ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 มิถุนายน 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | เปิดหู |
ผู้เขียน | อัษฎา อาทรไผท |
เผยแพร่ |
วันนี้ผมได้ไปรับประทานอาหารกลางวันกับญาติผู้พี่ ที่เดินทางกลับมาจากอเมริกาเพื่อมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมคุณป้าอันเป็นที่รักของเรา ทุกครั้งที่พี่ท่านนี้กลับมา ถ้าผมไม่ลืมก็มักจะฝากให้นำของที่หาได้ลำบากในเมืองไทยกลับมาให้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่นอกจากจะได้ของที่ผมรีเควสไปแล้ว พาร์ทเนอร์ของพี่เขายังได้มอบของขวัญพิเศษให้ผมด้วย
เจ้าของขวัญพิเศษนี้เอง ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจมาเขียนเรื่องนี้ มันเป็นของขวัญที่คนให้ใช้เวลายาวนานกว่าสิบปีสร้างมันขึ้นมา และเป็นสิ่งล้ำค่ามาก ๆ เพราะมันคือฮาร์ดดิสก์ขนาด 3 TB ที่บรรจุผลงานเพลงทุกสไตล์ จากนานาศิลปินเอาไว้มากมายถึงกว่า 20,000 อัลบั้ม
ผู้ให้เล่าอย่างภาคภูมิใจถึงการไปเสาะแสวงหาเพลงหายากต่าง ๆ ตามห้องสมุดบ้าง หรือตามแหล่งดนตรีต่าง ๆ บ้าง เพื่อมาแปลงเป็นไฟล์บรรจุอยู่ในฮาร์ดดิสก์นี้ โดยตัวจริงยังเก็บรักษาอยู่ที่อเมริกาอย่างดี และอันที่นำมามอบให้ผม คือตัวแบ๊คอัพ ที่เขาเลือกให้ผมเป็นผู้เก็บรักษา เพราะเห็นว่าเป็นคนบ้าเพลงคนหนึ่ง ผมรับไว้ด้วยความยินดี และดีใจที่เขามอบของรักให้
ลืมบอกไปว่าพี่ผมและพาร์ทเนอร์อายุเกือบ 60 ปีแล้ว เขาผ่านยุคทองของแผ่นเสียง เทป ซีดี มาถึงยุคมืดที่ประเดิมด้วยเอ็มพีสาม จนมาถึงวันที่เพลงหาฟังได้ง่าย ๆ ทางสตรีมมิ่ง ทว่าพี่ผมน่าจะหยุดอยู่แค่ยุคเอ็มพีสาม เพราะหากเขาเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่ามิวสิคสตรีมมิ่ง ที่เราสามารถเลือกฟังเพลงนับล้านได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส สมบัติแห่งคลังเพลงล้ำค่าหายากของเขา ก็จะกลายเป็นเพียงผลไม้ริมทาง ที่ใคร ๆ ก็หยิบมาชิมได้ง่าย ๆ ไม่ชอบก็โยนทิ้ง แล้วเด็ดผลใหม่มาลิ้มลอง อย่างไม่ค่อยรู้คุณค่า เสมือนพฤติกรรมการฟังเพลงในยุคนี้
ผมเองนับว่ายังโชคดีอยู่เหมือนกัน ที่ยังตามทันเทคโนโลยีการฟังเพลงในปัจจุบันนี้ สมัยก่อนผมก็มีฮาร์ดดิสก์บรรจุเพลงไว้เพียบ แต่ได้เลิกใช้ไปแล้ว เพราะผมได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นฟังเพลงเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือถึง 3 แอพพลิเคชั่นด้วยกัน นั่นคือ JOOX เอาไว้ฟังเพลงไทยเป็นหลัก Spotify เอาไว้ฟังเพลงสากล และเพลงที่เขาเลือกให้ฟังตามสไตล์การฟังเพลงของผม และสุดท้าย Apple Music ที่ผมมีไว้สำรอง เผื่อเพลงที่หาจะไม่มีที่อื่น นี่ยังมีอีกหลายแอพนะครับ แต่คงไม่ต้องลงทั้งหมด แค่นี้น่าจะครอบคลุมระดับหนึ่งแล้ว
