ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 กรกฎาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ศัลยา ประชาชาติ |
เผยแพร่ |
บทความพิเศษ
ศัลยา ประชาชาติ
วุ่นวายระดับโลก!
ศึกเดอะแมตซ์ แมนฯ ยู-ลิเวอร์พูล
ผู้จัดอ่วม-แฟนบอลเซ็ง
เริ่มใกล้การแข่งขันเข้ามาทุกที กับฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทย “THE MATCH BANGKOK CENTURY CUP 2022” ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทีมลิเวอร์พูล ที่จะระเบิดศึกในวันที่ 12 กรกฎาคม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ว่ากันว่า “ศึกแดงเดือด” ครั้งนี้ใช้งบฯ ลงทุนในการจัดกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นแมตซ์ใหญ่ของวงการฟุตบอล โดยงานนี้ “เฟรชแอร์ เฟสติวัล” ผู้จัดถึงขนาดว่าต้องเพิ่มที่นั่งเข้ามาเสริมความจุของสนามอีก 10,000 ที่นั่ง จากปกติความจุเดิม 49,000 ที่นั่ง เป็น 59,000 ที่นั่ง และมีการแบ่งเป็นโซนที่นั่งของกองเชียร์ทั้งสองทีมเท่าๆ กัน
แมตช์ประวัติศาสตร์นี้เริ่มเปิดขายบัตรผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนราคาบัตรเข้าชมมี 7 ราคา ต่ำสุดที่ 5,000 บาท และขยับขึ้นไป 7,000 บาท 12,000 บาท 15,000 บาท 20,000 บาท 22,000 บาท และ 25,000 บาท
แม้แฟนปีศาจแดง-หงส์แดง รวมถึงคอฟุตบอลจำนวนไม่น้อยที่บ่นว่า “ตั๋วแพง” และมีการเปรียบเทียบกับการเตะแมตช์พิเศษ ลิเวอร์พูล และคริสตัล พาเลซ ที่สิงคโปร์ ซึ่งเตะหลังศึกเดอะแมตช์ฯ เพียง 3 วัน ที่ราคาตั๋วถูกกว่าศึกแดงเดือดในไทยกว่าเท่าตัว โดยตั๋วราคาต่ำสุดคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,800 บาท ส่วนแพงสุดประมาณ 7,500 บาทเท่านั้นเอง
แต่ด้วยชื่อทีม-ชื่อชั้นนักเตะที่ล้วนแล้วแต่ระดับพระกาฬ และไม่ต้องเสียเงินมหาศาลบินไปดูถึงอังกฤษ ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ยอมควักกระเป๋าจ่าย
แม้การขายตั๋วจะออกอาการอืดๆ อยู่บ้าง แต่ตั๋วราคา 5,000-15,000 บาท และ 25,000 บาท ถูกจับจองไปเกลี้ยง
ขณะที่ตั๋วราคา 20,000 บาท ที่ยังไม่หมด และขายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น และแน่นอนว่า ในจำนวนนี้ยังไม่นับรวมตั๋วอีกจำนวนหนึ่งที่บรรดาสปอนเซอร์นำไปจัดกิจกรรมกับลูกค้า เช่น เอไอเอส, กรุงไทย แอ็กซ่า, เอสเอฟ เป็นต้น
นี่คือความเสี่ยง ที่ผู้จัดจะต้องเร่งแก้เกมโดยด่วน
และนั่นอาจจะเป็นที่มาของการงัดกลยุทธ์ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” ที่เฟรชแอร์ฯ ตัดสินใจดึง “แจ็คสัน หวัง” ศิลปินชื่อดังแห่งวง GOT7 ที่มีแฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก มาร่วมแสดงคอนเสิร์ตก่อนการแข่งขัน 1 ชั่วโมง
และเป็นที่มาของจุดเริ่มต้นของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า ศึกแดงเดือดบัตรขายไม่หมด จนต้องดึง “แจ็คสัน หวัง” มาแสดงคอนเสิร์ตเพื่อดึงให้แฟนคลับมาช่วยซื้อตั๋วที่ยังเหลืออีกหลายที่นั่ง
ความเคลื่อนไหวในการเดินหมากของเฟรชแอร์ฯ ดังกล่าวก็ทำให้บัตรโซนราคา 20,000 บาท กลับขายได้อีกครั้ง จนเหลือตั๋วอยู่ไม่ถึง 1,000 ที่นั่ง
ถัดมาอีกไม่นาน และแล้วก็เกิดกระแสดราม่าขึ้นอีกครั้ง “พิมรี่พาย-พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์” แม่ค้าออนไลน์คนดัง เปิดไลฟ์ขายบัตรศึกแดงเดือดผ่านเพจ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง” ชนิดยอมขาดทุน และขายถูกกว่าราคาหน้าตั๋วถึง 4,000-5,000 บาท
“พิมรี่พาย” ระบุว่า ได้ทุ่มเงินกว่า 400 ล้านบาท เพื่อซื้อบัตรศึกแดงเดือดมาขายจำนวน 20,000 ใบ ซึ่งเป็นการจำหน่ายต่อในราคาต่ำกว่าราคาจริงบนเว็บไซต์ บัตร 20,000 บาท ขาย 15,000 บาท บัตร 15,000 บาท ขาย 11,000 บาท พร้อมยังบอกอีกว่าผู้ซื้อบัตรสามารถนำบัตรไปกินข้าวกับนักฟุตบอล และแจ็คสัน หวัง รวมถึงเข้าชมการซ้อมของนักเตะของทั้งสองทีมได้ด้วย
