สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/โอ๊ะ-โอ๊ย ที่ดังเป็นพิเศษ

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————–

โอ๊ะ-โอ๊ย ที่ดังเป็นพิเศษ

————————–

เคส ครูพี่โอ๊ะ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ถูกกล่าวหาบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติ ที่โด่งดังมากกว่าปกติ

ด้านหนึ่ง ก็คงเพราะตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา ที่ดำรงอยู่ ถูกตั้งบรรทัดฐานด้าน”จริยธรรม”สูงกว่าตำแหน่งกระทรวงอื่น

เนื่องจากเป็นเบ้าหลอมอนาคตของประเทศ รวมทั้งมีบทบาทต้องสอนเด็กและเยาวชนของชาติทั้งโดยตรงและอ้อม

จึงหลีกเลี่ยงการถูกเรียกร้องคุณสมบัติอันเหมาะสมไม่ได้

และยิ่งในกรณีนี้ มิได้เป็นเพียงแค่นางกนกวรรณ แต่หากยังเกี่ยวโยงไปถึงครอบครัว ที่บิดา คือ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปราจีนบุรี ถูกกล่าวหาด้วยข้อหาคล้ายคลึงกันด้วย

มากกว่านั้น นายสุนทร ยังใช้วิธีการ หลบเลี่ยงไม่ต่อสู้ทางกฏหมายตามขั้นตอน ด้วยหวังให้คดีหมดอายุความ

ทำให้ยิ่งเกิดข้อกล่าวหาว่านี่เกี่ยวข้องกับกำลังภายใน-ภายนอก ของ”บ้านใหญ่ปราจีนบุรี” หรือไม่

ส่งผลให้การถามหา เรื่อง”จริยธรรม”หนักยิ่งขึ้น

ถามทั้งต่อตัวนางกนกวรรณ นายสุนทร

และยังต่อเนื่องไปถึงพรรคภูมิใจไทย ที่นางกนกวรรณสังกัดอยู่ รวมทั้งยังลามไปถึง ผู้นำในรัฐบาล ภายใต้”รัฐธรรมนูญปราบโกง”ด้วย

อีกด้านหนึ่ง ที่ทำให้ กรณีเคส ครูพี่โอ๊ะ โด่งดัง นั่นก็คือ ความเป็นบ้านใหญ่แห่งปราจีนบุรี ของตระกูลวิลาวัลย์ ที่ถือเป็น “นั่งร้าน”สำคัญของพรรคภูมิใจไทย

ด้วยครอบครัวนี้ สามารถการันตีจำนวนส.ส. ให้พรรคภูมิใจไทย(ที่ว่ากันว่าเป็นนั่งร้านใหญ่ให้กับรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง)มั่นใจได้แบบเต็มร้อย

มิฉะนั้น คงไม่สามารถผลักดัน นางกนกวรรณ ให้มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรอก

ดังนั้น การที่ แกนนำ ของครอบครัววิลาวัลย์ มาประสบเหตุอันไม่คาดฝัน ถูกกล่าวหาบุกรุกป่า และอาจทำให้ตำแหน่งทางการเมือง ทั้งรัฐมนตรีช่วย ของลูกสาว และตำแหน่ง นายกฯอบจ. ของบิดา หลุดกระเด็น

กรณีนี้จึงโด่งดัง และกำลังถูกจับตาต่อไปว่า จะสะเทือนถึง การเมืองในจังหวัดปราจีนบุรีหรือไม่

ครอบครัววิลาวัลย์จะสามารถดำรงความเป็นนั่งร้านอันมั่งคงให้พรรคภูมิใจไทยได้อีกต่อไปหรือเปล่า

ต้องไม่ลืมว่าขณะนี้พรรคภูมิใจไทย กำลังถูกยกให้เป็นนั่งร้านสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นพรรคที่สามารถการันตีเสียงส.ส.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจ มากกว่าเสียงของพรรคพลังประชารัฐเสียอีก

พรรคภูมิใจไทย จึงกลายเป็นหลักของรัฐบาลชุดนี้ และถูกมองว่า จะยังเป็นหลักในการเลือกตั้งครั้งหน้า แถมยังถูกให้เป็น”ตัววาง” ว่าพรรคนี้แหละเป็นพรรคที่ช่วยสะกัดยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ในภาคอีสานได้

เราถึงได้เห็นการปะทะกันดุเดือด ที่จ.ศรีสะเกษ ที่พรรคภูมิใจไทยไปดูดส.ส.พรรคเพื่อไทยมาหนุนรัฐบาลอย่างไม่รักษาหน้าและไม่คำนึงถึงมารยาท จนนำไปสู่การตอบโต้กลับของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเคลื่อนทัพใหญ่ ไปเขย่าจ.ศรีสะเกษ ภายใต้ยุทธวิธี “ไล่หนู ตีงูเห่า”

และคงจะมีปฏิบัติการตอบโต้ต่อเนื่องต่อไป

แน่นอนว่า กรณีของ ครอบครัววิลาวัลย์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในบัญชีซักฟอกของพรรคฝ่ายค้าน

แต่ก็อาจจะเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่จะถูกหยิบยกไปเขย่า หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยรวมถึงพาดพิงไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย ที่ละทิ้ง “จริยธรรม” ไปปกป้องครอบครัววิลาวัลย์

นี่จึงเหตุผลว่าทำไม เคสของ ครูพี่โอ๊ะ จึงนำไปสู่เสียงเจ็บปวดทางการเมือง โอ๊ย-โอ๊ย ที่ดังเป็นพิเศษ

—————–