‘อำนาจ’ สวนทาง ‘รุ่งเรือง’/เมนูข้อมูล นายดาต้า

เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

‘อำนาจ’ สวนทาง ‘รุ่งเรือง’

 

ทั้งๆ ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ชัดเจนเสียเหลือเกิน ชัดเจนอย่างยิ่งว่า 8 ปีภายใต้ผู้นำอย่าง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” การพัฒนาประเทศไม่เพียงไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย แต่ดูทุกสิ่งอย่าง ทุกมิติของความเป็นไป กลับมีแนวโน้มที่ถอยหลังหลุดวงโคจรของการพัฒนาของโลก

ความเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องการทำมาหากินของคนในประเทศเป็นไปอย่างรุนแรง คนรุ่นลูก รุ่นหลานดิ่งไปสู่ความสิ้นหวัง ขณะการศึกษาของประเทศไม่เหลืออะไรที่จะพอทำให้ฝันได้ถึงอนาคตที่สุดใส

ความเชื่อมั่นในตัวผู้นำแทบไม่มีกระแสให้ความรู้สึกของผู้คนสัมผัสได้

แต่ทั้งๆ ที่หมดสิ้นศรัทธทากันถึงเพียงนี้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ยังคงครองอำนาจในการควบคุมความเป็นไปของประเทศได้ โดยไม่ต้องรู้สึกยี่หระกับอะไรทั้งสิ้น

คำพูดที่บอกกล่าวกับคนทั่วไปและต่อตัวเองทุกครั้งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จะออกไปในทาง ตัวเองเป็นผู้เสียสละเข้ามาทำงานเพื่อประเทศอย่างทุ่มเท โดยมีผลงานของผู้นำในอดีตสร้างปัญหาสาหัสไว้ให้ต้องแก้อย่างยากลำบาก โทษภัยที่คนอื่นสร้างไว้ต่อประเทศชาตินั้น ทำให้ต้องเหน็ดเหนื่อย ทำให้บรรเทาเบาบางลง โดยที่มีหลายคนทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวาง แทนที่จะให้ความร่วมมือ

การพัฒนาประเทศระเนระนาดไปกับการยกตัวเหนือกว่า และเอาแต่โทษคนอื่น

แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง “อำนาจของผู้นำคนนี้” กลับแข็งแกร่งยิ่ง แทบไม่มีทางเลยที่ใครจะทำให้กระทบกระเทือนกระทั่งอยู่ต่อไม่ได้

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการพัฒนาประเทศในทุกด้าน “การควบคุมอำนาจ” ยังทำได้เข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลง

ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะต้องยอมรับการจำนนต่ออำนาจที่เปลี่ยนแปลงได้ยากนั้น

 

ผลสำรวจล่าสุดของ “นิด้าโพล” ที่ทำเรื่อง “ประชาชนมองอนาคตรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร”

ในคำถาม “จากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ท่านคิดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถอยู่จนครบเทอม 4 ปีในเดือนมีนาคม 2566 หรือไม่” คำตอบมากถึงร้อยละ 46.23 ตอบว่าอยู่ครบแน่นอน, มีร้อยละ 28.81 ตอบว่าอยู่ไม่ครบแน่นอน, ร้อยละ 24.96 ตอบว่าไม่แน่ใจ

ในคำถาม “หากเห็นว่าอยู่ไม่ครบ 4 ปี คิดว่าเพราะเหตุอะไร” คำตอบร้อยละ 45.58 เห็นว่าจะยุบสภา, ร้อยละ 32.68 เชื่อว่าจะพ้นตำแหน่งด้วยคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ, ร้อยละ 21.74 เห็นว่าจะลาออก

นั่นหมายถึง ไม่ว่าจะรู้สึกเช่นไรกับฝีมือการบริหารจัดการประเทศให้สู่การพัฒนาที่เหมาะสมอย่างไรก็ตาม แต่หากมองในมุมที่ของความเชื่อมั่นในฝีมือความสามารถในการรักษาอำนาจแล้ว คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าไม่มีใครที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในผู้นำได้

ความสามารถในการบริหารและรักษาอำนาจ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังเป็นกระบี่มือหนึ่งที่ไร้เทียมทานเสมอในความเชื่อของประชาชน

เสถียรภาพของ “รัฐบาลประยุทธ์” ยังแข็งแกร่งเสมอ ไม่ว่า “เสถียรภาพของประเทศจะแกว่งไกวแรงแค่ไหนก็ตาม”

ดูเหมือนประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญที่ “ดีไซน์มาเพื่อสืบทอดอำนาจ” จะไม่มีทางเลือกอื่น

แม้ความหวังจะอยู่ที่ “การบริหารอำนาจแข็งแกร่ง จะส่งผลให้การพัฒนาให้ประเทศสู่ความแข็งแกร่งด้วย”

แต่เมื่อความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง

“ความแข็งแกร่งของการบริหารอำนาจ” กลับส่งผลต่อการพัฒนาไปในทางที่ทำให้ “สิ้นหวัง” หนักขึ้นเรื่อยๆ

ที่สำคัญคือ “ไม่มีใครทำอะไรได้”