สถานการณ์เปลี่ยน กองทัพปรับ ‘บิ๊กบี้’ นิ่ง จับตาเกมจัดทัพ จาก ‘บิ๊กเนี้ยว’ มา ‘บิ๊กปู’ วงศ์เทวัญคอแดงแท็กทีม/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

สถานการณ์เปลี่ยน

กองทัพปรับ

‘บิ๊กบี้’ นิ่ง

จับตาเกมจัดทัพ

จาก ‘บิ๊กเนี้ยว’ มา ‘บิ๊กปู’

วงศ์เทวัญคอแดงแท็กทีม

 

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่แน่นอน ทั้งอนาคตของพี่น้อง 3 ป. โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังปรับกระบวนท่า ว่าจะไปต่อ ปรับแผนสู้ศึกอย่างไรให้ชนะ หรือหากจะพอแค่นี้ จะต้องระวังหลังอย่างไร

แต่สถานการณ์อำนาจในกองทัพก็กำลังจะมีการปรับเปลี่ยน เพื่อจัดวางนายทหารที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดมาดูแลกองทัพ โดยเฉพาะ ทบ. กำลังหลักด้านความมั่นคง

พร้อมๆ กับการกระชับอำนาจในกองทัพ ในสายของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ และอดีต ผบ.ทบ. ที่ยังคงเปี่ยมบารมี

เพราะหลังจากการเข้าไปฝึกหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ ของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) เมื่อ 9 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้บิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ถูกจับตามองเขม็ง ว่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของอำนาจในกองทัพ

เนื่องจากในเมื่อ พล.ต.พนา จะกลายเป็นทหารคอแดงคนใหม่ และถูกมองข้ามช็อตถึงการเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ.ในอนาคตอันใกล้

ก่อนหน้านี้ ในช่วง 2 ปีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. และควบ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 คุมทหารคอแดง ทบ.ด้วยนั้น มีนายทหารชั้นนายพลเข้ารับการฝึกหลักสูตรทหารคอแดง 2 รุ่น เพื่อเตรียมคนที่จะขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. และเดินหน้างานของ ฉก.ทม.รอ.904 ไว้มากกว่า 15 คน

จนทำให้สมการอำนาจกองทัพ เปลี่ยนผ่านจากสายวงศ์เทวัญ บูรพาพยัคฆ์ ทหารเสือราชินี และรบพิเศษ มาสู่ยุคทหารคอแดง ที่ ผบ.ทบ.จะต้องเป็นทหารคอแดง โดยมี พล.อ.อภิรัชต์เป็น ผบ.ทบ.คอแดงคนแรก ตามมาด้วยบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ที่ล้วนมาจากสายวงศ์เทวัญ เติบโตมาจาก พล.1 รอ.

การขยับ พล.ต.พนาให้เข้าฝึก และกลายเป็นทหารคอแดงจากสายวงศ์เทวัญอีกคน จึงถูกจับจ้องอย่างยิ่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

เพราะ พล.ต.พนาเป็นนายทหารชั้นนายพลคนแรกเพียงคนเดียวในรอบ 2 ปี ที่ได้เข้ารับการฝึกเฉพาะตัวเป็นรายบุคคล เพราะตั้งแต่มีโควิด และงดการฝึกหลักสูตรคอแดง รุ่นที่ 3 ก็ไม่มีการฝึกในส่วนของนายทหารจาก ทบ.หรือเหล่าทัพ

แต่ในส่วนของนายทหารที่ต่ำกว่านายพล ที่โอนย้ายจากเหล่าทัพมาอยู่ ทม.รอ. จะเข้ารับการฝึกกันตามปกติอยู่แล้ว และจะต้องเข้ารับการฝึกเพิ่มเป็น 6 เดือน

แม้สถานการณ์โควิดจะคลี่คลายลง แต่ก็ยังไม่มีรายงานข่าวว่าจะมีการเปิดการฝึกทหารคอแดง รุ่น 3 เมื่อใด หรือไม่ เนื่องจากกลายเป็นหลักสูตรที่ทหารอยากฝึก เพราะอยากเป็นทหารคอแดง ด้วยจะสามารถลงตำแหน่งสำคัญใน พล.1 รอ. และกองทัพภาคที่ 1 ได้

แต่เพราะเกิดความแปลกแยกขึ้นในกองทัพ ระหว่างทหารคอแดง และทหารคอเขียว หรือทหารปกติ ที่ไม่ได้ฝึกหลักสูตรคอแดง เพราะทหารคอแดงเท่านั้นที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. หรืออาจรวมทั้ง ผบ.ทหารสูงสุดได้ จึงทำให้มีการชะลอการฝึกหลักสูตรทหารคอแดงออกไป และใช้การฝึกเป็นรายบุคคลแทน

จึงทำให้ พล.ต.พนาถูกจับตามองอย่างมาก เมื่อได้เข้าฝึกหลักสูตรทหารคอแดง หรือหลักสูตรราชสวัสดิ์นี้ เป็นเวลา 3 เดือน