ผมไม่แน่ใจว่าท่านที่อ่านจะมีท่านที่ไม่คุ้นกับมิวสิคสตรีมมิ่งไหม หากท่านไม่คุ้น ผมขอเล่าคร่าว ๆ ว่า นี่คือวิธีฟังเพลงที่เราไม่ต้องครอบครองเพลงใด ๆ เลย แต่เขาจะมีเพลงมากมายก่ายกองอยู่ในคลาวด์ ถ้าเราอยากฟังเพลงไหนก็ค้นหา เจอแล้วเปิดฟังได้เลย นอกจากจากเลือกฟังอะไรก็ได้แล้ว เมื่อฟังบ่อย ๆ ระบบจะเข้าใจรสนิยมเรา แล้วเลือกเพลงที่เราน่าจะชอบมาให้ฟังด้วย นับเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เพราะมันทำให้ผมได้ค้นพบเพลงใหม่ ๆ ที่ถูกใจมากมาย ค่าใช้จ่ายก็แสนถูก บางอันเช่น JOOX นี่ฟังฟรีเลย ( แต่ถ้าไม่อยากฟังโฆษณาก็จ่ายรายเดือนได้ )
สมัยก่อนผมหมดเวลาชีวิตไปกับการขลุกอยู่ในร้านแผ่นเสียง เทป ซีดี เพื่อค้นหาเพลงที่ชอบมาฟัง พร้อม ๆ กับการพยายามค้นพบเพลงใหม่ ๆ ที่ถูกใจ บางครั้งก็ไม่ได้ฟัง แต่เลือกเอาจากภาพบนปกที่ถูกใจ ซึ่งหลายทีเพลงข้างในก็ไม่โดนใจเหมือนปก แต่นั่นคือบรรยากาศการแสวงหาเพลงที่ผมรัก การค่อย ๆ ละเลียดหาเพลงฟัง ลองฟังเพลงใหม่ ๆ บ้าง เก่า ๆ บ้าง ช่างเป็นช่วงเวลาที่สุนทรีย์เหลือเกิน ยิ่งเจอคนขายผู้รอบรู้แนะนำ ยิ่งเพิ่มอรรถรสดนตรีเข้าไปอีก
ทุกวันนี้ร้านขายแผ่นเสียง เทป ซีดี แทบจะไม่มีแล้ว ศิลปินเองก็ไม่ได้ออกผลงานทางสื่อที่จับต้องได้กันแล้ว ( นอกจากคนที่ดังมาก ๆ ก็อาจจะมีการออก เทป หรือ แผ่นเสียงมาให้แฟน ๆ สะสมกันจำนวนไม่มาก ) ทำให้ร้านขายเพลงต่าง ๆ พากันปิดกิจการกันหมด ทำให้ร้านแนวนี้ที่ใหญ่ ๆ หายากมาก ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่า วันหนึ่งกิจกรรมที่รอคอยเวลาไปญี่ปุ่นของผม คือการเข้าร้านขายเพลงอย่าง Tower Records ที่ยังให้อารมณ์แบบยุครุ่งเรืองของร้านแผ่นเสียง ซีดี อยู่ ต้องขอบคุณคนญี่ปุ่น ที่ยังรักที่จะฟังเพลงจากสื่อที่สัมผัสได้กัน
เมื่อต้องปรับตัวตามสภาวะปัจจุบัน ผมก็มีความสุขกับการเลือกหาเพลงฟังผ่านแอพบนหน้าจอมือถือ ยอมรับว่ามันทำให้การหาเพลงมาฟังทำได้ง่ายมาก ๆ ประหยัดมาก ๆ และสำหรับผม คนที่ไม่ได้หูทิพย์อะไรนัก คุณภาพเสียงก็ถือว่าโอเคมาก ๆ ขาดอย่างเดียวคือบรรยากาศระหว่างการหาเพลงมาเสพย์แบบเดิม ๆ ที่ผมคิดถึง
เมื่อพาร์ทเนอร์ของพี่ผมเอาคลังเพลงอันล้ำค่า ที่เขาใช้เวลาสะสมมาเนิ่นนานมาให้ ผมรู้สึกได้ทันทีถึงความสนุก ความตื่นเต้นของเขา การได้มาของแต่ละอัลบั้มล้วนมีเรื่องเล่า มีที่มาที่ไป เป็นความทรงจำที่ดี ที่น่าเสียดายที่คนฟังเพลงรุ่นใหม่ จะไม่ได้สัมผัสมันแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้เพียงคิดอยากจะฟัง ใช้นิ้วตวัดไม่กี่ที ก็ได้ฟังแล้ว แน่นอนว่าถ้าไม่ชอบก็ใช้นิ้วเขี่ยออกไปง่าย ๆ เช่นกัน ซึ่งบอกตามตรงว่าผมเองก็ทำแบบนั้นเช่นกัน แต่อย่างน้อยผมก็โชคดี ที่เคยชิมรสชาติการหาเพลงฟังแบบยุคก่อนมาแล้ว มันอร่อยจริง ๆ ครับ
ท้ายที่สุดผมเลือกที่จะไม่คุยกับเจ้าของฮาร์ดดิสก์ ถึงการมีตัวตนของมิวสิคสตรีมมิ่ง เพราะถ้าไม่มีมัน คลังเพลงนี้จะยังเป็นสุดยอดแห่งมหาสมบัติทางเสียงเพลงเหมือนที่มันเคยเป็นในยุคก่อน ยุคที่ค่าของเพลงแต่ละเพลงมันสูงกว่านี้นัก ผมอยากให้เขารู้สึกแบบนั้นต่อไป เพราะมันดีต่อใจคนรักเพลงนักครับ