Hybrid Officer ชีวิตวิถีใหม่ ‘มนุษย์เงินเดือน’ ตอบโจทย์ Work-Life Balance/บทความพิเศษ จักรกฤษณ์ สิริริน

บทความพิเศษ

จักรกฤษณ์ สิริริน

 

Hybrid Officer

ชีวิตวิถีใหม่ ‘มนุษย์เงินเดือน’

ตอบโจทย์ Work-Life Balance

 

Work-Life Balance หมายถึง ความสอดคล้องต้องกันระหว่าง “วิถีการทำงาน” กับ “การดำเนินชีวิตประจำวัน” โดยทั้งสองสิ่ง “ต้องกลมกลืน” และ “ไม่ขัดแย้งกัน”

ดังรูปศัพท์ Work = การทำงาน Life = วิถีชีวิต และ Balance = ความสมดุล

Work-Life Balance เป็นสิ่งที่ Generation Now (คนทุก Generation) ต้องการมากที่สุดในปัจจุบัน

เพราะหัวใจสำคัญของ Work-Life Balance ก็คือ “งานและชีวิต” มี “ความสำคัญเท่าเทียมกัน”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุค COVID-19 ที่เกิดกระแส Work from Home กันทั่วทุกมุมโลก

จากนโยบายให้ลูกจ้าง “ทำงานที่บ้าน” ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจาย Virus

แต่ฉับพลัน หลังมีสัญญาณการประกาศให้ COVID-19 เป็น “โรคประจำถิ่น” กำลังทยอยเผยแพร่ในประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก

ผนวกกับมาตรการ “เปิด Mask” ที่หลายชาติต่างนำมาใช้ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด และนำผู้คนกลับสู่วิถีชีวิตดั้งเดิม หรือ Old Normal ที่หลายคนเรียกว่า Good Old Day

และสถาบันการศึกษาทุกระดับ ได้ค่อยๆ เปิดทำการ และเรียกนักเรียน รวมถึงบุคลากรกลับสู่รั้วโรงเรียน หรือประตูมหาวิทยาลัย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทห้างร้านต่างๆ ก็เชิญชวน แกมบังคับ ให้พนักงานกลับเข้า Office กันเรื่อยๆ ชนิดที่เรียกว่า ใครพร้อมก่อน มาก่อน

ดังตัวอย่างจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทห้างร้านจำนวนมาก ได้แจ้งให้พนักงานทราบ ถึงเวลาที่จะต้องกลับมาทำงาน Office

โดย ณ ขณะนี้ พนักงานบางส่วนได้กลับมาทำงานทุกวันแล้ว ขณะที่พนักงานอีกบางส่วนยังคงใช้เวลาทำงานทั้งจากที่บ้าน และที่ทำงาน ผสมผสานกัน

หรือที่เรียกว่า Hybrid Officer

ย้อนกลับไปก่อนเกิด COVID-19 คนอเมริกันหลายสิบล้านคนทำงานจากที่ Office ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตอนนั้นยังไม่มี Co-Working Space และฝรั่งก็มีสปิริต ไม่นิยมนั่งแช่ในร้านกาแฟนานๆ เพราะเกรงใจลูกค้าคนอื่น

แต่หลังจากเกิด COVID พนักงานเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้รูปแบบ “ชีวิตวิถีใหม่” หรือ New Normal ทั้งรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานจากบ้านของตนเอง

Charlotte Principato นักวิเคราะห์ข้อมูลการเงินของ Morning Consult บริษัทวิจัยธุรกิจชื่อดังระดับโลก ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกัน กับการที่ต้องทยอยกลับเข้าไปทำงานใน Office

ปรากฏว่า 73% รู้สึกสบายใจที่จะได้กลับไป ส่วนอีก 27% แสดงความคิดเห็นว่า ต้องการทำงานจากที่บ้าน เพราะรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า

“มีพนักงานจำนวนไม่น้อยอยากทำงานแบบผสมผสาน หรือ Hybrid Officer คือทำงานทั้งแบบตอกบัตรเข้างานที่ Office และทั้งแบบทำงานอยู่ที่บ้าน” Charlotte Principato กระชุ่น

Charlotte Principato ชี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเห็นกลุ่มคนอายุน้อยต้องการทำงานภายใต้บรรยากาศแบบผสมผสาน เพราะเชื่อว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ยืดหยุ่นมากกว่า และสามารถควบคุมชีวิตตนเองได้

ไม่ต่างจาก Debra Kaplan ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา จากเมือง Tucson รัฐ Arizona ที่ระบุว่า เชื่อว่าหลายคนกำลังประสบปัญหาภาวะความตึงเครียด ที่จะต้องกลับไปปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศการทำงานที่ Office หลังจากที่เคยทำงานที่บ้านมาเป็นเวลานาน

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนอื่น อาจจะรู้สึกลำบากยากเย็นในการปรับตัว มากกว่าคนที่ชอบเข้าสังคม” Debra Kaplan กล่าว

อย่างไรก็ดี เธอชี้ว่า จริงๆ แล้วการกลับไปทำงานใน Office เป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ และเงื่อนไขของแต่ละบุคคล

 

Debra Kaplan สำทับว่า ในทัศนะของนักบำบัดอย่างเธอ ซึ่งมองว่า ผู้คนต่างตระหนักว่า การเข้าสังคมมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของพวกเขา และมักจะรู้สึกดี เวลาเจอหน้าเพื่อนร่วมงานแบบจริงๆ ที่ Office แบบที่ไม่ใช่การพูดคุยกันผ่านโปรแกรม Zoom