เพราะนี่เป็นสัญญาณสำคัญที่ชัดเจนของนายทหารที่ถูกเลือกแล้วว่าจะมาเป็นทหารคอแดง และจ่อลงตำแหน่งสำคัญในอนาคต

การแต่งตั้งโยกย้ายกันยายนนี้ คาดว่า พล.ต.พนาจะขึ้นมาเป็นพลโท ในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1 คนใหม่ เพื่อจ่อเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนต่อไปในโยกย้ายตุลาคม 2566

แม้จะมีกระแสข่าวสะพัดว่า สัญญาณอาจเปลี่ยน โดยจะให้ พล.ต.พนาฟาสต์แทร็ก อาจขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในการโยกย้ายกันยายน 2565 นี้เลย เพื่อจัดทัพภาคที่ 1 ให้เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ คือเตรียมทหาร 26-27-28

อีกทั้งเป็นจังหวะก่อนการโยกย้ายใหญ่ แถมทั้งแม่ทัพภาคที่ 1 จะทำหน้าที่เสนาธิการ ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย จึงยิ่งทำให้ พล.ต.พนาถูกมองว่า จะขยับพรวดขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย

เหมือนเมื่อครั้งที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์เป็น ผบ.พล.1 รอ.นั้น เส้นทางก็ถูกเปิดโล่ง ทุกคนหลบทางให้ ขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนขึ้น ผช.ผบ.ทบ. และเป็น ผบ.ทบ.คอแดงคนที่ 2

พล.ต.พนาจึงถูกมองข้ามช็อต ว่า จากแม่ทัพภาคที่ 1 ก็เตรียมเข้าไลน์ขึ้น 5 เสือ ทบ. ในโยกย้ายกันยายน 2566 และเตรียมเป็น ผบ.ทบ.ต่อจากบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.24) ผช.ผบ.ทบ. ที่คาดว่าจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ. และเกษียณกันยายน 2567 โดย พล.ต.พนาเกษียณ 2570

แต่อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย และเกิดรอยแผลขึ้น จนอาจเกิดปัญหาภายใน ทบ.ได้ จึงคาดกันว่า แม่ทัพหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่เป็น ตท.24 จะได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนตามไลน์ ส่วน พล.ต.พนาที่เป็น ตท.26 ขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 เพื่อจ่อขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 ไว้ก่อน

พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สะเทือนเลื่อนลั่นกองทัพบก เพราะแผนการจัดวางแม่ทัพนายกองคอแดง เปลี่ยนจากที่ พล.ท.ธราพงษ์มีชื่อในลิสต์แคนดิเดต ผบ.ทบ. เพราะเกษียณกันยายน 2569

แต่มาตอนนี้ ไม่ว่า พล.ท.ธราพงษ์จะได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 หรือไม่ก็ตาม ก็อาจจะไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. เพราะ พล.ต.พนามาแรงแซงโค้ง ที่อาจจะแซงทั้งโค้งมิสกวัน และโค้งราชดำเนิน เพราะไม่เช่นนั้น พล.ต.พนาจะได้เป็น ผบ.ทบ.แค่ปีเดียว

สำหรับ พล.ต.พนา นั้นเป็นแกนนำรุ่น ตท.26 ที่โปรไฟล์เลิศ เพราะสมัยเรียนเตรียมทหาร เป็นหัวหน้ากองพัน และเมื่อเรียน รร.นายร้อย จปร. รุ่น 37 ก็ได้เป็นหัวหน้านักเรียน

และเป็นลูกหม้อ เติบโตจากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ กรมกำลังรบหลักของ พล.1 รอ. ที่ลพบุรี และเป็นทหารหมวกแดงของ พล.1 รอ. ที่กลายเป็นหน่วยทหารคอแดงไปแล้ว เพราะอยู่ใน ฉก.ทม.รอ.904

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

พล.ต.พนา ถือว่ามาจากสายบู๊ สายคอมแมนเดอร์ จากหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF เป็นผู้พัน จนเป็นรอง ผบ.ร.31 รอ. แล้วขยับเป็นรองเสธ. พล.1 รอ. และเป็น ผบ.ร.31 รอ. ก่อนเป็นรอง ผบ.พล.ร.11 จนขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 กองพลรถเกราะสไตรเกอร์ ในยุคบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ก่อนขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 คนสุดท้อง เพราะเป็น ตท.26 ในหมู่รุ่นพี่ ตท.24

นอกจากอยู่ ร.31 รอ. มากับ พล.อ.ณรงค์พันธ์แล้ว พล.ต.พนายังสนิทสนมใกล้ชิดกับบิ๊กเนี้ยว พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน อดีต ผบ.พล.1 รอ. แกนนำ ตท.27 ที่ได้ถูกโอนย้ายไปเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ ที่กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.)

กล่าวกันว่า พล.ต.พนา คือนายทหารที่ถูกคัดเลือกมาเป็นผู้นำกองทัพแทน พล.ต.ทรงพล ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางรับราชการทหาร ทั้งๆ ที่ในขณะนั้น เป็นตัวเต็งแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.ทบ. ที่จะเป็นแม่ทัพนำรุ่น ตท.27 เลยทีเดียว

ครั้งนั้น ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับการแข่งขันกันระหว่างรุ่น ตท.27 และ ตท.28 ที่อายุไล่เลี่ยกัน และชิงตำแหน่งกันใน ทบ.

พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน

เป็นที่รู้กันดีว่า พล.ต.ทรงพลเป็นน้องรักในสายวงศ์เทวัญคอแดงของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่วางตัวให้เป็น ผบ.ทบ. และมีอายุราชการถึงกันยายน 2570 และต่อด้วยบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 รอ. ที่เติบโตมาจาก ร.11 รอ. กับ พล.อ.อภิรัชต์ และมีอายุราชการถึงกันยายน 2572

แต่ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ จนที่สุด พล.ต.พนา คือนายทหารที่ถูกเลือกแล้วว่ามีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพื่อมาแทน พล.ต.ทรงพลที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางเดิน ออกไปจาก ทบ.

ไม่แค่นั้น พล.ต.พนาเป็นลูกชายของ พล.อ.ปรีชา แคล้วปลอดทุกข์ อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ. ที่เป็น Westpointer จบจาก รร.นายร้อยทหารบก สหรัฐ หรือ West Point และเคยรับราชการในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และปัจจุบันยังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์เวรพิเศษ

พล.ต.พนาจึงถือเป็นวงศ์เทวัญคอแดงคนล่าสุดของ ทบ. ที่กำลังเดินมาบนเส้นทางอำนาจ

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์

แต่ทว่า ความเคลื่อนไหวนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวถึงความไม่แน่นอนของนายทหารที่จะมาเป็น ผบ.ทบ.คนต่อๆ ไป หรือแม้แต่ พล.อ.ณรงค์พันธ์เอง ที่เก้าอี้ไม่แข็งแรง จนเกิดกระแสข่าวลือการเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ.ในโยกย้ายกันยายน 2565 นี้

“ปีหน้าก็เกษียณแล้ว การโยกย้ายก็ยังไม่มีอะไร” พล.อ.ณรงค์พันธ์เรียบเฉย เมื่อกล่าวถึงกระแสข่าวย้าย ผบ.ทบ.

ขณะที่แผนการวางตัวแคนดิเดต ผบ.ทบ.คนต่อๆ ไปอาจมีเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน เพราะเมื่อเกิดกรณีของ พล.ต.พนา

จาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ (ตท.22 จปร.33) สายวงศ์เทวัญคอแดง เกษียณกันยายน 2566 ต่อด้วยบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทบ. (ตท.23 จปร.34) สาย 3 ป. ทหารเสือฯ คอแดง เกษียณกันยายน 2567 โดยมีแม่ทัพโต พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.23 จปร.34) เป็นตัวสอดแทรก

และต่อด้วย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24 จปร.35) ที่ตอนนี้ยังเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 อยู่ เป็นสาย 3 ป.บูรพาพยัคฆ์คอแดง เกษียณกันยายน 2569 และอาจโดนเปลี่ยนตัวได้

หากกระแสข่าวไปโฟกัสที่ พล.ต.พนา รองแม่ทัพภาคที่ 1 วงศ์เทวัญคนล่าสุด จาก ตท.26 จปร.37 ที่เกษียณ 2570 ที่อาจจะแซงขึ้นเสียบแม่ทัพภาคที่ 1 เลยหรือไม่

และต่อด้วยบิ๊กตั้ง พล.ต.ธวัชชัย ผบ.พล.11 (ตท.27 จปร.38) ที่เกษียณกันยายน 2572

พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง

ดังนั้น การขึ้นมาของ พล.ต.พนา จึงถูกมองว่าอาจไม่เป็นผลดีต่อการกระชับอำนาจ ทบ. ของเตรียมทหาร 28 ที่จ่อจะขยับขึ้นระดับผู้บัญชาการกองพลในการโยกย้ายปลายปีนี้

โดยเฉพาะแกนนำรุ่นอย่างบิ๊กไก่ พล.ต.วรยศ เหลืองสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. ที่คาดว่าโยกย้ายกันยายนนี้ จะขึ้นมาแชร์อำนาจกับ ตท.27 ในระดับรองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อครองอาวุโสไว้ก่อน โดย พล.ต.วรยศมีอายุราชการถึงกันยายน 2571 ดังนั้น ระหว่าง พล.ต.พนา กับ พล.ต.วรยศ ที่มีแบ๊กอัพคนละสาย จึงจะมีแค่คนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่ได้เป็น ผบ.ทบ.

เพราะหาก พล.ต.พนา ขึ้น ผบ.ทบ. ก็คาดกันว่า พล.ต.ธวัชชัยจะขึ้นมารับหน้าที่สำคัญต่อ แต่เมื่อถึงเวลานั้น การวัดพลังของ ตท.27 และ ตท.28 รวมทั้งกองหนุน ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

แม้การเมืองจะร้อนแรงแค่ไหน ความเคลื่อนไหวในกองทัพก็ร้อนระอุไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะการเมืองอยู่ในทุกหนแห่ง

พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