เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]

 

Devialet Dione

ที่สุดของลำโพงทีวีชิ้นเดียว

 

แม้เพิ่งจะเปิดตัวในยุทธจักรเครื่องเสียงกลุ่ม Hi-End มาได้ไม่ถึงสองทศวรรษ แต่ Franck Lebouchard, CEO ก็พาแบรนด์ Devialet ไปยืนอยู่แถวหน้าๆ ได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยมิเพียงภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งแอมปลิไฟเออร์ ลำโพง ตลอดจนอุปกรณ์พกพาอย่างชุดหูฟัง จะแลดูหรูเรียบตามสไตล์ปาริเซียงชั้นสูงเท่านั้น หากยังให้ประสิทธิภาพการทำงานอันโดดเด่นและนำมาซึ่งคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมยิ่งนักอีกด้วย

ทั้งยังได้รังสรรค์นานานวัตกรรมที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องของเสียงขึ้นมาอีกมากกว่ามาก ซึ่งได้จดสิทธิบัตรเอาไว้กว่า 200 รายการ กับคว้ารางวัลจากสถาบันต่างๆ มาแล้วเกือบหนึ่งร้อยรางวัล

นั้น, ย่อมยืนยันความเป็นเต้ยของแบรนด์ ‘เดอเวียเลต์’ นี้ได้เป็นอย่างดี

 

Devialet เข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้สักระยะแล้วล่ะครับ ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและใคร่นำมาพูดคุยด้วยเที่ยวนี้ก็คือซาวด์บาร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน กับสนนราคาเฉียดแสน (พอมีทอนประมาณสี่พันบาทครับ) รุ่น ‘ดิอ็อง’ ซึ่งเป็นลำโพงทีวีหรือซาวด์บาร์รุ่นแรกและมีเพียงรุ่นเดียวภายใต้ชื่อแบรนด์นี้

ที่ทางค่ายได้บอกว่า คือ The Ultimate All-in-One Soundbar อย่างแท้จริง

เพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้ลักษณะเสียงที่เป็นสามมิติอย่างสมบูรณ์ที่สุด ด้วยความสามารถในการรองรับฟอร์แม็ตเสียง Dolby Atmos ระบบ 5.1.2 ซึ่งมีถึง 8 แชนเนล ด้วยตัวมันเองที่เป็นลำโพงแบบชิ้นเดียวเท่านั้น แต่สามารถรังสรรค์ทิศทางเสียง และบรรยากาศเสียงรายรอบ ออกมาภายในห้องได้เสมือนมีลำโพงแยกเป็นอิสระถึงแปดตัวด้วยกัน

โครงสร้างภาพลักษณ์ของ Devialet Dione นั้นกระเดียดไปข้างทรงแบน แต่บาง และออกจะยาวซึ่งดูจะเหมาะกับทีวีขนาดจอภาพ 50 นิ้วขึ้นไป เมื่อนำไปใช้งานแบบตั้งวางใต้ทีวีจะให้ความรู้สึกว่าเพรียวบาง แต่หากประกอบเข้าผนังทำงานกับทีวีที่แขวนผนัง จะได้ความรู้สึกแบบว่าเป็นลำโพงที่แบนและบางแทน ซึ่งลักษณะการติดตั้งหรือวางวลำโพงในการใช้งานนั้น สามารถปรับทิศทางการทำงานของชุดตัวขับเสียงได้ เพื่อให้ได้คุณลักษณะเสียงที่ถูกต้อง สมบูรณ์ และสมจริงอย่างถึงที่สุด

แต่ไม่ว่าจะรู้สึกเช่นไรกับโครงสร้างภาพลักษณ์ที่เห็นจากการติดตั้งที่แตกต่างกันก็ตาม ภายในมันบรรจุเอาไว้ด้วยนานาเทคโนโลยีแบบอัดแน่น ‘จัดเต็ม’ จริงๆ ด้วยเฉพาะตัวขับเสียงก็ปาเข้าไปถึง 17 ตัวนั่นเทียว

