ยานยนต์ สุดสัปดาห์

สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

 

ลัมโบร์กินี ‘Huracan Tecnica’

กระทิงดุสุดโหด ‘640 แรงม้า’

 

แม้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยและโลกยังปั่นป่วน ทั้งจากเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน และสินค้าที่แพงขึ้นต่อเนื่อง

แต่สำหรับกลุ่มผู้มีอันจะกินได้รับผลกระทบไม่มากนัก

จึงเห็นทั้งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ หรือสินค้าพรีเมียมขายดิบขายดี

เช่นเดียวกับรถซูเปอร์คาร์ราคาแพงระดับ 8 หลัก ยังเข้ามาอวดโฉมต่อเนื่อง

ล่าสุดเป็นคิวของกระทิงดุ “ลัมโบร์กินี” (Lamborghini) ที่ส่งสุดยอดซูเปอร์คาร์ขุมพลัง “V10” ทั้งหรู-ทั้งแรง มาเขย่ากระเป๋าสาวกในเมืองไทย

นำเข้าโดย “เรนาสโซ มอเตอร์” (Renazzo Motor) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย

ถือว่าเป็นการมาค่อนข้างเร็วเพราะเพิ่งเปิดตัวระดับโลกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง

ดีไซน์ปรับปรุงใหม่เน้นความหรูหรา สะดุดตามากขึ้น ส่วนหน้าโค้งเข้าหาตัวพร้อมด้านข้างที่ดูแข็งแกร่งบึกบึน ผสานการออกแบบฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์เต็มผืนน้ำหนักเบา

กันชนใหม่ใช้ดีไซน์ Black Ypsilon จากรุ่น Terzo Millennio ร่วมกับการใช้ Air Curtain เป็นครั้งแรกของตระกูล Huracan

ลิ้นกันชนด้านหน้าออกแบบให้อยู่ระดับต่ำพร้อมครีบระบายอากาศเพื่อจ่ายอากาศให้ไหลผ่านล้อ ช่วยเพิ่มแรงกดและระบายความร้อนได้พร้อมกัน

ตกแต่งส่วนล่างของกระจกหน้าในโทนดำยังช่วยเพิ่มความหรูหรามากขึ้น

ด้านหลังออกแบบรูปทรงใหม่ให้มีหน้าต่างกระจกหลังแนวตั้งเพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์ดีไซน์ใหม่ กันชนแบบใหม่ช่วยเพิ่มอัตราอากาศไหลเข้าได้สูงสุด ดิฟฟิวเซอร์สีเดียวกับตัวรถหรือสีดำ

ท่อไอเสียหกเหลี่ยมแบบใหม่

การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยเสริมแรงกดส่วนหลังได้มากขึ้นถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Huracan EVO RWD

ช่วงล่างเสริมประสิทธิภาพด้วยตัวเบี่ยงลมแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้น

ล้อไดมอนด์คัตลาย Damiso ขนาด 20 นิ้วได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Lamborghini Vision GT รัดด้วยยาง Bridgestone Potenza Sport ด้านหน้าขนาด 245/30 ส่วนด้านหลัง 305/30

ระบบระบายความร้อนเบรกรุ่นใหม่ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ในสนามแข่ง เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้น วัสดุเบรกคาร์บอนเซรามิกใช้ท่อดักลมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อดักลมเข้าจานเบรกและคาลิปเปอร์โดยตรงเพื่อกระจายความร้อนให้มากที่สุด และยังช่วยลดอุณหภูมิน้ำมันเบรกและลดระยะของแป้นเบรก ยังช่วยถนอมผ้าเบรกได้อีกด้วย

การตกแต่งภายในมีให้เลือกหลายออปชั่นตามความต้องการเฉพาะของแต่ละคน

เบาะนั่งแนวสปอร์ตที่ปรับระดับความสูงได้ถูกติดตั้งในตำแหน่งคนขับ สามารถเลือกออปชั่นเสริมได้ทั้งบานประตูน้ำหนักเบา ซุ้มล้อหลังและสกรูล้อหลังวัสดุไททาเนียมน้ำหนักเบา และเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ในสนามแข่งขันบ่อยครั้ง