Mark Gerald นักจิตวิเคราะห์จากรัฐ New York เผยว่า การกลับเข้า Office อีกครั้งหลัง COVID ของบรรดา “มนุษย์เงินเดือน” เปรียบไปก็คล้ายกับสถานการณ์ที่เด็กเล็กๆ ต้องไปโรงเรียนเป็นครั้งแรก

“แน่นอนว่า มันจะต้องเกิดความตึงเครียดจากการเปลี่ยนแปลง และความกลัวที่ต้องออกไปเผชิญกับโลกกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความกังวลที่จะต้องอยู่ห่างจากครอบครัว” Mark Gerald กล่าว และว่า

การระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ได้ทำให้ผู้คนหวนกลับมาพินิจพิจารณาเรื่องของความสมดุลระหว่างการทำงาน กับการใช้ชีวิตส่วนตัว หรือ Work-Life Balance กันมากขึ้น

“แน่นอนว่า กรณีนี้ต้องรวมถึงจำนวนชั่วโมงทำงานที่ใช้ไปใน Office ด้วย ผมคิดว่า ต่อจากนี้ ผู้คนจะไม่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนอย่างที่เคยเห็น ก่อนหน้าการเกิด COVID-19 อย่างแน่นอน”

แม้หลายคนอาจจะตั้งคำถาม ว่าตัวเนื้องาน และบรรยากาศของงานที่ทำอยู่ เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ แต่ผมเชื่อว่า ความคิดเห็นเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิด Hybrid Officer หรือการทำงานลักษณะผสมผสาน ทั้งจากที่บ้าน และที่ทำงาน ซึ่งจะเป็นเรื่องปกติมากขึ้น

“นี่คือชีวิตวิถีใหม่ของมนุษย์เงินเดือน ที่จะมาตอบโจทย์ Work-Life Balance ได้เป็นอย่างดี” Mark Gerald สรุป

 

สอดคล้องกับ Imani Harris คุณแม่ลูกสองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจากรัฐ Washington ที่บอกว่า ทุกวันนี้ เธอยังต้องสวมหน้ากากอนามัยในเวลาทำงาน เพราะยังไม่รู้สึกปลอดภัย

“จริงๆ ถ้าเลือกได้ ฉันอยากทำงานที่บ้านมากกว่า เพราะรู้สึกว่างานเสร็จดีกว่าทำที่ Office อีกทั้งยังได้ใช้เวลากับลูกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับไปทำงานที่ Office มันเพิ่มภาระด้านการเงิน เพราะต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็ก ไหนจะค่าพาหนะเดินทางอีก”

เช่นเดียวกับ Karestan Koenen อาจารย์ด้านระบาดวิทยา และจิตเวช ประจำวิทยาลัยสาธารณสุข แห่ง Harvard University ที่มองว่า การกลับไป Office ของ “มนุษย์เงินเดือน” เที่ยวนี้ อาจก่อให้เกิดความเหนื่อยล้า

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงแรกของการที่ต้องไปเจอผู้คนในที่ทำงาน หลังจากห่างหายไปนาน อาจจะทำให้รู้สึกว่าต้องใช้พลังงานเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านอารมณ์ และจิตใจ น่าจะดีขึ้น”

คล้ายกันกับ Ethan Carson บัณฑิตจบใหม่ที่เพิ่งเข้าบรรจุในบริษัทด้านเทคโนโลยีแห่งเมือง Falls Church รัฐ Virginia ที่มองว่า มนุษย์เงินเดือนสามารถทำงานให้ลุล่วงได้ที่บ้าน และจะรู้สึกดีมาก ที่ไม่ต้องเข้า Office

“การทำงานที่ Office น่าเบื่อกว่าการทำงานจากที่บ้านอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลักษณะงานแบบที่ผมทำอยู่ คือการเป็นนักเขียนโปรแกรม หรือ Programmer ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่จำเป็นต้องเข้า Office เลยทั้งปีก็ยังได้” Ethan Carson กล่าว และว่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับสภาพการจราจรที่ย่ำแย่ ก็ทำให้ยิ่งเป็นอุปสรรคในเรื่องการเดินทางมากเข้าไปอีก

“แม้เพื่อนผมหลายคนจะบอกว่า การอยู่ในบรรยากาศที่รายล้อมด้วยเพื่อนร่วมงาน ทำให้งานเสร็จง่ายขึ้น และมีสมาธิกับการทำงานมากกว่าตอนอยู่ที่บ้านก็ตาม” Ethan Carson สรุป

 

ส่วน Angela Morgensen ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร จากเมือง Bethesda รัฐ Maryland ได้แสดงความรู้สึกโล่งอกโล่งใจที่จะได้กลับไปทำงานใน Office อีกครั้ง

“ฉันมีความสุขมากที่จะได้พบปะพูดคุยกับผู้คนเสียที มันเหมือนกับการได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอีกครั้ง แม้ว่าแต่ก่อนอาจจะรู้สึกเบื่อมากๆ กับการประชุม แต่ตอนนี้ คิดว่าการประชุมอันแสนน่าเบื่อ อาจจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ๆ ได้บ้าง”

Angela Morgensen ทิ้งท้าย