โดยแต่ละตัวทำงานเป็นอิสระ ด้วยคุณสมบัติระดับ Hi-End Driver ขึ้นรูปกรวยด้วยอะลูมิเนียม ให้ภาพรวมของเสียงด้วยความกระจ่างใสราวประกายจากคริสตัลชั้นเลิศ เสียงกลางที่มีน้ำมีนวล ชัดเจน และเปิดกว้าง เสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลัง

เป็นน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยไดนามิก อุดมด้วยรายละเอียด และสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน โดยที่มิพักต้องมีอุปกรณ์อื่นใดเข้ามาเสริมอีก

ตัวขับเสียงที่โดดเด่นที่สุดก็คือ ORB Speaker ที่เห็นเป็นลูกกลมๆ คล้ายลูกกอล์ฟที่กึ่งกลางแผงหน้านั่นแหละครับ เป็นชุดตัวขับเสียงที่เสมือนทำหน้าที่ให้กับ Center Channel โดยเฉพาะ แต่ในการทำงานจริงนั้นมันทำงานแบบ Full-Range ที่ผนวก Passive Radiator สองแผงด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีชุดตัวขับเสียงที่ทำงานแบบเดียวกัน คือขับตลอดย่านความถี่เสียงอีก 8 ชุด ติดตั้งอยู่ตอนปลายด้านซ้ายและขวาของลำโพงตัวกลาง ข้างละสี่ตัว โดยติดตั้งในลักษณะยิงเสียงออกด้านหนึ่งตัว ยิงเสียงออกด้านข้างหนึ่งตัว และยิงเสียงขึ้นด้านบนสองตัว

และที่ขนาบ ORB Speaker แต่ละด้านซ้าย/ขวา ยังมีชุดตัวขับเสียงที่ทำงานให้เสียงย่านความถี่ต่ำพิเศษ หรือ LFE: Low Frequency Effect แบบ High-Excursion Sub-Woofer ที่มีแอมป์ขับเฉพาะแบบตัวต่อตัว ในลักษณะของ Powered Sub-Woofer ซึ่งเป็นแบบ SAM : Smart Active Monitoring อีกด้านละสี่ตัว โดยติดตั้งให้ยิงเสียงออกทางด้านหน้าและด้านหลังด้านละสองตัว รวมทั้งหมดเป็น 8 ชุดเช่นเดียวกัน

ชุดลำโพงทั้งหมดให้การทำงานสอดประสานกันตั้งแต่ย่านความถี่ต่ำสุด คือ 24Hz ไปจนถึงย่านความถี่สูงตอนปลายที่ 21kHz ด้วยความกลมกลืนต่อเนื่องเป็นเนื้อเสียงเดียวกันอย่างสมบูรณ์

นอกจากมีชุดตัวขับเสียงอันน่าทึ่งที่ผ่านการออกแบบ รวมทั้งการคิดคำนวณตำแหน่งติดตั้ง มาอย่างประณีตพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานแล้ว ‘เดอเวียเลต์ ดิอ็อง’ ยังได้ผนวกเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะเอาไว้เพื่อให้การรังสรรค์เสียงในรูปแบบของ Home Cinema Sound ออกมาด้วยความสุนทรีย์ ที่ให้อรรถรสอย่างเหนือชั้นกว่า ไม่ว่าคุณจะชมภาพยนตร์จากแผ่นโดยตรง หรือจากผู้ให้บริการเพื่อการนี้ อาทิ Netflix, Prime Video, Disney+ หรือรับชมจาก Apple TV+ ก็ตาม

