ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์
นพมาส แววหงส์
HUSTLE
‘เพชรในตม’
กำกับการแสดง
Jeremiah Zagar
นำแสดง
Adam Sandler
Juancho Hernangomez
Queen Latifah
Ben Foster
Robert Duvall
ระยะหลังๆ มานี้ อดัม แซนด์เลอร์ เริ่มหันเหจากแนวตลกประเภทเล่นมุขบ๊องๆ บวมๆ โฉ่งฉ่าง แบบที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาสู่หนังที่มีเนื้อหาสาระจับใจและแนวที่จริงจังมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาก็นำแสดงในหนังดราม่าหนักอึ้งเครียดขมึงที่มีเรื่องราวซับซ้อนหักเหลี่ยมในโลกอาชญากรรมของ Uncut Gems ซึ่งระหว่างดู ผู้เขียนต้องลุกขึ้นไปพักสมองเปลี่ยนอิริยาบถหลายหนกว่าจะดูได้จบ
ตามปกติแล้ว ผู้เขียนจะนั่งดูหนังแต่ละเรื่องแต่ต้นจนจบในการดูครั้งเดียว เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์การดูหนังในโรง ซึ่งต้องเหินห่างไปในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
อดัม แซนด์เลอร์ กลับมาอีกครั้งด้วยหนังที่มีชื่อซ้ำหรือคล้ายคลึงกันนี้หลายเรื่อง คือ Hustle ซึ่งเป็นหนังชีวิตที่ต่อสู้เพื่อก้าวไปสู่ความฝันยิ่งใหญ่ที่จะผงาดขึ้นในวงการกีฬา
เรื่องราวทำนองนี้นับว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่ อย่างน้อยหนังที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันนี้ที่เคยดูมาแล้วก็มีนับสิบนับร้อยเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราวของความใฝ่ฝันและการไขว่คว้าหาความสำเร็จในวงการกีฬา…หรือดนตรี หรือบัลเล่ต์ หรือแดนซ์…
รวมทั้งผู้ที่เคยล้มเหลวมาก่อนในอดีต กลับมุ่งมั่นด้วยพลังใจแน่วแน่ มุมานะฝึกตนและพากเพียรต่อสู้เอาชนะจุดอ่อนของตนเอง
สแตนลีย์ ชูเกอร์แมน (อดัม แซนด์เลอร์) เป็นแมวมองหานักบาสเกตบอลมาเข้าสังกัดในทีม Philadelphia 76ers
เจ้าของทีม เร็กซ์ เมอร์ริก (โรเบิร์ต ดูวัลล์) เพิ่งประกาศเลื่อนขั้นให้สแตนลีย์เป็นผู้ช่วยโค้ชของทีมสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้าที่เร็กซ์จะเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
และวินซ์ เมอร์ริก (เบน ฟอสเตอร์ ซึ่งโกนหัวไว้หนวดจนแทบจำไม่ได้) ผู้รับช่วงต่อจากพ่อ ลดขั้นสแตนลีย์กลับไปสู่การเป็นแมวมองเหมือนเดิม
สแตนลีย์มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่บนหลังมือ ซึ่งเป็นปริศนาที่จะไขเรื่องราวอันเจ็บปวดในอดีตของเขาในฐานะนักบาสฝีมือดีซึ่งต้องมามีบทบาทอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้เล่นอื่นๆ
การเป็นแมวมองในวงการกีฬาระดับ NBA ทำให้สแตนลีย์ต้องเดินทางอยู่ตลอดทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนแทบไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยภรรยา เทเรซา (ควีน ลาติฟาห์) และลูกสาววัยรุ่น
ในการตระเวนหานักบาสเก่งๆ มาเข้าสังกัดทีม สแตนลีย์ไปสะดุดตากับหนุ่มร่างสูงชะลูดซึ่งเล่นบอลได้คล่องแคล่วและสกัดไม่ให้คนเล่นบอลอีกฝ่ายยิงบอลลงห่วงได้ด้วยการพนันขันต่อกัน
สแตนลีย์ตามหนุ่มคนนั้นไปจนถึงบ้าน และได้รับรู้ว่าเขาทำงานก่อสร้าง โดยอาศัยอยู่กับแม่และลูกสาวสุดที่รัก
เขาชื่อ โบ ครูซ (ฆวนโค แฮร์นานโกเมซ) อายุ 22 ปี โดยที่แม่เล่าว่าโบมีแววในการเล่นบาสมาแต่เด็ก และเคยได้รับติดต่อให้ไปเล่นในอเมริกาตอนอายุ 15 แต่เผอิญตอนนั้นแฟนเขาคลอดลูก เขาจึงตัดสินใจทิ้งโอกาสนั้นไปเสีย
สแตนลีย์เสนอเจ้านายให้รับโบเข้าทีม แต่วินซ์ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับสแตนลีย์ ไม่ยอมอนุมัติ
