พลังประชารัฐลุยโรดโชว์ ฟื้นเรตติ้งสู้ ‘แลนด์สไลด์’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

พลังประชารัฐลุยโรดโชว์

ฟื้นเรตติ้งสู้ ‘แลนด์สไลด์’

 

ผลสำรวจคะแนนนิยมบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ของ “นิด้าโพล” ผู้ตอบแบบสอบถาม เทเรตติ้งให้ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำมาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยคะแนนนิยม 25.28% ทิ้งห่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้เรตติ้งมาเป็นอันดับที่ 4 ด้วยตัวเลข 11.68%

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยังยืนยันจะชู พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกสมัย อยู่เฉยไม่ได้ ต้องตื่นขึ้นมางัดกลยุทธ์สู้กับเรตติ้งของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่อยู่ในช่วงขาขึ้นบ้าง

หลังจากที่พรรคเพื่อไทยที่มี “อุ๊งอิ๊ง” นำทัพเดินสายลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมประการแลนด์สไลด์ ประกอบกับภาพแห่งการเปรียบเทียบภาวะผู้นำระหว่างนายกฯ กับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. ที่ยิ่งฉุดเรตติ้งของผู้นำรัฐบาล และพรรค พปชร.ให้ต่ำลง

ทำเอา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงนิ่งนอนใจต่อไปอีกไม่ได้ หากไม่ทำอะไรเลย จะปล่อยให้คะแนนนิยมของพรรค พปชร.และรัฐบาลลดลงอย่างต่อเนื่องต่อไปคงไม่ได้

จึงสั่งระดับแกนนำพรรคที่แบ่งพื้นที่กันดูแล จัดเวทีโรดโชว์ผลงานของพรรค พปชร.และรัฐบาล ทั้ง 10 เวที กระจายสู่ 10 ภาคทั่วประเทศ

 

โดยภาคใต้มอบ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ดูแล

ภาคกลางแบ่งเป็นภาคกลางตะวันออกและตะวันตก มีรัฐมนตรี 4 คนรับผิดชอบ ได้แก่ “สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรค และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พื้นที่กรุงเทพมหานคร นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ดูแล

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งพื้นที่อีสานใต้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ดูแล

พื้นที่อีสานเหนือ “บิ๊กอี๊ด” พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ รวมทั้งมีทีมเสริมจาก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งจะพ้นจากการเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ครบ 2 ปีในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 มาร่วมทีมดูแลพื้นที่ภาคอีสานเหนือด้วย

ภาคเหนือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค กับนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ และกรรมการบริหารพรรค รับผิดชอบ

ทั้งนี้ ผู้รับผิดชอบแต่ละภาคจะดูแลเรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.และจัดทำนโยบายกิจกรรมพื้นที่

 

นอกจากการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละภาคแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสายพรรคแต่ละภาค ภายใต้สโลแกน “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย”

เดินสายโรดโชว์ 10 ภาค 10 จังหวัด คุมพื้นที่เดิม ขยายพื้นที่ใหม่ กิจกรรมโรดโชว์ที่จะจัดในแต่ละภาคนั้นถ้ามองลึกลงไปมีทั้งไปในจังหวัดที่มี ส.ส.ของพรรคอยู่แล้ว และมีพื้นที่ที่พรรคไม่ได้มี ส.ส. ในพื้นที่อีสานใต้ จัดที่ จ.นครราชสีมา มีบ้านรัตนเศรษฐ

อีสานเหนือ จ.มหาสารคาม ในจังหวัดนี้ คงต้องรอดูว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ เพราะเดิมพลังประชารัฐไม่มี ส.ส.ในจังหวัดดังกล่าว คงต้องจับตาดูในวันที่ พล.อ.ประวิตรเดินสายจะมี ส.ส.พรรคใดมาร่วมวงหรือไม่ และในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะสามารถปักธงเก้าอี้ ส.ส.ในจังหวัดนี้ได้หรือไม่

ส่วนภาคเหนือ จ.พิษณุโลก และภาคใต้ จ.สงขลา เป็นพื้นที่ที่พรรค พปชร.แทบจะกวาด ส.ส.ยกจังหวัด

ด้านภาคกลางตะวันออก จัดที่ จ.ชลบุรี ที่มีบ้านตระกูลคุณปลื้มและนายสุชาติ อาจจะต้องจับตาพื้นที่จังหวัดชลบุรี จะกลายเป็นพื้นที่มีความซับซ้อนทางอำนาจ ระหว่างบ้านใหญ่ตระกูล “คุณปลื้ม” กับนายสุชาติ เพราะก่อนหน้านั้น 2 กลุ่มดังกล่าว ได้มีความขัดแย้งกันอย่างชัดเจน ถึงขั้นที่ว่า การเลือกตั้งพ่อเมืองพัทยาก็ต่างส่งคนของฝ่ายตนลงสนามแข่งขันกัน คงต้องดูบารมีหัวหน้าพรรคว่าจะไกล่เกลี่ย หรืออาจมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดน้อยใจ น้อยใจถึงขั้นตีตัวไปจาก พปชร.

ภาคกลางตะวันตก จ.เพชรบุรี พื้นที่ของนายสันติ เลขาฯ พรรค นอกจากนี้ ยังเหลือพื้นที่อื่นที่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยแน่ชัดว่าจะเป็นที่ใดอีก แต่พื้นที่ กทม.แน่นอนว่าจะต้องเป็นพื้นที่ที่จะมีการจัดเวทีขึ้น เพราะเดิมพรรคสามารถคว้าเก้าอี้ได้มากกว่าพรรคอื่นถึง 12 ที่นั่ง แต่ในสนามเลือกตั้ง ส.ก.ครั้งล่าสุด พรรค พปชร.กลับได้เพียง 2 ที่นั่ง จากทั้งหมด 50 ที่นั่ง เรียกว่าพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว

ต้องรอดูว่าในสนาม กทม. พรรคพลังประชารัฐจะแก้เกมเรียกความเชื่อมั่นและความนิยมของพรรคกลับมาอย่างไร

 

เวทีโรดโชว์ประเดิมที่แรก จ.ชลบุรี วันที่ 10 กรกฎาคม โดยนายสุชาติระบุว่า จะเป็นการแสดงผลงงานและบอกทิศทางการทำงาานในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ร่วมถึงตั้งเป้าเหมาทั้งจังหวัด จากเดิมที่พลังประชารัฐได้ ส.ส. 8 และมีการแบ่งเขตใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 2 เขต

เช่นเดียวกับ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ที่สะท้อนผ่านการประชุมพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ผลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคไม่ค่อยดี จึงมีการแบ่งหน้าที่ให้รับฟังประชาชนในแต่ละพื้นที่และนำมาเป็นแนวนโยบายของพรรค ยืนยันยังหนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นแดนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.เหมือนเดิม รวมถึงจะเร่งหาจุดขายเพื่อดึงความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาดียิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมเดินสายลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็เริ่มลงพื้นที่บ่อยขึ้นเช่นกัน และถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่า “บิ๊กป้อม” ยังหนุน “บิ๊กตู่” ให้เดินหน้าต่อไปในเส้นทางการเมือง ตอนนี้เรียกได้ว่าทำงานกันเป็นทีมระหว่า “พี่ป้อม” และ “น้องตู่” เพื่อเตรียมทัพสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่ถึงปี

คงต้องจับตากันว่ากลยุทธ์การฟื้นเรตติ้งและทวงคืนคะแนนนิยมที่ พล.อ.ประวิตรวางไว้จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของพรรคพลังประชารัฐ ให้กลับมาหลังการเลือกตั้งได้หรือไม่