โดยเทคโนโลยีที่มีบรรจุเอาไว้ประกอบไปด้วย SPACE ที่ช่วยขยายสัญญาณเสียงจากโมโน หรือสเตอริโอ ให้เป็นสัญญาณเสียงในรูปแบบมัลติ-แชนเนล ซึ่งช่วยเพิ่มมิติเสียงให้ครอบคลุมพื้นที่ด้วยบรรยากาศรายรอบ เป็นการให้อรรถรสและทิศทางเสียงที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งยังให้เลือกรูปแบบลักษณะเสียงได้ 4-Mode เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่กำลังชมมากที่สุด ประกอบไปด้วย

Movie Mode สำหรับชมภาพยนตร์ หากต้นฉบับของสัญญาณที่ป้อนเข้ามาเป็นโมโน หรือสเตอริโอ จะมีการเพิ่มช่องสัญญาณเสียงให้เป็นแบบรอบทิศทาง

Spatial Mode เหมาะสำหรับเปิดใช้เวลาฟังเพลงทั่วๆ ไป เพราะจะให้พื้นที่บรรยากาศรายรอบกว้างขึ้น

Voice Mode เน้นเสียงพูด สนทนา เหมาะสำหรับการฟังและชมข่าวทางโทรทัศน์ หรือการฟังรายการจาก Podcast

Music Mode สำหรับใช้ฟังเพลงแบบออดิโอไฟล์ เพราะให้มาตรฐานเสียงระบบสเตอริโอที่สมบูรณ์ ตัดการ Up-Scale เสียงต่างๆ ออกไป ให้อรรถรสของเสียงดนตรีที่มีความสมจริงในความหมายของ High Fidelity มากยิ่งขึ้น

 

เทคโนโลยี Adaptive Volume Level หรือ AVL ซึ่งเป็นอีควอไลเซอร์แบบไดนามิก ทำหน้าที่ปรับเสียงให้มีความสมดุล และสอดคล้องกับเนื้อหาแบบ Real-Time ช่วยให้ได้สนามเสียงที่กว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น และมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มอรรถรสให้ได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินมากกว่าที่เคย

และอีกเทคโนโลยีที่ผนวกไว้คือ Advanced Dimensional Experience หรือ ADE ที่เป็นระบบประมวลผล พร้อมจำลองเสียงให้มีความเป็น 3 มิติ ด้วยการใช้ดิจิตอล ฟิลเตอร์ ขั้นสูงที่ได้รังสรรค์ลำโพงเสมือนขึ้นมา ณ ตำแหน่งต่างๆ ภายในห้อง ทำให้เกิดบรรยากาศเสียงรายรอบเหมือนมีลำโพงจริงติดตั้งไว้รอบห้อง

Devialet Dione รองรับการเชื่อมต่อแบบมาตรฐานครบถ้วน ทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยมาพร้อมพอร์ต HDMI ทั้งแบบ ARC และ eARC w/CEC : Consumer Electronic Control, Optical, LAN รองรับ Wi-Fi 5GHz และ Bluetooth 5.0 พร้อมรองรับการทำงานโดยตรงจาก AirPlay 2, Spotify Connect รวมทั้งอุปกรณ์ UPnP : Universal Plug & Play อีกด้วย

คุณสมบัติด้านเทคนิคอื่นๆ ระบุว่าภาคขยายเสียงให้กำลังขับรวม 950Wrms ให้ระดับความดังสูงสุดที่ 101dB/SPL รองรับการทำงานกับไฟล์เสียงความละเอียดสูง (Hi-Res Audio) ถึงระดับ 96kHz/24-bit ให้การทำงานตอบสนองความถี่ในช่วง 24Hz-21kHz

ครับ, ทั้งหมดนั้นคือรายละเอียดพอเป็นสังเขปของซาวด์บาร์ที่ว่ากันว่าเป็นที่สุดแล้วของวันนี้

ซึ่งกับสุ้มเสียงที่ได้สัมผัสผ่านมาก็ต้องยอมรับล่ะครับ ว่าของเค้า ‘เยี่ยม’ จริง •

 

ชมตัวอย่าง Devialet Dione ได้ที่นี่