วัชระ แวววุฒินันท์ : ควันหลงริโอเกมส์

วัชระ แวววุฒินันท์

ผ่านพ้นไปแล้วกับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ ที่ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็ม กับการชิงชัยจากนักกีฬา 207 ประเทศ 28 ชนิดกีฬา

ผลของการล่าเหรียญรางวัลของประเทศไทย ก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว คือ ตองสอง หรือ 2 ทอง 2 เงิน และ 2 ทองแดงนั่นเอง ใครเอาไปซื้อหวยงวดนี้อาจมีลุ้น

ผลงานรวมทั้งหมด 6 เหรียญ ซึ่งถือว่ามากกว่าครั้งที่แล้วที่ลอนดอนเกมส์ ครั้งนั้นไทยเราทำได้รวม 3 เหรียญ คือ 2 เงิน 1 ทองแดง

จำนวน 6 เหรียญที่ว่านี้มาจาก 2 ชนิดกีฬาเท่านั้น คือ ยกน้ำหนักและเทควันโด ส่วนขาประจำอย่างมวยสากลนั้นปีนี้ไม่สามารถคว้ามาได้สักเหรียญเดียว

ในจำนวน 6 เหรียญที่ได้นั้นก็มีการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยด้วย คือ เป็นครั้งแรกในกีฬาโอลิมปิก ที่ยกน้ำหนักชาย และเทควันโดชายของเรามีโอกาสคว้าเหรียญมาครอง เพราะที่ผ่านมาเราได้แต่ Lady first เท่านั้น

และเป็นครั้งแรกของการเชิญธงชาติของผู้ได้รับรางวัลขึ้นสู่ยอดเสา ที่มีธงไตรรงค์ของไทยขึ้นเคียงกันในตำแหน่งเหรียญทองและเหรียญเงิน จากกีฬายกน้ำหนักที่น้องฝ้ายได้เหรียญทอง และน้องแต้วได้เหรียญเงิน

ช็อตนี้ของการถ่ายทอด หลายคนบอกว่าดูแล้วมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความปลื้มปีติ และนึกขอบคุณนักกีฬาที่ทำให้เขามีความสุขแบบเต็มตื้นเช่นนี้

ส่วนที่เป็นข่าวคราวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกกีฬา คือ การตัดสินของกีฬามวยสากล ที่ค้านสายตาผู้ชมจนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา

นั่นคือการชกของรุ่น 52 กิโลกรัม ที่นักชกไทย ฉัตร์ชัย บุตรดี ต่อยกับนักมวยรัสเซีย และทำได้ดีกว่า แต่ก็ถูกตัดสินให้แพ้แบบค้านสายตาคนทั่วโลก และนักมวยรัสเซียคนเดียวกันนี้ ไปต่อยต่อกับนักชกจากไอร์แลนด์ ก็โดนยำเละยิ่งกว่าเก่าจนหน้าแตกยับ แต่ผลก็เป็นอย่างที่รู้คือ นักมวยไอร์แลนด์แพ้

ข่าวว่าแกโมโหขนาดแจก “กล้วย” บนเวทีกันเลย

คราวนี้โลกโซเชียลก็ยิ่งพากันกระหน่ำซ้ำซ้อนไปอีก มีดราม่าขนาดหนูน้อยของไอร์แลนด์ส่งจดหมายชื่นชมมาถึงนักมวยคนนี้ บอกว่าเขาเป็นฮีโร่ และมอบเหรียญทองที่หนูน้อยได้มาจากการแข่งกีฬาที่โรงเรียนมาให้เป็นการปลอบใจ

ช่างตบหน้าไอบ้าแบบไร้เดียงสาได้สะใจดีเหลือเกิน

สุดท้ายคณะกรรมการไอบ้าทนหน้าด้านไม่ไหว ส่งกรรมการที่ตัดสินผลคู่นี้กลับประเทศ

ตามด้วยนักมวยรัสเซียก็ขอยุติการแข่ง ให้เหตุผลว่าหน้าตาบอบช้ำเกินไปจะแข่งต่อไหว ไม่รู้ว่าจริงๆ เพราะรู้สึกอายรึเปล่า

จากเรื่องชวนยี้ ก็มาถึงเรื่องชวนยิ้มบ้าง

ยิ้มให้กับมิตรภาพและสปิริตนักกีฬา

aHR0cDovL3BlMS5zMXNmLmNvbS9zcC8wL3VkLzUyLzI2MTMxNy9wMi5qcGc=

นั่นคือเหตุการณ์จากการวิ่งแข่ง 5,000 เมตรรอบคัดเลือก ที่เกิดมีการสะดุดกันของสองสาวนักวิ่ง จน นิกกี้ แฮมบลิน สาวนักวิ่งจากนิวซีแลนด์ล้มลง แต่สาวนักวิ่งชาวอเมริกันชื่อ แอบบี้ ดากอสติโน่ กลับมาช่วยเธอให้ลุกขึ้นวิ่งต่อ

ครั้นวิ่งไปได้สักครู่ปรากฏว่า แอบบี้เกิดเจ็บหัวเข่าทรุดลง คราวนี้นิกกี้เป็นฝ่ายมาช่วยเธอบ้าง แอบบี้บอกให้เธอวิ่งต่อไปเถอะ แต่นิกกี้ไม่สนใจกับการแข่งขัน กลับช่วยประคองให้แอบบี้ลุกขึ้น และสองคนก็วิ่งเคียงกันจนเข้าเส้นชัยไปด้วยกันเป็น 2 คนสุดท้าย