งานนี้ ร้อนถึง “วินิจ เลิศรัตนชัย” คีย์แมนคนสำคัญของเฟรชแอร์ฯ ต้องออกโรงปฏิเสธการรู้เห็นทันที พร้อมทั้งยืนยัน ไม่มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมวันซ้อมคอนเสิร์ต และไม่มีการจัดมื้อพิเศษกับนักฟุตบอลทั้งสองสโมสร รวมถึงแจ็คสัน หวัง
“วินิจ” ชี้แจงว่า บัตรในส่วนที่พิมรี่พายเอาไปขาย คือบัตรโควต้าของ 2 ทีม แมนฯ ยูและลิเวอร์พูล เป็นบัตรที่กันไว้ให้ทีมเอาไปขายแฟนบอลต่างประเทศ และเมื่อเหลือตีกลับมาที่เฟรชแอร์ฯ บัตรส่วนนี้ไม่ได้ถูกขายในระบบไทยทิคเก็ตเมเจอร์ตั้งแต่แรก เป็นจังหวะเดียวกับที่พิมรี่พายติดต่อขอซื้อบัตร จึงขายให้ในราคาเต็ม ส่วนพิมรี่พายจะนำไปลดราคาเป็นสิทธิ์ของเขา ถือเป็นกลไกการตลาด
แน่นอนว่า กระแสดราม่าที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจและข้องใจสำหรับแฟนบอลหลายคนที่เข้าคิวซื้อบัตรตั้งแต่วันแรก แต่ไม่ได้สิทธิพิเศษการเข้าชมการซ้อมของนักเตะขวัญใจ และแฟนบอลจำนวนไม่น้อยที่ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมพิมรี่พายถึงได้บัตรมามากขนาดนั้น และเรียกร้องให้ผู้จัดงานแสดงความรับผิดชอบ
ก่อนที่กระแสดราม่าจะบานปลาย 2 สโมสรดัง ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มีความเคลื่อนไหวในการออกแถลงการณ์เรื่องตั๋วในเวลาไล่เลี่ยกัน
โดยทีมปีศาจแดงระบุในแถลงการณ์ว่า “…สโมสรไม่เคยอนุมัติการขายบัตรในรูปแบบดังกล่าว รวมทั้งไม่มีส่วนร่วมในรายละเอียดการขาย ที่นำไปสู่การเข้าใจผิด ถึงแม้ว่าบัตรเข้าชมการแข่งขันเหล่านั้นคือของแท้ก็ตาม นอกจากนั้น สโมสรไม่เคยทำข้อตกลงให้นักเตะร่วมรับประทานอาหารค่ำกับผู้โชคดี”
เช่นเดียวกับ “หงส์แดง” ดับเบิ้ลแชมป์แห่งพรีเมียร์ลีก ทีมล่าสุด ที่ประกาศว่า “…เราไม่อนุมัติการจำหน่ายในครั้งนี้ หรือยอมรับในรูปแบบของเนื้อหาในการจำหน่ายบัตรในครั้งนี้ ที่เป็นการชี้นำให้เข้าใจผิด ถึงแม้ว่าบัตรเข้าชมการแข่งขันจะเป็นของจริงก็ตาม แต่จะไม่มีการรับประทานอาหารค่ำที่ผู้โชคดีจะได้พบกับนักเตะชุดใหญ่ของทีม”
ตามมาด้วยการแสดงความรับผิดชอบของ “วินิจ” ในฐานะผู้จัดศึกแดงเดือด ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ที่ระบุว่า “…เรื่องที่เกิดขึ้นตนขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว”
“ตนเริ่มเจอดราม่ามาตั้งแต่เริ่มจัดงาน ทั้งเรื่องงบประมาณจากภาคส่วนความคิดที่สบประมาทต่างๆ จนเกือบถอดใจ และสิ่งที่ตัดสินใจทำงานนี้ เพราะเป็น match เกินฝัน จึงต้องการสร้างมาตรฐานใหม่และยกระดับการจัดงานอีเวนต์ ทั้งผมและทีมงานเต็มที่กับการจัดงานครั้งนี้ แม้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ รู้อย่างเดียวคือ เดินหน้าจัดงาน THE MATCH BANGKOK CENTURY CUP 2022 ให้ดีและออกมาสมบูรณ์ที่สุด”
หากย้อนกลับไปก่อนหน้า “วินิจ” เคยกล่าวถึงความมุ่งมั่นใจการจัดศึกแดงเดือดครั้งนี้ว่า
“…การพบกันของลิเวอร์พูลกับแมนฯ ยูครั้งนี้ถือเป็นศึกแดงเดือดนอกเกาะอังกฤษ ครั้งแรกในเอเชีย และครั้งที่ 2 ของโลก ในชีวิตหนึ่งทำได้ครั้งเดียว จากนั้นไม่รู้ใครจะได้ทำอีก จึงยอมเสี่ยง ยอมให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และที่สำคัญค่าบัตรเข้าชมฟุตบอล ทุกคนจะต้องเข้าถึงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
นอกจากนี้ เขายังวาดหวังด้วยว่า แมตช์ประวัติศาสตร์แมตช์นี้ จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจากหลายๆ ประเทศเข้ามาได้ และเชื่อว่าจะเป็น soft power ให้กับประเทศไทยได้ และนอกจากการแข่งขันในสนามแล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดเกมนี้ไป 145 ประเทศทั่วโลกด้วย
แต่ดูเหมือนตลอดเส้นทางที่ยิ่งนานวัน กระแสดราม่ามุมต่างๆ ก็ยิ่งวุ่นวายหนักขึ้นเรื่อยๆ
ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า ศึกแดงเดือด แมตช์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะมีดราม่าอะไรตามมาอีกหรือไม่