวนิสต์ หรือรากเหง้าบางอย่างของเผด็จการจะถูกทำลาย

สมัยก่อน Nazi ไม่ยกเลิกเอง มันต้องผ่านสงครามโลกเท่านั้น

วันนี้ชาวเยอรมันเลิกเป็น Nazi แล้ว แต่มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ หรือชาวญี่ปุ่นเลิกระบบบูชาทหาร ก็ต้องแพ้สงครามโลกก่อน วันนี้ชาวญี่ปุ่นรักสันติยังกะอะไร บางครั้งรู้สึกพวกเขารักสงบเกินไป แต่อย่างน้อย ก็ดีกว่าลัทธิบูชาทหาร

๑๗

พรรคคอมมิวนิสต์ในจีน จะไม่มีทางยอมสลายตัวเอง เพราะต่อให้เกิดจลาจลในประเทศ พวกเขาก็จะเลือกทำสงครามกับชาติอื่นก่อน เพราะนั่นเป็นการเลี่ยงปัญหาภายในที่รวดเร็ว และดีที่สุด การเปลี่ยนปัญหาภายใน ให้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ เลือดรักชาติจะทำให้ประชาชนสงบชั่วคราว สงครามเกิดก่อน จะมีการปฏิวัติภายใน สงครามจึงจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะออกหัวหรือก้อย

๑๘

รัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดพื้นที่ 17 ล้านตารางกิโลเมตร หรือหนึ่งในแปดของแผ่นดินของโลก ในขณะที่จีนมีพื้นที่ 9.5 ล้านตารางกิโลเมตร หรือราวครึ่งหนึ่งเท่านั้น

วันนี้รัสเซียไม่ใช่คอมมิวนิสต์ โดยนามคือประชาธิปไตย แต่แท้จริงคือปกครองโดยระบบเผด็จการ อดีตกาลยาวนานของชาติรัสเซีย ทำให้พวกเขายังไม่อาจหลีกหนีเป็นอื่นไปได้

นี้คือประเทศที่แบกประวัติศาสตร์ไว้ มันหนักอึ้ง รวมกันเกิดหนึ่ง Mindset มีบางครั้งพยายามดิ้นรนมาทางโลกเสรี แต่ก็ทำไม่สำเร็จ

๑๙

คนสองกลุ่มนี้ รักโลกเหมือนกัน รักเพื่อนมนุษย์เช่นกัน ต้องการสันติภาพ ต้องการชีวิตที่สุขสงบ และสะดวกสบายเช่นกัน แต่พวกเขาแค่มี Mindset ต่างกับเรา มันก็เกิดเรื่องใหญ่

๒๐

แต่น่าประหลาด ยิ่งนับวัน ฉันยิ่งซึ้งใจในคุณค่าของประชาธิปไตย พบว่ามันได้มายากมาก และมนุษย์ถึงที่สุดแล้ว ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพนี้ แม้ในมวลมนุษย์มากมายที่ดูผิวเผินเหมือนจะอ่อนแอ แต่ยามจำเป็นก็พร้อมจะต่อสู้ ฝ่ายเผด็จการที่ดูเข้มแข็ง กลับเปราะกว่า

สิ่งลึกนี้อยู่ในยีนของมนุษย์ อยู่ในประวัติศาสตร์ของอนาคต