สแตนลีย์เชื่อมั่นในสายตาของตัวเอง และเชื่อว่าโบจะเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการ เขาจึงใช้งบฯ ของตัวเอง พาตัวโบไปอเมริกาเพื่อให้แสดงฝีมือให้เจ้านายเห็นกับตา
แต่ความพยายามของสแตนลีย์ที่จะดันโบไปสู่ดวงดาว ก็ไม่ง่ายดังที่คิดไว้
ทั้งสองเจออุปสรรคนานัปการ นับตั้งแต่เรื่องประวัติอาชญากรรมของโบ ซึ่งเป็นการประทุษร้ายคนอื่นในตอนวัยรุ่น ซึ่งติดตัวเขามาด้วยเมื่อก้าวเข้าสู่อเมริกาเป็นครั้งแรก ไปจนถึงความตื่นสนามที่มาเล่นท่ามกลางผู้เล่นฝีมือดีเป็นครั้งแรก
และการกลั่นแกล้งทำลายขวัญและกำลังใจจากคู่ต่อสู้ ซึ่งมองหาจุดอ่อนทางด้านอารมณ์ของโบที่จะทำให้เขาเสียศูนย์จนต้องออกไปจากเกมการเล่น
อุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่ากลับทำให้สแตนลีย์และโบแข็งแกร่งขึ้น สแตนลีย์เชื่อมั่นในตัวโบจนตัดสินใจออกจากทีมฟิลาเดลเฟียเซเวนตี้ซิกเซอร์สมาเป็นโค้ชให้โบเพียงคนเดียว
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความแกร่ง ความว่องไวและสมรรถภาพทางกายด้วยการตื่นขึ้นไปวิ่งขึ้นเขาแต่ก่อนไก่โห่…
ช่วงฝึกนี้ค่อนข้างยาวไปนิด แต่ก็ทำให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ…ก่อนจะก้าวไปถึงความสำเร็จได้นั้น คนเราจะต้องล้มเหลวอยู่นานและหลายครั้งหลายหน
สิ่งเดียวที่จะพาตัวให้ไปถึงจุดหมายได้ คือความมุ่งมั่นบากบั่นอดทนและมุมานะ
นี่เป็นบทบาทที่น่าประทับใจที่สุดของอดัม แซนด์เลอร์ เนื่องจากเราเห็นความรักในกีฬาบาสเกตบอลและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้เล่นที่เขาฟูมฟัก พยายามไปส่งให้ถึงฝั่ง
มีช่วงที่น่าจับใจอยู่หลายตอน โดยเฉพาะตอนที่สแตนลีย์พาโบนั่งเครื่องบินมาอเมริกาด้วยงบส่วนตัวของเขาเอง
ในฐานะแมวมองของทีมใหญ่ระดับชาติ สแตนลีย์มีงบฯ ที่จะนั่งเครื่องบินในชั้นธุรกิจ แต่เมื่อเขาออกเงินให้ผู้เล่นโนเนมเดินทางมา ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องซื้อตั๋วชั้นประหยัดให้
แต่ถึงเวลาเข้าจริง โบรูปร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานคนทั่วไป สแตนลีย์เลยบอกให้โบไปนั่งที่นั่งของเขาในชั้นธุรกิจ ขณะที่ตัวเขาไปนั่งที่นั่งของโบในชั้นประหยัด
หนังไม่ได้สร้างจากเรื่องจริงของนักบาสผู้ยิ่งใหญ่คนไหนหรอกค่ะ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นล้วนๆ แต่ขณะเดียวกัน เครดิตตอนจบก็สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เพราะมีรายชื่อของนักบาสของเอ็นบีเอ (NBA) ยาวเหยียดหลายสิบชื่อที่บอกว่า “เล่นเป็นตัวเอง”
ผู้เขียนรู้จักชื่ออยู่แค่คนเดียวเท่านั้น คือ ชาคีล “แช็ก” โอนีล นักบาสร่างยักษ์ผู้โด่งดัง
ตัวจริงเสียงจริงเหล่านี้ปรากฏตัวคนละแวบสองแวบบนจอ ในบทแบบที่เรียกว่า “คามิโอ” (cameo appearance)
แต่ก็บอกให้รู้ถึงความน่าประทับใจของผู้อำนวยการสร้างล่ะค่ะ ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการขนาดไหนถึงได้เจรจาให้นักบาสมีชื่อเหล่านี้มาร่วมเล่นด้วย
รวมทั้งในบทสำคัญๆ ซึ่งไม่ได้ “เล่นเป็นตัวเอง” แต่เล่นเป็นตัวละคร คือ ฆวนโค แฮร์นานโกเมซ นักบาสตัวจริงจากมาดริด ซึ่งเล่นเป็นโบ ครูซ และแอนโทนี เอ็ดเวิร์ด ดาราบาสของเอ็นบีเอ ก็มาเล่นเป็นเคอร์มิต วิลต์ส ตัวร้ายในเรื่องด้วย
ถึงผู้เขียนจะไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของบาสเกตบอล นอกจากตามดูเกมสำคัญๆ เป็นครั้งเป็นคราว แต่หนังก็ดูสนุก อบอุ่น และน่าประทับใจนะคะ •
ชมตัวอย่างภาพยนตร์ Hustle ได้ที่นี่