มีคนชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเป็นคนที่จริงใจ

รู้สึกอย่างไรก็พูดอย่างนั้น

ในมุมของ “เพื่อน” คนนี้เป็นคนที่น่าคบ

ไม่ต้องตีความเยอะ

ตรงไปตรงมา

แต่ในทางการเมือง มุมหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าคบ เพราะจริงใจ

อีกมุมหนึ่งก็ต้องระวัง

เพราะอ่านง่าย

อะไรที่อยู่ในใจ พักเดียวก็หลุดออกมาเป็น “คำพูด”

ชอบหรือไม่ชอบใคร

แป๊บเดียวก็รู้

จะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง

หรือจะเลือกตั้งเมื่อไร

พูดวนไปวนมา 3-4 ครั้งก็จับทางออกว่า “คำสัญญา” ที่ว่าอีกไม่นานนั้น

นานแค่ปี 2561

หรือนาน-น้าน-นาน

เช่นเดียวกับเรื่อง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” หายไป

ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ชัดเจนว่าค่อนข้างสบายใจ

ไม่ได้โมโหโกรธาอย่างที่ควรจะเป็น

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้

กระบวนการสอบสวนเพื่อหาคนที่ช่วย “ยิ่งลักษณ์” หนี ก็เดินหน้าไป

แต่ทั้งคู่ไม่มีใครออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงเหมือนหลายกรณีที่เกิดขึ้น

ภาษาท่าทางชัดเจน

ด้านหนึ่ง ถูกตีความว่าสบายใจเพราะลดแรงกดดันทางการเมืองจากผู้สนับสนุน “ยิ่งลักษณ์” และพรรคเพื่อไทย

แต่อีกด้านหนึ่ง ถูกมองว่า “นั่นแน่ รู้นะทำอะไรอยู่”

ยิ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินว่า “ยิ่งลักษณ์” ผิดจริง

ลงโทษจำคุก 5 ปี

ไม่รอลงอาญา

ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามขั้นตอน

สถานีตำรวจทุ่งสองห้องสามารถออกหมายจับได้ภายใน 30 นาทีหลังศาลตัดสิน

เร็วมาก

ด่านทุกด่านตรวจเข้ม ห้าม “ยิ่งลักษณ์” ออกนอกประเทศ

เข้มแข็งมาก

แต่เอ่อ…ช้าไปไหม??

ที่สำคัญที่สุด คือ ท่าทีของ 2 พี่น้อง “บูรพาพยัคฆ์”

เพราะยุคนี้คนทำงานทุกคนมองบนตลอด

ถึงวันนี้ “ผู้นำ” ยังไม่แสดงอาการโกรธแบบอาละวาดเลย

แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ “เรื่องใหญ่”

ทุกอย่างจึงดำเนินไปตามขั้นตอน

…รู้นะ…ว่าคิดอะไรอยู่