อินเตอร์เฟซระบบ HMI ถือเป็นเอกลักษณ์ของ Tecnica แผงควบคุมของนักขับถูกลดทอนสีสัน เน้นความสะดวกรวดเร็วในการอ่านข้อมูลบนจอขนาดใหญ่แบบใหม่บริเวณด้านหน้าคนขับ

จอแสดงผลคอนโซลกลางติดตั้งองค์ประกอบเพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่สำหรับผู้โดยสาร

ทั้งฟังก์ชั่นระบบ LDVI ที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อทั้งหมด ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Amazon Alexa

ระบบ HMI ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น STO ยังมีระบบเชื่อมต่อการควบคุมระยะไกลและบันทึกจุดหมายปลายทางและจำนวนครั้งของการเดินทาง โดยเชื่อมต่อผ่านแอพพ์ UNICA

โทนสีและรูปแบบการตกแต่งมาตรฐาน ตลอดจนออปชั่นเสริมต่างๆ มีให้เลือกทั้งแนวหรูหราสง่างามและแนวสปอร์ตอันปราดเปรียว

สีมาตรฐานภายนอกมีให้เลือก 8 สี และออปชั่นสีเพิ่มเติมอีกมากกว่า 200 สีจากโปรแกรมแต่งรถพิเศษ

รวมถึงการตกแต่งภายในแบบใหม่ Alcantara ที่มีเฉพาะรุ่น Tecnica และออปชั่นเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย

ทั้งดีไซน์การเย็บลายและสีของด้ายตะเข็บ และการปักสัญลักษณ์ Tecnica บนเบาะนั่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

ขุมพลังเครื่องยนต์ “V10” ความจุ 5.2 ลิตร กำลังสูงสุด 640 แรงม้า แรงบิด 565 นิวตัน-เมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ 7 สปีด ดูอัลคลัช

ติดตั้งระบบ LDVI (Lamborghini Dinamica Veicolo Integrata) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมทุกฟังก์ชั่นการเคลื่อนไหวของยานยนต์ผ่านการผสานการทำงานของระบบต่างๆ และการตั้งค่าระบบการควบคุมล่วงหน้า Feed-forward แบบเรียลไทม์เพื่อสร้างไดนามิกแห่งการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ

มอบความแรงสุดโหดทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อนล้อหลังของ Tecnica ผสานการทำงานของการบังคับเลี้ยวล้อหลังเข้ากับ Direct Steering Ratio และ Torque Vectoring ร่วมกับระบบ Performance Traction Control System (P-TCS) ที่ผ่านการปรับแต่งใหม่และการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่มีเฉพาะในรถรุ่นนี้

มี 3 โหมดการขับขี่

“STRADA” ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเพิ่มความเสถียรและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบ Torque Vectoring และระบบ P-TCS โดยทั้งเครื่องยนต์และกระปุกเกียร์ถูกตั้งค่าให้มอบความสบายในการขับขี่ประจำวันในทุกฟังก์ชั่นที่ใช้งาน

“SPORT” เพิ่มความฉับไวและการตอบสนองอยู่ภายใต้การควบคุมของนักขับ ระบบส่งกำลังตอบสนองได้อย่างฉับไว

และ “CORSA” แรงอีกขั้นได้อารมณ์สนามแข่ง ตอบสนองเฉียบคม พร้อมเสียงคำรามเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินี รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะในระดับสูงสุด

ส่วนออปชั่นความปลอดภัยและตัวช่วยไฮเทคต่างๆ มาเกินพอจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรไหว

ลัมโบร์กินี “Huracan Tecnica” ราคาเริ่มต้น 22.98 ล้านบาท •