นี่คือสปิริตที่ยอดเยี่ยมของความเป็นนักกีฬา การแสดงออกด้วยน้ำใจของนักกีฬาของทั้งคู่ได้รับความชื่นชมจากทั่วโลก จนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้มอบรางวัล “อินเตอร์เนชั่นแนล แฟร์เพลย์ อวอร์ดส์” ให้แก่ นิกกี้ แฮมบลิน สาวนักวิ่งนิวซีแลนด์คนนั้น ซึ่งมีคนเคยได้รับไปแค่ 17 คนเท่านั้น

นิกกี้บอกว่า ตอนที่ตนเองล้มแล้วแอบบี้มาช่วย เธอตบบ่าและบอกว่า “ลุกขึ้นเถอะ นี่คือโอลิมปิกนะ” เธอรู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจเธอได้ดีเหลือเกิน

ใช่ นี่คือกีฬาโอลิมปิก สุดยอดมหกรรมกีฬาที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของนักกีฬาทุกคน แค่ได้มาร่วมแข่งขันก็ถือว่าสุดยอดแล้ว และถ้ายิ่งได้เหรียญรางวัลกลับไปก็ยิ่งยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

ความสำคัญนี้คงสะท้อนได้จากการที่นักตบสาวลูกยางชาวไทยถึงกับต้องเสียน้ำตากันทั้งทีมมาแล้ว เพราะอกหักแบบไม่น่าหักกับการพลาดหวังเข้ารอบสุดท้าย อดเข้าร่วมแข่งขันในโอลิมปิกถึง 2 ครั้งซ้อน

เป็นความขมขื่นในช่วงเวลา 8 ปีเลยนะ

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของนักกีฬาไทยหลายๆ คน แม้จะไม่สมหวังแต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกของการทำตามความฝันกับโอลิมปิกครั้งต่อไปที่ประเทศญี่ปุ่น หลายคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์กลับไปพร้อมความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้สำเร็จมากขึ้น

ในขณะที่หลายคนก็ขออำลาโอลิมปิกไป เพราะได้มีโอกาสร่วมแข่งมาหลายครั้งแล้ว อิ่มตัวแล้ว ประกอบกับสภาพร่างกายที่เริ่มมีความพร้อมน้อยลง อย่าง นักแบด “บุญศักดิ์ พลสนะ” หรือนักกอล์ฟ “ธงชัย ใจดี”

มาถึงเรื่องสรุปผลเหรียญรางวัล เป็นอเมริกาที่เป็นเจ้าเหรียญทองตามคาดด้วยจำนวน 46 เหรียญ ที่น่าแปลกใจคือ สหราชอาณาจักรที่ได้ตำแหน่งรองกับจำนวนเหรียญทอง 27 ชนะจีนไปแค่เหรียญเดียว

ส่วนรัสเซียที่นักกีฬาถูกห้ามแข่งในหลายประเภท ก็ได้ที่ 4 ทำไปได้ 19 เหรียญ

ประเทศไทยจบที่อันดับ 35 ด้วย 2-2-2 มีประเทศในเอเชียที่มีอันดับเหนือกว่าเรามีอยู่ 7 ประเทศเรียงตามลำดับเหรียญก็คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนืออยู่เหนือเราอันดับเดียวด้วยจำนวนเหรียญคือ 2-3-2

สำหรับในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน เรามาเป็นอันดับ 1 รองลงมาคืออินโดนีเซียในอันดับที่ 46 ด้วยจำนวนเหรียญ 1-2-0 ตามด้วย เวียดนามอันดับ 49 จำนวนเหรียญ 1-1-0 ที่สี่คือสิงคโปร์ในอันดับ 57 กับจำนวนเหรียญ 1-0-0 ซึ่งก็มาจากหนุ่มนักว่ายน้ำชื่อดังคนนั้น “โจเซฟ สคูลลิ่ง” ที่มีเรื่องน่าประทับใจกับฮีโร่ของเขา ไมเคิล เฟลป์ส

ส่วนมาเลเซียอยู่ที่อันดับ 60 กับจำนวนเหรียญ 0-4-1 ส่วนประเทศที่เหลือไม่ได้เลยสักเหรียญเดียว แต่ก็เป็นความภูมิใจที่ได้เข้าร่วม

จากนี้ไปก็กลับมาเข้มข้นเตรียมการแข่งขันกันต่อกับกีฬาซีเกมส์ในปีหน้าที่มาเลเซีย และเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 ในปี 2019 ที่ประเทศอินโดนีเซียที่รับเป็นเจ้าภาพแทนเวียดนามซึ่งขอถอนตัวไป

สุดท้ายนี้ขอชื่นชมนักกีฬาไทย และเหล่าโค้ช ผู้ฝึกสอน ทีมงานเบื้องหลัง สโมสรแต่ละชนิด รวมทั้งครอบครัวของพวกเขาและเธอที่ได้เสียสละร่วมกันสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศเช่นนี้

ไปเชียร์และลุ้นกันต่อที่โตเกียวเกมส์ ในปี 2020 ครับ