ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 กรกฎาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ก่อสร้างและที่ดิน |
เผยแพร่ |
ก่อสร้างและที่ดิน
นาย ต.
ทิศทาง ศก.ยังไม่อาจฟันธง
วันเวลาเดินทางมาอยู่ที่กลางปี 2565 พอดี คนในแวดวงธุรกิจก็มักจะตั้งคำถามว่า ทิศทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร
ถ้านำคำถามนี้ไปถามนักเศรษฐศาสตร์ นักการเงินหรือคนทำธุรกิจหลายๆ คน ปีนี้จะได้คำตอบกระจาย แล้วแต่ว่า ไปถามใคร
ถ้าไปถามนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญการมองภาพเศรษฐกิจรวม ก็จะได้คำตอบไปในทิศทางที่แย่ มีปัจจัยเสี่ยงใหญ่หลายปัจจัยที่กำลังเกิดขึ้น อาทิ
อัตราดอกเบี้ยทั้งโลกกำลังปรับสูงขึ้นซึ่งเป็นต้นทุนของธุรกิจต่างๆ และเป็นภาระของผู้บริโภค ราคาน้ำมันและพลังงานต่างๆ พุ่งสูง ราคาสินค้าประเภทอาหารปรับเพิ่มสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
เฉพาะประเทศไทย หนี้สาธารณะไทยล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ประมาณ 9.8 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนต่อ GDP เท่ากับ 60.17% ทะลุเพดานที่กฎหมายกำหนดไว้ 60% ซึ่งรัฐบาลต้องแก้กฎหมายเพิ่มเป็น 70%
ส่วนประชาชนไทยก็มีอัตราหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นชน 90% ของ GDP ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูง เป็นปัญหาถ่วงกำลังซื้อจับจ่ายซื้อสินค้า ในวงการบ้าน คอนโดฯ เห็นได้ง่ายๆ จากอัตราการยื่นขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ผ่านจำนวนมาก
เวลาเดียวกัน กลางปี 2565 นี้ ถ้าไปสอบถามคนทำธุรกิจ ก็จะได้คำตอบที่ต่างจากเมื่อ 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ เช่น ถ้าถามธุรกิจโรงแรมก็จะได้คำตอบว่า ดีขึ้น มีอัตราลูกค้าเข้าพักมากขึ้น ลูกค้าต่างชาติเปลี่ยนจากรัสเซียเป็นชาวอินเดียและตะวันออกกลาง
แม้แต่ห้องพักให้เช่า ไม่ว่าจะเป็นระดับพนักงานห้าง พนักงานโมเดิร์นเทรด ราคาเดือนละไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือห้องชุดคอนโดมิเนียมราคา 1-2 หมื่นบาท ขณะนี้ก็มีอัตราการเช่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โครงการบ้าน คอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างเปิดขาย แม้ปัญหาเดิมๆ เช่น การกู้ไม่ผ่านของที่อยู่อาศัยระดับราคากลางล่าง ความมั่นใจตลาดมีมากขึ้นทั้งบริษัทอสังหาฯ เจ้าของโครงการ และผู้ซื้อ ก็ทำให้อัตราการเข้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้น
การจองก็เพิ่มขึ้น
ทิศทางเศรษฐกิจกลางปี 2565 ณ ขณะนี้จึงฟันธงยากว่าจะออกไปในทิศทางแย่เหมือนนักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคมอง หรือจะค่อยๆ ดีขึ้นและดีกว่าที่คาดอย่างที่นักปฏิบัตินักธุรกิจภาคสนามรู้สึกกันอยู่ตอนนี้
เพราะความจริงในอนาคตก็ยังเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง
ทางหนึ่งกำลังซื้อที่ไหลมาตอนนี้เป็นแรง “อั้น” สะสมที่ผ่านมาเท่านั้น หมดแรงนี้เมื่อไหร่ก็เข้าสู่สภาพกำลังซื้ออ่อนแรงต่อไปอีกยาว
แต่ทางที่สอง เมื่อกำลังซื้อตลาดมาแล้ว หมุนแล้ว ก็จะโมเมนตัมใหญ่ขึ้นและฟื้นตัวในที่สุด ความจริงในตลาดยังไงก็ถูกต้องกว่าการคาดการณ์
อย่างไรก็ดี สำหรับคนทำธุรกิจ คนทำมาหากิน อย่าเพิ่งฟันธงว่า แนวโน้มจะเป็นบวกหรือลบ เตรียมตัวไว้ได้ทั้ง 2 ทางดีกว่า
ออกทางบวกก็ขยายตัวได้ หรือออกทางลบก็รับมือได้ •